ทำไมเพิ่งคิดได้! สาเหตุที่น้ำมันขึ้นราคาพรุ่งนี้ ถึงไม่ควรรีบเติมวันนี้

     เป็นที่ทราบกันดีว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการประกาศขึ้นราคาน้ำมันในวันถัดไป ก็จะมีผู้ใช้รถยนต์และมอเตอร์ไซต์รีบไปเข้าคิวเติมน้ำมันกันอย่างเนืองแน่น จนกลายเป็นวันสุดโกลาหลของพนักงานปั๊มที่ต้องคอยให้บริการลูกค้าจนแทบไม่มีเวลาพักเหนื่อยตลอดทั้งคืน

     แต่ทราบหรือไม่ว่าการรีบเติมน้ำมันก่อนราคาขึ้นในวันพรุ่งนี้ ก็ใช่ว่าจะคุ้มค่าเงินในกระเป๋าเสมอไป เพราะอะไรไปดูกัน...

ต่อให้ขึ้นราคาถึง 60 สตางค์ ส่วนต่างที่จ่ายจริงก็ไม่ได้มากขนาดนั้น

     โดยปกติแล้วราคาน้ำมันจะมีการปรับขึ้นลงอยู่ในช่วง 20 - 60 สตางค์ แม้ว่าที่ผ่านมาอาจมีการปรับราคาขึ้นรวดเดียวถึงครั้งละ 1 บาท (แม้แต่รวดเดียว 3 บาทก็เคยมีมาแล้ว) แต่ก็เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนานๆ ครั้งเท่านั้น ซึ่งส่วนต่างที่ว่านี้อาจไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับการติดเครื่องยนต์รอหน้าปั๊ม หรือตั้งใจขับรถออกไปเติมน้ำมันโดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น

     สมมติราคาน้ำมันวันนี้อยู่ที่ลิตรละ 34.90 บาท พรุ่งนี้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 60 สตางค์ เป็น 35.50 บาท หากวันนี้เติมน้ำมันเต็มถังได้ 40 ลิตร คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 1,396 บาท แต่หากเติมน้ำมันด้วยปริมาณเท่ากันในวันพรุ่งนี้ จะต้องจ่ายเงินทั้งสิ้น 1,420 บาท คิดเป็นส่วนต่างทั้งสิ้น 24 บาท ซึ่งถือว่าเป็นเงินจำนวนไม่น้อย แต่...

     หากคุณจำเป็นต้องเสียเวลาติดเครื่องยนต์รอหน้าปั๊มน้ำมันเป็นเวลา 10 นาที ลองคิดเล่นๆ ว่ารถของคุณเผาผลาญน้ำมันที่รอบเดินเบาอยู่ที่ 2 ลิตร ต่อ 1 ชั่วโมง หากคิดที่ 10 นาที ก็จะสิ้นเปลืองน้ำมันไปแล้ว 0.33 ลิตร หากใช้ราคาน้ำมัน 34.90 บาทเป็นตัวตั้ง ก็จะเสียเงินไปแล้วประมาณ 11 บาท เท่ากับว่าจำนวนเงินที่คุณจะเซฟได้จริงๆ เหลือเพียง 13 บาทเท่านั้น

     นั่นยังไม่นับรวมว่าถ้าปั๊มน้ำมันที่เติมไม่ได้อยู่ในเส้นทางผ่าน แต่ต้องกลับรถหรือขับอ้อมไปเติมน้ำมันเป็นการเฉพาะ ยิ่งเป็นการเพิ่มระยะทางให้เปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ ส่วนต่างค่าน้ำมันก็ยิ่งน้อยลงจนแทบไม่มีประโยชน์อย่างเป็นนัยยะสำคัญ

หากรถจอดอยู่บ้าน เลิกคิดที่จะขับออกไปเติมน้ำมันได้เลย!

     หากว่าคุณยังคง Work from home หรือมีรถหลายคัน การขับรถออกจากบ้านไปเติมน้ำมันโดยหวังจะเซฟส่วนต่างจากราคาน้ำมันที่จะขึ้นในวันพรุ่งนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากค่าน้ำมันที่คุณจะต้องเสียไปในการเดินทาง จะมากกว่าส่วนต่างที่ได้คืนมาอย่างแน่นอน ต่อให้ปั๊มน้ำมันจะอยู่ห่างจากบ้านเพียง 1-2 กิโลเมตรก็ตาม

     ยิ่งถ้านับความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุเฉี่ยวชนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างขับรถด้วยแล้วล่ะก็ ทางที่ดีคุณควรจอดรถทิ้งไว้ที่บ้านอย่างเดิมนั่นแหละ แล้วค่อยนำรถไปเติมน้ำมันในวันที่คุณตั้งใจนำรถออกไปใช้งานจริงๆ จะดีกว่า

     อย่างไรก็ดี บทความนี้มีจุดประสงค์เพียงแค่ต้องการชี้ให้เห็นว่า การรีบเติมน้ำมันก่อนถึงเวลาอันสมควร เพราะหวังเซฟเงินค่าส่วนต่างจากราคาน้ำมันที่จะถูกปรับขึ้นในวันถัดไปนั้น อาจไม่ได้สร้างความคุ้มค่ามากมายอย่างที่คิดไว้เท่านั้นเอง แต่หากน้ำมันรถของคุณใกล้หมดอยู่แล้วล่ะก็ เห็นทีจะต้องยอมรอคิวกันสักหน่อยล่ะ