Mercedes-Benz EQV / V-Class / Vito โฉมเฟซลิฟต์ปี 2024 เปิดตัวแล้วที่ยุโรป

     Mercedes-Benz ได้มีการปรับโฉมเฟซลิฟต์ให้กับรถแวนทั้ง 4 รุ่น ประกอบด้วย EQV, V-Class, eVito และ Vito พร้อมทั้งเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานแน่นยิ่งขึ้น ขณะที่ขุมพลังคาดว่าจะยังคงเดิมทั้งดีเซลและไฟฟ้า

     Mercedes-Benz ทั้ง 4 รุ่นดังกล่าว ประกอบด้วย EQV, V-Class, eVito และ Vito ยังคงใช้พื้นฐานโมเดล W447 เจเนอเนชันที่ 3 ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2019 อีกทั้งยังถือเป็นการปรับโฉมครั้งสุดท้ายก่อนหันไปใช้แพล็ตฟอร์มใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า VAN.EA (Van Electric Architecture) ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป

     ดีไซน์ภายนอกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ตระกูลแวนทั้ง 4 รุ่น มีการปรับกระจังหน้าให้มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงใช้ดีไซน์แตกต่างไปจากเดิมอย่างชัดเจน (รูปลักษณ์ของกระจังหน้าจะแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่นย่อย) โดยในรุ่น V-Class จะมีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ประกอบด้วย รุ่น Entry, Style, Avantgarde และ Exclusive เพิ่มเติมด้วย AMG Line และ Night Package เป็นออปชันเสริม ขณะที่รุ่น EQV จะมีให้เลือกเฉพาะ Avantgarde Line เท่านั้น

     ภายนอกยังมาพร้อมไฟหน้าแบบ Adaptive Multibeam LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน (เป็นออปชันเสริมในบางรุ่นย่อย) พร้อมไฟท้ายที่ตกแต่งด้วยสีดำช่วยเพิ่มความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ขณะที่ด้านท้ายยังมีการประดับด้วยตัวหนังสือ MERCEDES-BENZ บริเวณขอบหน้าต่างส่วนล่าง (ยกเว้นรุ่นเพื่อการพาณิชย์) พร้อมล้อที่มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 17 - 19 นิ้ว เป็นต้น

     ภายในห้องโดยสารมีการปรับปรุงเพิ่มความสดใหม่ยิ่งขึ้นเช่นกัน ด้วยการออกแบบรายละเอียดบนแผงคอนโซลหน้าใหม่ ไม่ว่าจะเป็นช่องแอร์และปุ่มควบคุมดีไซน์ใหม่ เพื่อให้เข้ากับตระกูลรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งยังเป็นครั้งแรกที่ถูกติดตั้งหน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว จำนวน 2 จอ โดยแบ่งเป็นจอแสดงข้อมูลการขับขี่และจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสอย่างละ 1 จอ ขณะที่รุ่น eVito และ Vito ที่เน้นการพาณิชย์เป็นหลัก จะได้หน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว และจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 5.5 นิ้วไปแทน

     ทั้งนี้ ระบบอินโฟเทนเมนท์ของตระกูล V-Class และ Vito ดังกล่าวทำงานบนระบบปฏิบัติการ MBUX ซึ่งถูกนำมาติดตั้งครบทั้งไลน์อัปเป็นครั้งแรกไม่เว้นแต่รุ่นเพื่อการพาณิชย์ หลังจากที่เดิมจะมีให้เลือกเฉพาะเวอร์ชันเพื่อการโดยสารเท่านั้น โดยในรุ่น EQV และ eVito ยังสามารถแสดงข้อมูลสถานีชาร์จไฟ และคำนวณเส้นทางโดยอ้างอิงจากปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือเพื่อให้สามารถแวะจุดชาร์จได้อย่างเหมาะสม

     ขณะที่ระบบความปลอดภัยมาตรฐานของรุ่น V-Class และ EQV มีทั้งระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ Active Distance Assist Distronic, ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ Active Brake Assist with Cross-traffic function, ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Sport Assist, ระบบช่วยประคองรถให้อยู่ในเลน Active Lane Keeping Assist, ระบบช่วยจอดและกล้องมองภาพรอบคัน Park Package และระบบเตือนอาการเหนื่อยล้าผู้ขับขี่ Attention Assist

     อย่างไรก็ดี เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไม่ได้ระบุว่ามีการปรับปรุงในด้านขุมพลังด้วยหรือไม่ จึงคาดว่าจะใช้เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ยกมาจากรุ่นเดิมทั้งหมด โดยในรุ่น EQV และ eVito ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 362 นิวตัน-เมตรที่ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้า พร้อมด้วยแบตเตอรี่ที่มีให้เลือกทั้งขนาด 60kWh ในรุ่น EQV250 และขนาด 90kWh ในรุ่น EQV300 ขณะที่รุ่นดีเซลคาดว่ายังคงมีให้เลือกทั้งขนาด 1.6 ลิตร, 1.7 ลิตร, 2.0 ลิตร และ 2.2 ลิตรเช่นเดิม