วิธีป้องกัน “แมว” ไม่ให้มุดเข้าไปในห้องเครื่องยนต์

     เชื่อว่าคนใช้รถจำนวนไม่น้อยเคยพบเจอปัญหาเจ้าแมวเหมียว แอบมุดเข้าไปอาศัยอยู่ในห้องเครื่องยนต์ หรือบริเวณซอกหลืบต่างๆ ของตัวรถ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศเย็นเช่นนี้ ยิ่งเพิ่มโอกาสให้สัตว์เลี้ยง (และสัตว์ที่ไม่ได้เลี้ยง) แอบเข้าไปหาพื้นที่อบอุ่นเพื่อป้องกันตัวเองจากอากาศหนาว แล้วแบบนี้จะมีวิธีป้องกันอย่างไรได้บ้าง Sanook Auto จะพาไปหาคำตอบกัน

     ปัญหาสัตว์เลี้ยงแอบเข้าไปอยู่ในห้องเครื่องยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกแมวที่อยู่ในวัยกำลังซุกซนนั้น ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุรุนแรงได้ ยกตัวอย่างเช่น หากสัตว์เลี้ยงเกิดเข้าไปติดอยู่กับสายพานเครื่องยนต์ที่กำลังหมุนอย่างรวดเร็วและรุนแรง นอกจากจะก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวสัตว์เองแล้วนั้น ยังอาจก่อให้เกิดปัญหากับเครื่องยนต์ถึงขั้นต้องหยุดรถกลางทางได้ ซึ่งกรณีเช่นนี้เคยเกิดขึ้นจริงมานักต่อนักแล้ว

     อีกหนึ่งกรณีที่พบได้บ่อย คือ สัตว์เลี้ยงแอบปีนป่ายเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณช่วงล่างของรถ เมื่อรถเคลื่อนที่ออกถนนใหญ่ แรงสั่นสะเทือนก็ส่งผลให้สัตว์ตกลงพื้นถนนโดยที่ผู้ขับขี่ไม่รู้ตัว และอาจถูกรถที่ตามหลังมาเหยียบทับได้ หรือหากผู้ขับขี่ที่อยู่ด้านหลังพยายามหักหลบพวงมาลัยอย่างรวดเร็ว ก็อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน

เข้าใจธรรมชาติของแมวในแต่ละฤดูกาล

     แม้ว่าฤดูหนาวของประเทศไทยแทบจะไม่เคยหนาวจริงๆ เสียที แต่ในพื้นที่ที่มีอากาศเย็นเป็นพิเศษอย่างภาคเหนือ อาจพบปัญหาแมวเลี้ยงและแมวจรพยายามหาพื้นที่เพื่อซ่อนตัวจากอากาศเย็น ซึ่งตามสัญชาตญาณพวกมันมักจะเลือกจุดที่ค่อนข้างมืดและแคบพอดีตัว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ห้องเครื่องยนต์ในรถจะกลายเป็นจุดซ่อนตัวที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าสี่ขาเหล่านี้ ยิ่งถ้ารถเพิ่งจอดทิ้งไว้ได้ไม่นาน ยังพอมีความอุ่นเหลืออยู่แล้วล่ะก็ พวกมันจะมองว่าเป็นที่หลบหนาวชั้นดีเชียวล่ะ

     ส่วนฤดูฝนก็เป็นช่วงฤดูที่เอื้อให้แมวและสัตว์อื่นๆ แอบเข้าไปอยู่ในห้องเครื่องยนต์ได้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะแมวที่ไม่ชอบน้ำเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนั้น พวกมันก็ยิ่งพยายามหาจุดที่แห้งและอบอุ่นในการพักอาศัย ดังนั้นเจ้าของรถจึงควรระมัดระวังช่วง 2 ฤดูนี้เป็นพิเศษ

เจ้าของรถจะทำอย่างไรได้บ้าง?

     สมาพันธ์ยานยนต์แห่งญี่ปุ่น (JAF - Japan Automobile Federation) เปิดเผยว่าปัญหาแมวเข้าไปอยู่ในห้องเครื่องยนต์เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี โดยผู้ขับขี่สามารถป้องกันและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ดังนี้

• ก่อนขึ้นรถทุกครั้งให้ใช้ฝ่ามือทุบฝากระโปรงหน้าเพื่อให้เกิดเสียงดัง 2-3 ครั้ง
• บีบแตรสั้นๆ ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์
• ใช้สเปรย์หรือน้ำยาที่ช่วยป้องกันไม่ให้แมวและสัตว์เลี้ยงเข้าใกล้ตัวรถ
• เดินตรวจสอบพื้นที่รอบๆ ก่อนขึ้นรถทุกครั้ง

     เหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่พอกระทำได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดฝากระโปรงหน้าทุกครั้งก่อนขึ้นรถ แม้ว่าวิธีดังกล่าวอาจไม่ได้ผล 100% แต่ก็อาจช่วยให้แมวส่วนใหญ่เตลิดหนีไปก่อนที่จะได้รับอันตรายจากเครื่องยนต์ได้