ไปรู้จัก Honda e:NS1 รถไฟฟ้า 100% รุ่นแรกมีลุ้นขายจริงในไทยไม่เกินปีนี้

    จากที่มีสื่อรถยนต์หลายสำนักออกมาเปิดเผยว่าฮอนด้าเตรียมนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกชื่อว่า e:NS1 เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยไม่เกินปลายปี 2566 นี้ เราไปดูข้อมูลเบื้องต้นของรถรุ่นดังกล่าวกันก่อนว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง

    Honda e:NS1 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน 100% ที่ใช้พื้นฐานโครงสร้างร่วมกับ HR-V รุ่นปัจจุบัน ถูกเปิดรับจองอย่างเป็นทางการคครั้งแรกในประเทศจีนเมื่อช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมา โดย e:NS1 เป็นเวอร์ชันที่พัฒนาและวางจำหน่ายโดย Dongfeng Honda ขณะที่ e:NP1 เป็นอีกหนึ่งเวอร์ชันที่วางจำหน่ายโดย Guangqi Honda ซึ่งทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ใกล้เคียงกัน ทั้งยังมีการประกาศราคาจำหน่ายของ e:NS1 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยแบ่งออกเป็น 4 รุ่นย่อย เคาะราคาจำหน่ายระหว่าง 175,000 - 218,000 หยวน หรือประมาณ 920,000 - 1,150,000 บาท

    รูปลักษณ์ภายนอกมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์บางส่วนเพื่อให้เหมาะสมกับระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าแบบปิดทึบที่ถูกประดับด้วยโลโก้ฮอนด้าแบบเรืองแสง ขณะที่โลโก้ฮอนด้าบริเวณประตูท้ายถูกเปลี่ยนเป็นตัวอักษร “HONDA” แทน เพิ่มความแปลกตาด้วยล้อดีไซน์ใหม่ที่มีให้เลือกทั้งขนาด 17 นิ้ว และ 18 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย

    ตัวถังของ Honda e:NS1 มีขนาดความยาว 4,390 มม. ความกว้าง 1,790 มม. ความสูง 1,560 มม. และความยาวฐานล้อ 2,610 มม. (เทียบกับตัวถังของ HR-V รุ่น RS เวอร์ชันไทยที่มีขนาด 4,346 x 1,790 x 1,605 (กว้าง x ยาว x สูง) และความยาวฐานล้อเท่ากัน)

    ภายในห้องโดยสารโดดเด่นด้วยหน้าจอแนวตั้งขนาด 15.1 นิ้ว ที่ยกตัวขึ้นจากแผงคอนโซล พร้อมด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว ติดตั้งระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT 3.0 ที่ประกอบไปด้วยฟังก์ชันสั่งการด้วยเสียงแบบ AI, ระบบนำทาง, ระบบเชื่อมต่ออุปกรณ์สมาร์ทโฮม, ระบบสั่งการผ่านสมาร์ทโฟน และระบบอัปเกรดแบบ OTA เป็นต้น

    ด้านขุมพลังของ Honda e:NS1 มีให้เลือกทั้งหมด 2 ขนาด เริ่มต้นด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 182 แรงม้า (134 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบ Ternary Lithium ขนาด 53.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางขับขี่ประมาณ 420 กิโลเมตร (ภายใต้มาตรฐานการทดสอบ CLTC) หรือจะเลือกเป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร ที่เพิ่มขนาดแบตเตอรี่ขึ้นเป็น 68.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางขับขี่ 510 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง

    ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับวางจำหน่ายในประเทศไทยต้องรอความคืบหน้ากันอีกที