ยื่นกู้ไฟแนนซ์บ่อยระวังติด "แท็กซิ่ง" ไม่รู้ตัว

ยื่นกู้ไฟแนนซ์บ่อยระวังติด "แท็กซิ่ง" ไม่รู้ตัว

ยื่นกู้ไฟแนนซ์บ่อยระวังติด "แท็กซิ่ง" ไม่รู้ตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ใครที่เคยมีประสบการณ์ยื่นกู้ไฟแนนซ์รถไม่ผ่าน อาจเคยได้ยินคำว่า "แท็กซิ่ง" กันมาบ้าง บางคนเหตุผลที่ไฟแนนซ์ไม่อนุมัติเพราะติดแท็กซิ่งเสียเองก็มี แล้วแท็กซิ่งที่ว่านี้คืออะไร? Sanook Auto จะพาไปหาคำตอบกัน

แท็กซิ่ง มาจากคำว่า Tracing

     "แท็กซิ่ง" ไม่ใช่รถแท็กซี่ และไม่ใช่การติดแท็กแล้วออกไปซิ่งไหนต่อไหน แต่มาจากคำศัพท์ภาษาอังกฤษว่า "Tracing" (ซึ่งอันที่จริงแล้วต้องออกเสียงว่า 'เทรส-ซิ่ง' ไม่ใช่ 'แท็ก-ซิ่ง' นะจ๊ะ) แปลตรงตัวหมายถึง การติดตาม, สืบเสาะ, สะกดรอย รวมไปถึง ร่องรอย, รอยทาง, รอยบันทึก เป็นต้น

     ซึ่งคำว่า แท็กซิ่ง (Tracing) ในความหมายของไฟแนนซ์หรือสถาบันการเงิน จะหมายถึง การที่ผู้ขอกู้มีประวัติการถูกยื่นตรวจสอบข้อมูลจากเครดิตบูโรซ้ำต่อเนื่องหลายครั้งในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งบ่งบอกว่าผู้กู้มีความร้อนรนในการยื่นกู้มากจนเกินไป สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดหนี้เสียในอนาคตได้

     เนื่องจากทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรมด้านสินเชื่อกับธนาคารหรือไฟแนนซ์ ไม่ว่าจะเป็นการกู้ซื้อบ้าน, ซื้อรถ, สมัครบัตรเครดิต, สินเชื่อส่วนบุคคล ฯลฯ ธนาคารจะทำการตรวจสอบประวัติทางการเงินของผู้ยื่นกู้กับทางเครดิตบูโร (ก็คือแผ่นกระดาษที่แบงก์มักจะให้เราเซ็นยินยอมเปิดเผยข้อมูลเครดิตนั่นแหละ) โดยทุกครั้งที่มีการยื่นตรวจสอบข้อมูล ทางเครดิตบูโรก็จะลงบันทึกว่ามีสถาบันการเงินไหนบ้างมายื่นตรวจสอบข้อมูลเครดิตของคุณ

     โดยหากมีการขอยื่นตรวจสอบข้อมูลซ้ำหลายครั้งเกินไป ธนาคารก็อาจให้สถานะผู้ขอกู้เป็น Tracing (หรือแท็กซิ่งตามที่ได้ยินกันบ่อยๆ) และจะไม่ได้รับการพิจารณาอนุมัติไปโดยปริยาย เนื่องจากสุ่มเสี่ยงว่าผู้ขอกู้อาจมีความเดือดร้อนด้านการเงิน ต้องกู้หนี้ก้อนใหม่ไปโปะหนี้ก้อนเก่า หรือหากเป็นการกู้ซื้อรถก็มีความเสี่ยงที่จะไม่ชำระค่างวดคืนได้

     ซ้ำร้ายไปกว่านั้น หากผู้ขอกู้มีประวัติถูกยื่นขอข้อมูลจากเครดิตบูโรบ่อยครั้ง แต่กลับพบว่าไม่มีบัญชีสินเชื่อใหม่ๆ ปรากฎในฐานข้อมูลเพิ่มขึ้นมาเลย ยิ่งเป็นการบ่งบอกว่าผู้ขอกู้ถูกปฏิเสธการอนุมัติสินเชื่อมาโดยตลอด ส่งผลให้โอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อริบหรี่ยิ่งกว่าแสงกะพริบจากหิ่งห้อยเสียอีก

ติด "แท็กซิ่ง" ทำอย่างไรดี?

     ไม่ว่าจะเรียก แท็กซิ่ง หรือ Tracing ก็ต้องเข้าใจก่อนว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเครดิตบูโรแต่อย่างใด ธนาคารหรือไฟแนนซ์ต่างหากที่เป็นฝ่ายแปะสถานะ Tracing ให้กับผู้ยื่นกู้ โดยเงื่อนไขสถานะของแต่ละธนาคารก็ย่อมแตกต่างกันออกไป บางแห่งอาจกำหนดให้ยื่นได้ไม่เกิน 4 ครั้ง บางแห่ง 6 ครั้ง บางแห่งอาจอนุโลมให้ถึง 8 ครั้ง ในรอบระยะเวลาแตกต่างกันไป อาจจะ 6 เดือน หรือ 1 ปี อันนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของธนาคารแต่ละที่

     ทางออกที่ดีที่สุดก็คงไม่พ้นการปรึกษากับตัวแทนของธนาคารหรือไฟแนนซ์แต่ละแห่งว่าจะต้องใช้ระยะเวลาเท่าใด จึงจะพ้นระยะ Tracing กับธนาคารแห่งนั้น เพราะแต่ละที่อนุโลมให้มากน้อยไม่เท่ากัน ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวใดๆ ทั้งสิ้น พูดง่ายๆ คือ "รอ" เท่านั้น

อย่าติด "แท็กซิ่ง" แต่แรกดีที่สุด

     สาเหตุของแท็กซิ่งมาจากการยื่นสินเชื่อกับสถาบันการเงินหลายแห่งในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งโดยมากแล้วเกิดจากการที่ผู้ยื่นกู้ไม่ได้รับการอนุมัติจากธนาคารที่ 1 จึงเปลี่ยนไปยื่นกู้กับธนาคารที่ 2 พอไม่ได้อีกก็เปลี่ยนไปธนาคารที่ 3 ทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ หรือบางกรณีใช้วิธีหว่านแหยื่นกู้พร้อมกันทีเดียวหลายแบงก์ก็มี โดยหวังว่าจะมีสักแห่งยอมอนุมัติสินเชื่อให้ แบบนี้ก็อาจทำให้โดนแท็กซิ่งได้

     ทางที่ดีการยื่นขออนุมัติสินเชื่อ ควรยื่นกับสถาบันการเงินที่ต้องการมากที่สุดเพียงแห่งเดียวเท่านั้น (จะใช้เกณฑ์ว่าให้ดอกเบี้ยต่ำกว่าที่อื่น อนุมัติง่าย หรือชอบเป็นการส่วนตัวก็ว่ากันไป) และสุดท้ายหากถูกปฏิเสธกลับมา พยายามหาคำตอบให้ได้ว่าถูกปฏิเสธเพราะอะไร จะได้แก้ไขปัญหาให้ตรงจุด มิเช่นนั้นแล้วหากผลีผลามไปยื่นธนาคารอื่นทันที ก็มีโอกาสสูงที่จะถูกปฏิเสธด้วยเช่นกัน

     เมื่อทราบเช่นนี้แล้วก็ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจยื่นสินเชื่อทุกครั้ง จะได้ไม่เกิดปัญหา "แท็กซิ่ง" ต่อไปในอนาคตนั่นเองครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook