Mazda2 2024 ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ เพิ่ม 2 รุ่นพิเศษ ราคา 599,000 - 830,000 บาท
Mazda2 2024 โฉมไมเนอร์เชนจ์ใหม่ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในไทย ปรับดีไซน์เพิ่มความทันสมัย พร้อมรุ่นพิเศษอีก 2 รุ่น ทั้ง Rookie Drive และ Clap Pop เน้นความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร มีทั้งเครื่องยนต์ SKYACTIV เบนซิน 1.3 ลิตร และดีเซล 1.5 ลิตรเช่นเคย เคาะราคาจำหน่าย 599,000 - 830,000 บาท
Mazda2 2024 ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อยมาตรฐาน ทั้งตัวถังแบบ 4 ประตู และ 5 ประตู พร้อมดีไซน์ที่มีให้เลือกทั้งแบบ Sport Design ตกแต่งเน้นความสปอร์ต และ New Wave Design ตกแต่งเน้นความมีชีวิตชีวา อีกทั้งยังเพิ่มทางเลือกด้วยรุ่นพิเศษอีก 2 รุ่น (เฉพาะตัวถังแบบ 5 ประตู) ได้แก่ รุ่น Rookie Drive และรุ่น Clap Pop เช่นเดียวกับเวอร์ชันญี่ปุ่น รวมเป็นทั้งสิ้น 7 รุ่นย่อย ดังนี้
- รุ่น 1.3 C ราคา 599,000 บาท
- รุ่น 1.3 S ราคา 680,000 บาท
- รุ่น 1.3 SP ราคา 730,000 บาท
- รุ่น 1.5 XD ราคา 720,000 บาท
- รุ่น 1.5 XDL ราคา 830,000 บาท
- รุ่น 1.3 Rookie Drive Sports ราคา 662,000 บาท
- รุ่น 1.3 Clap Pop Sports ราคา 647,000 บาท
Mazda2 Sport Design ถูกตกแต่งเน้นความสปอร์ตด้วยกันชนหน้าและกระจังหน้าแบบ Mesh Grille ดีไซน์ใหม่ เสริมความสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยกระจกมองข้างและหลังคาสีดำ พร้อมล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วดีไซน์ใหม่ ขณะที่ห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังสีดำสลับผ้า Grand Luxe Suede แบบสปอร์ต พร้อมกรอบช่องแอร์ตกแต่งด้วยสีแดงและเบาะนั่งเดินตะเข็บสีแดง
Mazda2 New Wave Design เน้นความมีชีวิตชีวาด้วยกันชนหน้าใหม่ กระจังหน้าใหม่ และล้อลายใหม่ เพิ่มความพิเศษด้วยแผงคอนโซลด้านในที่มีให้เลือกหลากสี ไม่ว่าจะเป็นสี Pure White, สี Mirror Black และสี Gross Light Blue จับคู่กับสีภายนอกและดีไซน์ของล้ออัลลอย ทั้งยังเลือกใช้ Bioplastic เป็นส่วนประกอบในการผลิตแผงคอนโซลเพื่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเลือกใช้ฟิล์มหลังคาทำจากวัสดุไวนิลที่ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เมื่อเทียบกับการเคลือบสีแบบทูโทน
Mazda2 Rookie Drive รุ่นพิเศษ (เฉพาะตัวถัง 5 ประตู) ตกแต่งกระจังหน้าแบบใหม่ด้วยสีขาว พร้อมหลังคาขาวหรือดำขึ้นอยู่กับสีตัวถังภายนอก เสริมด้วยสีส้ม Racing Orange บริเวณสปอยเลอร์หลัง ชุดครอบกระจกมองข้าง คิ้วตกแต่งกันชนหน้า-หลัง และฝาครอบล้อ พร้อมชุดสติกเกอร์ตกแต่งดีไซน์พิเศษ
Mazda2 Clap Pop รุ่นพิเศษ (เฉพาะตัวถัง 5 ประตู) เพิ่มความสปอร์ตด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมกระจกมองข้างและฝาครอบล้อสีขาว Ceramic Metallic กระจังหน้าสีขาวและหลังคาสีขาว พร้อมชุดสติกเกอร์ตกแต่งดีไซน์พิเศษ Clap Pop
Mazda2 2024 ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ถูกติดตั้งหน้าจอสัมผัส Center Display ขนาด 7 นิ้ว ควบคุมผ่านปุ่ม Center Commander รองรับการเชื่อมต่อ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) รวมถึงติดตั้งเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมเมมโมรี่ 2 ตำแหน่ง และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control เป็นต้น
ขณะที่อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ ระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ, กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว, ระบบปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบหน่วงเวลา พร้อมฟังก์ชันตรวจจับน้ำฝนแบบอัตโนมัติ, พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและ Sport Paddle Shift, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, พนักพิงเบาะด้านหลังปรับพับแยก 60:40 และอื่นๆ
นอกจากนี้ Mazda2 2024 ใหม่ ยังถูกติดตั้งระบบความปลอดภัย i-Activsense เป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ประกอบด้วย
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ Advanced SCBS (ทุกรุ่นย่อย)
- ระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP และ i-ELOOP (ทุกรุ่นย่อย)
- ระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus (ทุกรุ่นย่อย)
- ระบบกุญแจรีโมตอัจฉริยะ Smart Keyless Entry
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 View Monitor
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ HBC
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA
ขณะที่ระบบความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆ เช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HLA, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS, สัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน ESS, เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด, กุญแจนิรภัย Immobilizer และสัญญาณกันขโมย เป็นต้น
ด้านขุมพลังยังคงมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ความจุ 1.3 ลิตร กำลังสูงสุด 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตัน-เมตร รองรับน้ำมัน E20 ได้ และเครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D ความจุ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ทั้งคู่ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive แบบ 6 สปีด
ตัวถังของ Mazda2 2024 มีให้เลือกทั้งหมด 9 สี ได้แก่
- สีแดง Soul Red Crystal
- สีเทา Machine Gray
- สีขาว Snowflake White Pearl
- สีดำ Jet Black
- สีบรอนซ์ Platinum Quartz
- สีเทา Polymetal Gray
- สีน้ำเงิน Deep Crystal Blue
- สีฟ้า Air Stream Blue (สีใหม่)
- สีเทา Aero Gray (สีใหม่)
ทั้งนี้ มาสด้ายังมอบข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัวด้วยข้อเสนอดอกเบี้ย 1.59% และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance นาน 1 ปี
อัลบั้มภาพ 29 ภาพ