กรม ขนส่งฯ กำหนดให้รถที่จดทะเบียนใหม่ ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยที่ เบาะหลัง

นายเฉลิมไท ญาณภิรัต รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก มีนโยบายลดความสูญเสียชีวิตและการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนน จึงได้ปรับปรุงระเบียบเกี่ยวกับการติดตั้ง เข็มขัดนิรภัยในรถยนต์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร โดยกำหนดให้รถยนต์ที่จดทะเบียนตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นไป จะต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบรัดหน้าตักและรั้งพาดไหล่ (Three-point belt) ในตำแหน่งที่นั่งผู้โดยสารตอนที่ 2 ด้านริมสุดทั้ง 2 ด้าน เพื่อลดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการกระแทกกับตัวรถหรือเบาะด้านหน้า

 

นายเฉลิมไท กล่าวเพิ่มเติมว่า แต่เดิมกรมการขนส่งทางบก กำหนดให้รถยนต์จะต้องติดตั้ง เข็มขัดนิรภัยแบบรัดหน้าตักและรั้งพาดไหล่ (Three-point belt) ในตำแหน่งที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าด้านริมสุด โดยที่นั่งระหว่างกลางให้ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบรัดหน้าตัก (Lap belt) โดยไม่ได้กำหนดให้ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยสำหรับที่นั่งตอนหลัง เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุหรือเบรกกะทันหันจะทำให้ศีรษะหรือร่างกายของผู้โดยสาร ที่นั่งอยู่เบาะด้านหลังกระแทกกับเบาะด้านหน้า หรือหลุดกระเด็นออกจากตัวรถจนเกิดอันตรายร้ายแรง

          ดังนั้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร กรมการขน ส่งทางบก จึงได้ปรับปรุงระเบียบดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลให้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นไป รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง) รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน (รถแท็กซี่) รถยนต์บริการ และรถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด ที่จะนำมาจดทะเบียนใหม่  จะต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบรัดหน้าตักและรั้งพาดไหล่ (Three-point belt) ในตำแหน่งที่นั่งคนขับและที่นั่งผู้โดยสารที่อยู่ด้านริมสุดทั้งที่นั่งตอน หน้าและตอนที่ 2  ส่วนที่นั่งระหว่างกลางจะติดตั้งเข็มขัดนิรภัย แบบรัดหน้าตักและรั้งพาดไหล่ (Three-point belt) หรือแบบรัดหน้าตัก (Lap belt) ก็ได้ สำหรับรถที่มีเบาะที่นั่งแบบ 3 ตอน ที่นั่งตอนที่ 3 จะต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยด้วย โดยจะติดตั้งแบบรัดหน้าตักและรั้งพาดไหล่  (Three-point belt) หรือแบบรัดหน้าตัก (Lap belt) ก็ได้

          สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน แต่ไม่เกิน 12 คน (รถตู้)  และรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล  (รถปิคอัพ) ที่นั่งตอนหน้า จะต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยเช่นเดียวกับที่กำหนดไว้สำหรับรถข้างต้น

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ กลุ่ม มาตรฐานยานยนต์ สำนักวิศวกรรมยานยนต์ กรมการขนส่งทางบก หมายเลขโทรศัพท์ 0-2271-8603