BMW XM ใหม่ ขุมพลัง M HYBRID 4.4 ลิตร 653 แรงม้า เตรียมรับจองผ่านออนไลน์ครั้งแรกในไทย

     BMW XM รุ่นปี 2023 ใหม่ เตรียมเปิดรับจองอย่างเป็นทางการครั้งแรกในไทย ชูจุดเด่นด้วยขุมพลัง M HYBRID กำลังสูงสุดถึง 653 แรงม้า ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 4.3 วินาที สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าได้ไกลสุด 88 กิโลเมตร เตรียมประกาศราคาจำหน่ายเร็วๆ นี้

     BMW XM ถูกพัฒนาให้เป็นรถ SAV สมรรถนะสูงในตระกูล BMW M ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง M HYBRID ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 8 สูบ ขนาด 4.4 ลิตร BMW M TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 489 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร เมื่อทำงานร่วมกันจะให้กำลังสูงสุด 653 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive เพื่อให้สามารถถ่ายทอดกำลังลงสู่พื้นถนนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

     BMW XM มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.3 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 270 กม./ชม. มารพ้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออนความจุ 25.7 kWh ติดตั้งอยู่บริเวณใต้ท้องรถ ให้ระยะทางขับขี่ในโหมดไฟฟ้า 82-88 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้าได้ 140 กม./ชม.

     นอกจากนี้ BMW XM ยังมาพร้อมระบบเฟืองท้าย M Sport ช่วยกระจายกำลังขับเคลื่อนระหว่างล้อหลังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน และช่วงล่างแบบ Adaptive M Suspension Professional เพื่อมอบการควบคุมแบบสปอร์ตโดยไม่ลดทอนความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่ รวมถึงระบบช่วยการขับขี่รุ่น Professional พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่มีฟังก์ชัน Stop&Go ที่สามารถรักษาระยะห่างอย่างสม่ำเสมอจากรถคันหน้า และช่วยให้รถยนต์อยู่ในเส้นทางอย่างคงที่ด้วยระบบบังคับพวงมาลัย

     ภายนอกของ BMW XM ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยถูกติดตั้งไฟหน้าแบบ Adaptive LED พร้อมฟังก์ชัน High-beam Assistant, กระจังหน้า BMW kidney ‘Iconic Glow’, ระบบ Travel & Comfort, ประตูแบบ Soft-close, คาลิเปอร์เบรกดีไซน์ M Sport สีดำเงา และล้ออัลลอย M ขนาด 23 นิ้ว แบบ Bicolour

     ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งตอนหน้าแบบ M Multifunctional พร้อมฟังก์ชันนวดผ่อนคลาย ระบบระบายอากาศ และฮีตเตอร์, ภายในตกแต่งดีไซน์​ M ด้วยวัสดุ Carbon Fibre, ที่วางแก้วคอนโซลกลางพร้อมฟังก์ชันควบคุมอุณหภูมิ, เข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M, พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน และผ้าบุหลังคาแบบปริซึมพร้อมไฟ LED กว่า 100 ดวงบนหลังคาช่วยเพิ่มบรรยากาศยามค่ำคืน

     BMW XM มาพร้อมระบบ BMW Live Cockpit Professional แสดงผลบนจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานบนระบบปฏิบัติการ BMW OS 8 ใหม่ล่าสุด รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ขับกำลังเสียงผ่านระบบเสียงรอบทิศทาง Bowers & Wilkins Diamond ให้กำลังขับรวม 1,475 วัตต์ และลำโพงพิเศษอีก 4 ตำแหน่งบนหลังคา รวมถึงระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ IconicSounds Electric

     สีภายนอกของ BMW XM มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีดำ Black Sapphire, สีเขียว Cape York Green, สีดำ Carbon Black, สีเทา Dravit Grey, สีฟ้า Marina Bay Blue, สีขาว Mineral White และสีแดง Toronto Red และมีสีภายในกับหนัง BMW Individual ‘Merino’ ให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Deep Lagoon, สีขาว Silverstone, สีดำ Black และ สีส้ม Sakhir Orange มาพร้อมกับแถบตกแต่งด้านข้างรถทั้งหมด 2 ตัวเลือกคือสีทองและสีดำซึ่งพาดผ่านกรอบประตูและล้อรถ

     ทั้งนี้ BMW XM จะวางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น โดยจะประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการอีกครั้ง