"ฮอนด้า ซิตี้ ซีเอ็นจี" ยิ่งขับ...ยิ่งคุ้ม
แม้ว่าระดับราคาน้ำมันจะปรับลดลงมาแล้วจากการปรับโครงสร้างราคา แต่ก็ต้องยอมรับว่าอย่างไรเสียแนวโน้มเชื้อเพลิงชนิดนี้ก็มีแต่ดีดตัวสูงขึ้น ทำให้พลังงานก๊าซธรรมชาติดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากกว่า แม้หลายคนจะอยากใช้รถติดตั้งก๊าซ แต่ก็ยังกล้า ๆ กลัว ๆ กับบริการอู่ติดตั้งทั่วไป โดยเฉพาะปัญหาจุกจิกกวนใจ
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เลยส่งรถซีเอ็นจีใหม่มาเติมเต็มความต้องการตรงนี้ กับการเลือกรถบีคาร์รุ่นขายดีอย่างฮอนด้า ซิตี้ ที่คนไทยไว้วางใจนำมาติดตั้งชุดอุปกรณ์ซีเอ็นจีจากโรงงาน ซึ่งเชื่อมั่นได้กับการรับประกันโดยศูนย์บริการรถยนต์ฮอนด้าทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งแน่นอนว่า "ประชาชาติธุรกิจ" ก็ไม่พลาดที่จะไปทดสอบมาไขข้อข้องใจผู้อ่านว่าจะคุ้มค่าคุ้มราคาจริงหรือไม่
นัดพบเพื่อทดสอบกันที่โชว์รูมพระนครฮอนด้าออโตโมบิลจำกัด สาขาหลักสี่-รามอินทรา สำหรับทริปทดสอบ กางแผนที่จิ้มไปที่ จ.นครนายก ซึ่งเป็นระยะที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก ก่อนไปทีมงานฮอนด้าจัดการเติมก๊าซไว้เต็มถังเรียบร้อย "ประชาชาติธุรกิจ" ขอจับคู่กับพี่ผู้สื่อข่าวจาก "เดลินิวส์" โดยรับหน้าที่ทดสอบก่อน เริ่มต้นสตาร์ตด้วยน้ำมันก่อน หลังจากนั้นเครื่องยนต์จะเปลี่ยนโหมดการใช้พลังงานโดยอัตโนมัติ แต่สามารถเลือกการใช้งานได้ จะน้ำมันหรือก๊าซ แค่กดปุ่ม ซึ่งติดตั้งบริเวณด้านหน้าฝั่งคนขับใกล้ ๆ กับคอพวงมาลัย ถ้าระบบซีเอ็นจีทำงานก็จะปรากฏไฟสีเขียวเพื่อยืนยันว่าเครื่องยนต์ได้ใช้พลังงานจากซีเอ็นจีแล้ว และเมื่อเปลี่ยนมาใช้น้ำมันก็จะกลับเป็นสีแดง
เราขับรถขึ้นทางด่วนฉลองรัชต่อทางด้วยกาญจนาภิเษก มุ่งหน้ารังสิต-นครนายก ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ได้สัมผัสรถคันนี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินทั่วไป การสลับเปลี่ยนโหมดมาใช้ก๊าซทำได้อย่างลื่นไหล การขับขี่ก็ค่อนข้างลงตัว ช่วงล่างแข็งขึ้นด้วยการเพิ่มคานครอสบาร์เสริมความแข็งแกร่ง และระบบวีฮิเคิล สตาบิลิตี้ แอสซิส หรือวีเอสเอ ที่ช่วยควบคุมการทรงตัวในขณะเข้าโค้ง ให้เราขับอย่างมั่นใจมากขึ้น
ซิตี้ ซีเอ็นจีใช้เครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ให้พละกำลัง 120 แรงม้า แรงบิด 145 นิวตันเมตร ขณะที่ระบบซีเอ็นจี ให้พละกำลัง 102 แรงม้า แรงบิด 107 นิวตันเมตร ซึ่งควบคุมด้วยอีซียูที่กำหนดการจ่ายก๊าซและช่วยตัดการจ่ายก๊าซหากเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมถึงระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดที่ควบคุมการจ่ายก๊าซด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ทำงานร่วมกันอย่างไหลลื่น ไม่รู้สึกว่าจังหวะรถออกตัวหรือจังหวะเร่งแซงอืดอาด
นอกจากนี้ รถรุ่นนี้ยังมีการพัฒนาใหม่ในหลายด้าน อาทิ แชสซีใหม่ที่ทำให้การขับขี่คล่องตัว มีการลดน้ำหนักตัวรถลง 5.4% ทำให้บอดี้มีความแข็งแรง แต่น้ำหนักเบาลง เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และยังมีอุปกรณ์ที่ครบครันทั้งระบบสตาร์ตอัจฉริยะ วิทยุพร้อมระบบเชื่อมต่อบลูทูท และอีโคโค้ชชิ่งที่ช่วยแนะนำให้เราขับรถได้ประหยัดมากขึ้น
ใช้เวลาไม่นานก็ถึงจุดหมายปลายทางที่ร้านกาแฟมีนา วิลล่า จ.นครนายก แวะพักผ่อนกันเล็กน้อยก่อนจะมุ่งหน้าเดินทางกลับมายังโชว์รูม รวมระยะทางไป-กลับประมาณ 200 กิโลเมตร ก่อนเข้าโชว์รูมแวะเติมก๊าซอีกที จุดเติมก็อยู่ตำแหน่งเดียวกับน้ำมัน สะดวก ใช้งานง่าย มีลิ้นที่ป้องกันการไหลย้อนกลับของก๊าซด้วย
ถังก๊าซขนาดความจุ 65 ลิตร ได้ 13.7 กิโลกรัม เช็กอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยทำได้ราว 60 สตางค์ต่อกิโลเมตร ซึ่งสูงกว่าตัวเลขที่ฮอนด้าเคลมไว้เล็กน้อยที่ 50 สตางค์ต่อกิโลเมตร
งานนี้เลยคอนเฟิร์มได้ว่า ฮอนด้า ซิตี้ ซีเอ็นจี ตอบโจทย์ได้ดี ทั้งขนาดของห้องโดยสารที่ใหญ่ ความสะดวกสบายในการขับขี่ พื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลังที่แม้จะติดตั้งถังก๊าซ แต่ก็ยังสามารถบรรจุของใส่ถุงกอล์ฟได้สบาย ๆ แถมยังประหยัดน้ำมัน และหมดห่วงเรื่องการเข้าศูนย์บริการด้วย
ซิตี้ ซีเอ็นจี น่าจะเป็นคำตอบที่ดีสำหรับคนที่ต้องการความคุ้มค่าคุ้มราคา ในราคาเริ่มต้นที่ 6.12 แสนบาท แถมซื้อตอนนี้แคมเปญดี ๆ รออยู่ที่โชว์รูมฮอนด้าอีกเพียบ