เกียร์ 2 กับเกียร์ L แตกต่างกันอย่างไร?
โดยปกติแล้วผู้ขับขี่รถเกียร์อัตโนมัติจะคุ้นเคยกับตำแหน่งเกียร์ P R N และ D เป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่รถบางรุ่นก็มีตำแหน่งเกียร์แปลกๆ อย่างเกียร์ 2 และเกียร์ L เพิ่มเข้ามาด้วย รู้หรือไม่ว่าเขามีไว้ใช้ทำอะไร?
การเลือกตำแหน่งเกียร์ให้เหมาะสมกับลักษณะการขับขี่จะช่วยรีดสมรรถนะของเครื่องยนต์ออกมาได้สูงสุด และช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้อีกด้วย ซึ่งปกติแล้วตำแหน่งเกียร์ D หรือ Drive จะใช้เป็นตำแหน่งมาตรฐานสำหรับการขับรถไปข้างหน้า หากว่าเป็นเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด เกียร์ก็จะเปลี่ยนอัตราทดตั้งแต่เกียร์ 1 ไปจนถึงเกียร์ 5 ตามความเร็วของตัวรถในขณะนั้น
ขณะที่ตำแหน่งเกียร์ 2 หมายถึง เกียร์จะเปลี่ยนอัตราทดให้เฉพาะเกียร์ 1 และเกียร์ 2 เท่านั้น เหมาะสำหรับการใช้ขับรถขึ้นเขาเพื่อให้เครื่องยนต์มีกำลังมากกว่าปกติ รวมถึงการขับรถลงเขาเพื่อสร้างเอนจิ้นเบรก โดยใช้กำลังของเครื่องยนต์ช่วยชะลอไม่ให้รถไหลลงเขาด้วยความเร็วสูงจนเกินไป จะช่วยลดการเหยียบเบรกลง และป้องกันปัญหาเบรกไหม้จนกระทั่งเบรกเอาไม่อยู่ได้
ส่วนตำแหน่งเกียร์ L (บางรุ่นอาจใช้เลข 1 แทน) หมายถึง เกียร์จะคงอัตราทดไว้ที่ตำแหน่งเกียร์ 1 เท่านั้น เหมาะสำหรับใช้ในการลงเนินที่มีความชันมากๆ จะช่วยสร้างเอนจิ้นเบรกได้มากกว่าตำแหน่งเกียร์ 2 หากว่าผู้ขับขี่ปล่อยเท้าออกจากแป้นเบรกก็จะช่วยประคองให้รถไม่ไหลด้วยความเร็วสูงจนเกินกว่าจะควบคุมได้
เห็นไหมครับว่าการเลือกใช้ตำแหน่งเกียร์ที่ถูกต้อง จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นหากใครมีแผนขับรถไปท่องเที่ยวขึ้นยอดดอยหรือภูเขาแล้วล่ะก็ อย่าลืมนำใช้เทคนิคในการเปลี่ยนเกียร์เหล่านี้ไปใช้ด้วยนะครับ