มีผลแล้ว! ดอกเบี้ยรถแบบใหม่ “ลดต้นลดดอก” ปิดบัญชีต้องได้รับส่วนลด
ตามที่มีประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2565 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วก่อนหน้านี้ และเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2566 นั้น สำนักนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงเพิ่มเติมสาระสำคัญของประกาศฯ ฉบับดังกล่าว เพื่อย้ำประชาชนถึงความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงสาระสำคัญของประกาศประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2565 (โดยมีใจความส่วนหนึ่งระบุถึงการคิดอัตราดอกเบี้ยรถยนต์และรถจักรยานยนต์แบบลดต้นลดดอก) มีสาระสำคัญแบ่งออกเป็น 4 ประเด็นหลัก ดังนี้
1. การกำหนดกรอบอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อ 3 ประเภท
- รถยนต์ใหม่ ต้องไม่เกินอัตรา 10% ต่อปี
- รถยนต์ใช้แล้ว ต้องไม่เกินอัตรา 15% ต่อปี
- รถจักรยานยนต์ ต้องไม่เกิน 23% ต่อปี
2. หากผู้เช่าซื้อนำเงินมาชำระก่อนครบกำหนด หรือ ปิดบัญชี จะได้รับส่วนลดดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดแบ่งเป็น 3 กรณี
- ชำระค่างวดไม่เกิน 1 ใน 3 ของค่างวดตามสัญญา ให้ได้รับส่วนลดไม่น้อยกว่า 60% ของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
- ชำระค่างวดไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสัญญา แต่ไม่เกิน 2 ใน 3 ของค่างวดตามสัญญา ให้ได้รับส่วนลดไม่น้อยกว่า 70% ของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
- ชำระค่างวดเกินกว่า 2 ใน 3 ของค่างวดตามสัญญา ให้ได้รับส่วนลดทั้งหมดของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
3. กรณีนำรถออกขายทอดตลาด หากผู้บริโภคถูกยกเลิกสัญญา และผู้ให้เช่าซื้อนำรถออกขายทอดตลาด โดยปกติแล้วผู้บริโภคต้องรับผิดชอบค่างวดที่ค้างอยู่ตามสัญญาประกอบด้วยเงินต้นและดอกเบี้ยที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ แต่ประกาศฉบับใหม่ให้คิดได้เฉพาะเงินต้นเท่านั้น
4. การคิดเบี้ยปรับกรณีผิดนัดชำระ กรณีผู้เช่าซื้อชำระค่างวดล่าช้า หรือผิดนัดชำระค่างวด ผู้ให้เช่าซื้อสามารถคิดเบี้ยปรับได้ไม่เกินอัตรา 5% ต่อปี โดยคำนวณจากยอดเงินที่ผิดนัดชำระ
ทั้งนี้ ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเรื่องให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 มกราคม 2566 ซึ่งจะบังคับใช้เฉพาะสัญญาเช่าซื้อที่ทำตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ส่วนสัญญาเช่าซื้อเดิมที่ทำก่อนวันที่ 10 มกราคม 2566 ยังคงมีผลบังคับใช้จนกว่าจะสิ้นสุดสัญญา
หากผู้บริโภคถูกละเมิดสิทธิจากผู้ประกอบธุรกิจ สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สายด่วน 1166 หรือร้องทุกข์ผ่านแอปพลิเคชัน OCPB Connect หรือเว็บไซต์ ocpb.go.th ได้ตลอด 24 ชั่วโมง