วิธีขับรถข้ามแดนไปลาวด้วยตัวเอง มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
ทราบหรือไม่ว่าปัจจุบันนักท่องเที่ยวไทยสามารถขับรถข้ามจากไทยไปลาวได้อย่างสะดวก ขั้นตอนการผ่านชายแดนไม่ยุ่งยากจนเกินไปนัก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวต่างแดนโดยรถยนต์ส่วนตัว จะมีขั้นตอนและการเตรียมเอกสารอย่างไรบ้าง Sanook Auto จะพาไปหาคำตอบกัน
เพจเฟซบุ๊ก "ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย" เผยข้อมูลรายละเอียดการนำรถยนต์ส่วนตัวข้ามจากประเทศไทยไปยังประเทศลาวด้วยตัวเอง ไม่ต้องผ่านนายหน้าหรือตัวแทนบริษัททัวร์ ซึ่งเราได้เรียบเรียงเอาไว้ดังนี้
การขอพาสปอร์ตรถเพื่อนำรถข้ามจากไทยไปลาว
- เตรียมคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ (เล่มสีฟ้า) โดยรถจะต้องไม่ติดไฟแนนซ์ เนื่องจากเล่มจะถูกจัดเก็บไว้ที่ไฟแนนซ์ หากจะขอเล่มจากไฟแนนซ์ก็ได้ แต่ยากหน่อย ไม่มีหนี้ดีที่สุด
- ติดต่อสำนักงานขนส่งในเขตพื้นที่หรือจังหวัด หากเอกสารพร้อมสามารถทำเรื่องเสร็จในวันเดียว
- ติดต่อฝ่ายทะเบียนรถยนต์ เขียนคำร้องขอนำพาหนะออกนอกราชอาณาจักร มีเอกสารเพียงแผ่นเดียว
- รอฝ่ายทะเบียนเรียกเพื่อนำรถไปตรวจสภาพ
- หลังผ่านการตรวจสภาพรถ นำเอกสารรับรองการตรวจสภาพมายื่นที่ฝ่ายทะเบียนอีกครั้ง
- เมื่อยื่นเอกสารที่ฝ่ายทะเบียน นั่งรอ จากนั้นจะได้รับ :-
- พาสปอร์ตรถ
- สติกเกอร์สัญลักษณ์รูปตัว T
- ใบรับรองการตรวจสภาพรถ
- ทะเบียนรถที่ถูกแปลเป็นทะเบียนสากลในรูปแบบกระดาษ A4
หมายเหตุ: กรณีต้องการป้ายทะเบียนรถยนต์ตัวจริง มีค่าคำขอ 5 บาท มัดจำป้ายอีก 200 บาท ใช้ระยะเวลารอ 4 เดือนค่อยมารับป้าย รวมค่าใช้จ่ายในการขอพาสปอร์ตรถไม่เกิน 200 บาท เมื่อรวมกับค่าคำขอทะเบียนตัวจริง 205 บาท ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 400 บาท
ขั้นตอนการนำรถข้ามด่านพรมแดนหนองคาย
เอกสารที่ต้องเตรียม
- พาสปอร์ตบุคคล
- พาสปอร์ตรถ (เล่มสีม่วง) หากข้ามครั้งแรกให้ทำบาร์โคดที่เคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ก่อน
- เล่มทะเบียนรถตัวจริง
- สำเนาทะเบียนรถระบุรายละเอียดรถและผู้ครอบครอง พร้อมสำเนาหน้า 16 และ 18 / สำเนาพาสปอร์ตรถ / สำเนาพาสสปอร์ตบุคคล อย่างละ 2 ชุด
ขั้นตอนการข้ามแดน ณ ด่านพรมแดนหนองคาย
- กรอกและยื่นเอกสาร ตม.2, ตม.3 (กรณีมีผู้โดยสาร) และ ตม.4 พร้อมพาสสปอร์ตบุคคลและพาสปอร์ตรถและสำเนาทั้งหมด ที่ช่องแรก (ช่อง 4D) เจ้าหน้าที่จะลงประทับตรา
- เมื่อเสร็จแล้วดำเนินการต่อที่ช่องศุลกากร (ช่อง 6D) เพื่อแจ้งรถออก ขั้นตอนนี้ใช้คู่มือรถเล่มจริงและพาสปอร์ตรถ เจ้าหน้าที่จะทำใบคุมรถให้ 2 แผ่น เมื่อเซ็นแล้วเจ้าหน้าที่จะให้นำมายื่นที่ช่อง 3
- นำรถมาข้างช่อง 3 เพื่อตรวจความเรียบร้อยของรายละเอียด คืนใบคุมรถให้เจ้าหน้าที่ 1 ใบ เก็บไว้เอง 1 ใบ จากนั้นข้ามสะพานได้เลย เสียค่าข้าม 20 บาท
- เมื่อขับรถมาถึงฝั่งลาว ให้เลี้ยวขวาไปตามลูกศร (รถต่างประเทศ) จากนั้นอ้อมไปด้านหลังตัวอาคาร 2 ชั้น เพื่อนำรถเข้าตรวจตรา เอกสารที่ต้องใช้ คือ พาสปอร์ตรถ พาสปอร์ตบุคคล กรอกใบขาเข้า (รวมถึงใบผ่านแดน) ย้ำว่าถ้าใบผ่านแดนให้ขึ้นไปถ่ายเอกสารก่อน พร้อมทั้งซื้อประกันภัยด้วย
- กลับมาที่ ตม. ฝั่ง สปป.ลาว ให้ซื้อใบนำรถเข้า (40 บาท) หน้าตาคล้ายใบ ตม.3 และให้ไปยื่นแจ้งคนเข้า จากนั้นเข้าช่องอัตโนมัติเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมจะมีเจ้าหน้าที่ช่วยกด จะได้เอกสารใบเล็กๆ มา 2 ใบ ใบแรกเป็น QR Code ใช้สแกนออกจากด่าน ใบที่สองเป็นรายละเอียดตัวรถ ให้เก็บไว้กับเรา
- เมื่อจ่ายเงินเสร็จกลับมาช่องที่มีไม้กั้น ให้ ตม. เซ็นเอกสารอีกครั้ง เสร็จแล้วสแกน QR Code ข้ามได้ทันที
ขั้นตอนการข้ามกลับมายังไทย
- นำเอกสารที่เราซื้อ 40 บาทในตอนแรก มายื่นให้เจ้าหน้าที่พร้อมพาสปอร์ตบุคคล (หรือใบผ่านแดน) และพาสปอร์ตรถ จากนั้นจ่ายค่าธรรมเนียมที่ตู้อัตโนมัติ (สามารถใช้เงินบาทไทยได้) เพื่อนำ QR Code มาสแกนออกด่าน
- เมื่อเจ้าหน้าที่เซ็นเอกสารแล้ว ให้นำ QR Code มาสแกนเพื่อข้ามด่านมายังฝั่งไทย (ด่านพรมแดนหนองคาย)
- เมื่อข้ามมายังฝั่งไทย ยื่นใบคุมรถที่ได้ตอนขาออก, ใบ ตม.2 แจ้งรถเข้า ยื่นตรวจที่ช่องคน และต่อด้วยช่องศุลกากร ขับรถไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจ เป็นอันเสร็จพิธีข้ามด่าน
หมายเหตุ:
- การนำรถจักรยานยนต์ข้ามไปลาวต้องผ่านบริษัททัวร์เท่านั้น
- ใช้ใบขับขี่ไทยได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ใบขับขี่สากล
อัลบั้มภาพ 10 ภาพ