All-new Toyota PRIUS (5th Gen) เผยโฉมครั้งแรกในไทยที่มอเตอร์โชว์ 2023

     All-new Toyota PRIUS เจเนอเรชันที่ 5 ถูกนำมาจัดแสดงในประเทศไทยเป็นครั้งแรกที่งาน Bangkok International Motor Show 2023 มีลุ้นวางขายจริงอีกครั้งหลังยุติการจำหน่ายมานานเกือบทศวรรษ

     บูธโตโยต้าในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ ได้มีการนำเอา โตโยต้า พรีอุส เจเนอเรชันที่ 5 มาให้ชาวไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรก โดยคาดว่าโตโยต้าอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการนำรถไฮบริดรุ่นดังกล่าวกลับมาวางจำหน่ายอีกครั้ง หลังจากที่ประเทศไทยยุติการทำตลาดในเจเนอเรชันที่ 3 เมื่อช่วงประมาณปี พ.ศ. 2555 - 2556 โดยระยะแรกคาดว่าจะเป็นการนำเข้าสำเร็จรูปทั้งคันจากประเทศญี่ปุ่นมาจำหน่ายในจำนวนจำกัด

     Toyota Prius รุ่นปัจจุบันเริ่มวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมีรูปลักษณ์ถอดแบบมาจากเวอร์ชันอเมริกาเหนือที่ถูกเปิดตัวไปก่อนหน้า ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮบริดรหัส M20A-FXS ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 152 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 188 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 113 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 206 นิวตัน-เมตร ขณะที่รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four จะถูกเสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังที่มีกำลังสูงสุด 41 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 84 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ E-CVT

     โตโยต้า พรีอุส ใหม่ มีจุดเด่นอยู่ที่อัตราสิ้นเปลืองดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด โดยรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 28.6 กม./ลิตร (หรือ 26.7 กม./ลิตร เมื่อติดตั้งหลังคาพาโนรามิกซันรูฟที่ส่งผลให้น้ำหนักตัวรถเพิ่มขึ้น 20 กิโลกรัม) ขณะที่รุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร มีอัตราสิ้นเปลืองดีกว่าเล็กน้อยอยู่ที่ 32.6 กม./ลิตร (หรือ 30.7 กม./ลิตร เมื่อติดตั้งหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ) ภายใต้มาตรฐานการทดสอบ WLTC

     ขณะที่รุ่น Plug-in Hybrid ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 151 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 188 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 208 นิวตัน-เมตร ทำงานคู่กับแบตเตอรี่ขนาด 51 Ah สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าได้ไกลสูงสุด 87 กิโลเมตรเมื่อชาร์จจนเต็ม

     สำหรับราคาจำหน่ายของ Toyota Prius รุ่นปี 2023 ในญี่ปุ่นอยู่ระหว่าง 2,990,000 เยน ไปจนถึง 4,600,000 เยน หรือประมาณ 750,000 - 1,199,000 บาท ส่วนความคืบหน้าการทำตลาดในประเทศไทยต้องติดตามกันอีกครั้ง