ขับรถติดสติกเกอร์แบบไหนดี?

     กลายเป็นประเด็นร้อนและสะเทือนไปในหลายวงการสำหรับการเปิดโปง “ส่วยสติกเกอร์” ที่ตามข่าวบอกว่าพี่น้องผู้ขับรถบรรทุกบางคนใช้เป็นใบเบิกทางในกรณีบรรทุกของน้ำหนักเกิน ซึ่งจะว่าไปแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลยของบ้านเรานะครับ จำได้ว่าเรื่องพวกนี้มีข่าวอยู่เป็นระยะตั้งแต่สมัย 10 ปีที่แล้ว และเป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้มาจนถึงปัจจุบัน

     สิ่งสำคัญที่กฎหมายจำเป็นต้องบังคับให้น้ำหนักรถไม่เกินที่กำหนด นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว เรื่องของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับถนนหลวง เวลาเราขับรถทางไกลนอกจากป้ายจำกัดความเร็วแล้วจึงมีป้ายจำกัดน้ำหนักบอกเอาไว้ด้วย ซึ่งต้องยอมรับนะครับเรื่องส่วยสติกเกอร์นี้ ต่อให้เจ้าหน้าที่ไม่เรียกรับ แต่ตราบใดที่มีผู้เสนอ ย่อมต้องมีผู้สนองเป็นธรรมดา อยู่ที่ว่าจะ “เท่าไหร่” แค่นั้นเอง

     มองกันตามความเป็นจริงมันคือสิ่งผิดกฎหมาย ที่ผู้ประกอบการ (บางราย) จำเป็นต้องทำเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ บางทีการจ่ายส่วยแบบนี้ ก็อาจจะคำนวณมาแล้วว่า หากเพิ่มการบรรทุกของให้มากขึ้นในแต่ละรอบ มันอาจจะทำให้เขาคุ้มกว่า ซึ่งมันไม่ต่างอะไรเลยกับเรื่องของการติดสินบนในวงการอื่น ๆ เพียงแต่ว่าวิธีการจะมาในรูปแบบไหน และที่สำคัญจะสาวไปถึง “ตัวใหญ่” ของทั้ง 2 ฝ่ายได้หรือไม่

     ซึ่งที่ผ่านมา ผมไม่เชื่อว่ารายชื่อที่ถูกเปิดเผย หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกสั่งลงโทษจะเป็นตัวใหญ่ที่เป็นปลายทางจริง ๆ บางทีอาจจะเป็นคนที่ลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมแบบปกติก็ได้ ใครจะไปรู้ครับ เพราะเมืองไทยเรามีเรื่องแปลก ๆ เยอะ อาทิ การซื้อเสียงที่รู้กันอยู่ว่ามีแต่ไม่เคยจับได้ หรือกระทั่งการขายล็อตเตอรี่เกินราคาที่บอกกันมาได้ว่า ไม่มี!

     ฉะนั้น เรื่องส่วยสติกเกอร์ที่กำลังเป็นข่าวในช่วงนี้ มันก็แค่ส่วนหนึ่งของเรื่องแย่ ๆ ที่มีอยู่ในบ้านเรามาเนิ่นนานเท่านั้นเองครับ อย่างไรก็ดี หากพูดถึงสติกเกอร์ติดรถนี่ จริง ๆ แล้วผมว่ามันคือสีสันบนท้องถนนนะครับ หากไม่นับสติกเกอร์สายเทาที่จะรู้กันเฉพาะคนบางกลุ่มแล้ว คุณเคยชอบนำสติกเกอร์มาติดรถกันบ้างหรือเปล่า?

     สำหรับผม ถ้าย้อนไปสมัยเด็ก ๆ ที่ยังไม่ได้ขับรถเอง บอกเลยว่าชอบแอบเอาสติกเกอร์แบบต่าง ๆ ไปติดทั้งท้ายรถ และกระจกรถของพ่ออยู่บ่อยครั้งเพราะคิดว่ามันเท่ดี โดยเฉพาะพวกสติกเกอร์ที่เกี่ยวข้องกับทีมแข่งรถ แต่มาในยุคนี้ที่ตัวเองได้มาขับรถ ยิ่งรู้สึกว่าไม่ควรทำอะไรที่ระบุตัวตนมากเกินไป แนวคิดบ้าติดสติกเกอร์บนรถของผมก็เลยหมดไป

     ยิ่งเวลาไปใช้บริการศูนย์บริการแบบควิกเซอร์วิสหรือร้านล้างรถบางร้าน เขามักจะชอบนำสติกเกอร์มาติดที่ท้ายรถ อาจจะเพื่อเป็นการโปรโมตหรืออะไรก็แล้วแต่ครับ แต่สำหรับผมมองว่ามันรกเกินไป และการที่แอบนำมาติดโดยที่เราไม่อนุญาตก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควร บางทีกว่าจะลอกออกไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นคราบกาวติดทนนานอยู่หลายวันกว่าจะเอาออกได้

     ซึ่งแม้ส่วนตัวผมจะไม่ชอบเอาสติกเกอร์มาติดที่รถตัวเอง แต่ผมก็ชอบอ่านข้อความจากสติกเกอร์ท้ายรถของคันอื่น ๆ นะครับ โดยเฉพาะรถบรรทุกและรถกระบะ ที่เวลาเหลือบไปเห็นบางข้อความมันก็ทำให้อดอมยิ้มไม่ได้ อย่างวันก่อนไปเจอ “รถคันนี้สีอะไรก็ช่าง ตังค์กรู!” หรือ “วัดท่ายาก” ต้องเป็นคู่แข่งวัดท่าไม้แน่ ๆ

     หรือหากเราเจอรถที่ติดสติกเกอร์ที่เรารู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกับเรา อาทิ ผมเป็นแฟนบอลสเปอร์ส เวลาผมขับเจอรถติดสติกเกอร์ทีมสเปอร์ส เราจะรู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกันทันที (ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่านะครับฮ่า ๆ) แต่มันก็สามารถลดอาการหัวร้อนบนท้องถนนลงได้ไม่มากก็น้อยล่ะครับ

     แล้วคุณล่ะครับ มีสติกเกอร์ติดรถกันบ้างหรือเปล่า จะเป็นรูปพระอาทิตย์หรือกระต่าย ก็ไม่ว่ากัน เอาที่สบายใจและไม่เดือนร้อนคนอื่นก็พอครับ แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ