ค่า CCA ของแบตเตอรี่ คืออะไร?
ปัจจุบันเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ เรามักจะได้ยินข้อมูลเกี่ยวกับค่า CCA ที่มักจะถูกหยิบยกเป็นปัจจัยในการเลือกยี่ห้อแบตเตอรี่อยู่เสมอ แล้วทราบหรือไม่ว่าแท้จริงแล้วค่า CCA คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรกับรถยนต์คันโปรดของคุณ Sanook Auto จะพาไปหาคำตอบกัน
ค่า CCA คืออะไร?
CCA ย่อมาจากคำว่า Cold Cranking Ampere หมายถึงค่าความสามารถในการจ่ายกระแสไฟเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ในสภาพอากาศหนาว โดยค่า CCA จะวัดจากปริมาณแอมป์ที่แบตเตอรี่แบบ 12 โวลต์ สามารถจ่ายไฟได้ในอุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส (หรือ 0 องศาฟาเรนไฮต์) เป็นเวลานาน 30 วินาที โดยยังคงแรงดันของแบตเตอรี่ไม่ต่ำกว่า 7.2 โวลต์ต่อลูก หรือ 1.2 โวลต์ต่อเซลล์
นั่นหมายความว่าแบตเตอรี่ 12 โวลต์ที่มีค่า CCA 500 บ่งบอกว่าแบตเตอรี่จะสามารถปล่อยกระแสไฟ 500 แอมป์ ในช่วงเวลา 30 วินาที ที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส โดยที่แรงดันไฟยังคงลดไม่ต่ำกว่า 7.2 โวลต์
แม้ว่าประเทศไทยจะไม่ได้มีสภาพอากาศหนาวเย็นถึงเพียงนั้น แต่ค่า CCA ก็บ่งบอกได้ถึงประสิทธิภาพในการจ่ายไฟเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ ยิ่งค่า CCA ของแบตเตอรี่สูงมากเท่าไหร่ ประสิทธิภาพในการจ่ายไฟเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ก็สูงขึ้นตามไปด้วย
ค่า CCA ยิ่งสูง แบตเตอรี่ยิ่งทนจริงไหม?
แบตเตอรี่ที่มีค่า CCA สูง มีโอกาสที่จะสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าแบตเตอรี่ที่มีค่า CCA ต่ำกว่า เนื่องจากค่า CCA จะค่อยๆ ลดลงตามอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แต่ละลูก
อย่างไรก็ดี อายุการใช้งานของแบตเตอรี่อาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยนอกเหนือจากค่า CCA เพียงอย่างเดียว เช่น คุณภาพและขนาดของแผ่นตะกั๋ว, แรงสั่นสะเทือนของแผ่นตะกั๋ว, การบำรุงรักษา ฯลฯ ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่แต่ละลูกแตกต่างกันออกไป
รถของคุณต้องใช้ค่า CCA เท่าไหร่?
ค่า CCA ขั้นต่ำที่จำเป็นต้องใช้ในการสตาร์ทเครื่องยนต์จะขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องยนต์ โดยเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ที่มีค่า CCA สูงกว่าเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งสามารถคำนวณด้วยการทำเอาขนาดความจุของเครื่องยนต์ x 0.13 จะเท่ากับ CCA ขั้นต่ำของแบตเตอรี่ที่พอจะสตาร์ทเครื่องยนต์ได้
ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,800 ซีซี คูณกับ 0.13 = 234 แปลว่าแบตเตอรี่จะต้องมีค่า CCA 234 เป็นอย่างน้อยเพื่อให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดได้
เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว ก่อนเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ครั้งต่อไป ก็ลองพิจารณาถึงค่า CCA ควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้ได้แบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุดครับ