ความหมายเลขทะเบียน 168 ใครมีติดรถถือว่ารวยมาก
มีคนจำนวนไม่น้อย นิยมซื้อหาป้ายทะเบียนเลขสวยมาใช้กับรถของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นป้ายประมูล หรือป้ายพื้นขาวปกติ ต่างก็มีมูลค่าซื้อขายกันตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักสิบล้านบาทก็มี แต่เคยสงสัยหรือไม่ว่าเลขทะเบียน 168 ที่ดูเผินๆ ก็ไม่ใช่เลขสวยอะไรนัก แต่ทำไมถึงมีมูลค่าซื้อขายกันตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักล้านบาท Sanook Auto จะพาไปหาคำตอบกัน
โดยมากแล้วเลขทะเบียนที่มีราคาพอจะซื้อขายกันได้นั้น มักจะเป็นชุดเลขที่ถูกนำไปประมูลโดยกรมการขนส่งทางบก เช่น เลขตัวเดียว, เลขคู่ (เลขเดียวเรียงกัน 2 ตัว), เลขตอง (เลขเดียวเรียงกัน 3 ตัว), เลขโฟว์ (เลขเดียวเรียงกัน 4 ตัว), เลขพัน (เช่น 1000, 2000 ฯลฯ), เลขคู่ (เช่น 1122, 8899 ฯลฯ), เลขสลับ (เช่น 1212, 8989 ฯลฯ), เลขหาบ (เช่น 1221, 8998 ฯลฯ) และเลขเรียง (เช่น 1234, 6789 ฯลฯ)
ถึงแม้ว่าจะเป็นป้ายทะเบียนพื้นขาวปกติ ไม่ใช่ป้ายประมูลที่มีพื้นหลังลวดลายกราฟิก แต่หากมีตัวเลขเหล่านี้อยู่ ก็ถือว่าเป็นป้ายที่มีมูลค่าสูงเช่นกัน แถมบางครั้งอาจมีมูลค่าสูงยิ่งกว่าป้ายประมูลด้วยซ้ำไป เพราะส่วนมากจะเป็นหมวดเก่าที่ไม่มีเลขนำหน้า ซึ่งปัจจุบันหาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
แต่มีเลขหนึ่งที่ไม่ได้เรียงกันสวยงาม แต่กลับมีมูลค่าซื้อขายกันตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักล้านบาท นั่นก็คือเลข "168" ซึ่งถือเป็นเลขมงคลของชาวจีน โดยเฉพาะทางฝั่งที่พูดภาษาจีนกวางตุ้งอย่างฮ่องกง เนื่องจาก 168 สามารถออกเสียงได้ว่า "ย่าห์-โหล่ว-ฟัด" โดย ย่าห์ พ้องเสียงกับคำว่า หนึ่งเดียว คำว่า โหล่ว พ้องกับคำว่า ทาง และ ฟัด พ้องกับคำว่า รวย
เมื่อรวมกันแล้วก็อาจตีความหมายได้ว่า "รวยทางเดียว" หรือ "รวยทุกทาง" บางคนก็ว่าเป็นเลขที่แสดงถึง "ฮก ลก ซิ่ว" ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความมงคลของจีน บางก็ว่าเป็นเลขที่สื่อถือ "เจ้าแม่กวนอิม" แต่โดยรวมแล้วก็หมายถึงเป็นเลขมงคล ใช้แล้วรวย รวยอยู่แล้วก็รวยยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเอง
หากทราบเช่นนี้แล้วต่อให้ทะเบียนรถของคุณไม่ใช่เลข 168 แบบตรงๆ แต่ถ้ามีเลข 168 ปนอยู่กับเลขอื่นด้วยแล้วล่ะก็ ถือได้ว่าเป็นเลขมงคลไม่น้อยทีเดียวล่ะครับ