Toyota C-HR รถดี ที่ต้องจากลา
แม้รถยนต์ “โตโยต้า C-HR” จะเปิดตัวโฉมใหม่เจเนอเรชันที่ 2 ในฝั่งยุโรปไปไม่นานมานี้ แต่เป็นที่แน่นอนแล้วครับว่า เอสยูวีซับคอมแพ็กรุ่นนี้จะไม่ได้ไปต่อในบ้านเรา หลังมีการยืนยันจากโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ว่าได้ยุติการขาย C-HR ในเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผมจำได้เลยว่าก่อนที่ C-HR จะเข้ามาทำตลาดในบ้านเรา ด้วยรูปโฉมที่ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัย ฉีกแนวจากโตโยต้ารุ่นก่อน ๆ ไปเยอะมาก ทำให้มีกระแสตอบรับจากทั้งสื่อมวลชนและคอรถยนต์ในโลกโชเซียลว่า “ปังแน่นอน” และตอนนั้นถือเป็นการเปิดตัวมาชนกับ ฮอนด้า HR-V เวอร์ชันไมเนอร์เชนจ์พอดี
ที่มาของชื่อรุ่น C-HR ข้อมูลอย่างเป็นทางการของโตโยต้าระบุว่ามาจาก Compact High Rider และ Cross Hatch Run-about คือเป็นรถ SUV แบบครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก ที่อยู่ตรงกลางระหว่าง Corolla Cross และ Yaris Cross ซึ่งภาพแรกที่ได้เห็นก็ต้องยอมรับมันสวยจริง ๆ ล่ะครับ
จากประสบการณ์ของผมเองที่เคยได้ไปทดลองขับและรีวิวแทบทุกสำนัก รวมถึงฟีดแบ็กของผู้ที่ใช้งานจริงก็ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ช่วงล่าง” คือจุดเด่นของรถรุ่นนี้ โดยแม้จะเป็นรถยกสูง แต่ช่วงล่างไว้ใจได้เลยทีเดียว แม้ผมจะเคยลองขับแค่ช่วงสั้น ๆ แต่จำได้ว่า นุ่ม-หนึบ กว่ารถญี่ปุ่นในระดับเดียวกันพอสมควรครับ
ช่วงล่างดีขนาดไหน ถึงขนาดที่ทีมแข่งแรลลี่หลาย ๆ ทีมยังเลือกใช้รถรุ่นนี้เอามาทำรถแข่งลงสนามฝุ่นมาแล้ว อย่าง “สิงห์ทะเลทราย” หนึ่ง-มานะ พรศิริเชิด ก็เลือกใช้รถรุ่นนี้ไปปรับแต่งเป็นรถแรลลี่ลงแข่งให้ทีมโตโยต้ามาหลายรายการ ทั้ง RAAT ไทยแลนด์ แรลลี่ แชมเปียนชิป รวมถึง เอเชีย แปซิฟิก แรลลี่ คัพ ในต่างประเทศก็ใช้รุ่นนี้ลุยมาแล้ว
พูดถึงเรื่อง “ช่วงล่าง” จริง ๆ แล้วคำนิยามว่ารถคันไหนช่วงล่างดีหรือไม่ดี บางทีมันก็ไม่ได้มีตัวชี้วัดที่ชัดเจนแต่อย่างใดนะครับ ผมคิดว่ามันขึ้นกับฟิลลิ่งของผู้ขับล้วน ๆ ยกตัวอย่างสมัยก่อนผมเคยขับรถญี่ปุ่นหลายยี่ห้อ แต่พอได้ไปลองเทสต์ ฟอร์ด โฟกัส มันคือความแตกต่างที่ชัดเจน จนทำให้ผมตัดสินใจจองในทันที (ก่อนที่จะเจ็บตัวในวันที่ขายต่อ ฮ่า ๆ)
หลังจากโตโยต้า C-HR เปิดตัวในบ้านเราในช่วงต้นปี 2018 ถือเป็นการเขย่าวงการก็ว่าได้นะครับ ทั้งจากดีไซน์เรื่องของความแปลกใหม่ที่เข้ามาในช่วงเวลานั้น รวมถึงสมรรถนะ อัตรากินน้ำมันเชื้อเพลิงก็ไม่ได้แย่ มีทั้งรุ่นเบนซิน 1.8 และรุ่นไฮบริดให้เลือก ทำให้ C-HR ขยับขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งของรถในระดับเดียวกันได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ดีอีก 2 ปีต่อมา เมื่อโตโยต้าเปิดตัว Corolla Cross ทำตลาดควบคู่ไปด้วยในบ้านเรา นั่นเป็นจุดที่ทำให้ยอดขายของ C-HR จากขาขึ้นกลายเป็นขาลง จนต้องลดรุ่นที่จำหน่าย เหลือเพียงตัวแพงอย่างไฮบริดเท่านั้น ก่อนที่จะมีการยืนยันล่าสุดเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ว่ายุติการจำหน่าย C-HR รวมถึงไม่มีแผนที่จะนำรถเจน 2 เข้ามาขายด้วย
ตอนที่ Corolla Cross เปิดตัวในบ้านเรา หลายคนก็ยังงงว่า มันต่างอะไรกับ C-HR แม้โตโยต้าจะเคลมว่า Corolla Cross จะอยู่ในระดับที่เหนือกว่าเล็กน้อยก็ตาม ซึ่งจากฟีดแบ็กของผู้ใช้ ทำให้พอจะสรุปได้ว่า Corolla Cross เหนือกว่าตรงที่ความอเนกประสงค์ในการใช้งาน และใช้เป็นรถครอบครัวได้ดีกว่า โดยเฉพาะหน้าต่างแถวสองที่ไม่อึดอัดเหมือน C-HR
หากมองในมุมค่ายรถ ถือว่าเป็นเรื่องปกติมากครับ หากรุ่นไหนขายไม่ดีก็หยุดซะ ซึ่งก็มองได้เหมือนกันว่ามันนี่คือกลยุทธ์ที่ใช้ C-HR เข้ามาเบรกกระแส ฮอนด้า HR-V ก่อน พร้อมกันนั้นก็เพื่อคั่นเวลาก่อนถึงคิว Corolla Cross จะเปิดตัว และสุดท้ายก็ดูฟีดแบ็กว่ารถรุ่นไหนจะปังกว่ากันก็ได้ไปต่อเท่านั้นเอง
สุดท้ายใครที่ใช้รถโตโยต้า C-HR แล้วเห็นข่าวว่าเลิกขายในบ้านเราแล้ว ก็ไม่ต้องตกใจไปนะครับ อะไหล่ หรือการซ่อมต่าง ๆ โตโยต้าจัดการต่อให้เหมือนเดิมไม่มีปัญหา ส่วนราคามือสองตอนนี้ก็หาได้ตั้งแต่ 4 แสนปลาย ๆ แม้จะไม่ได้ไปต่อในตลาดป้ายแดง แต่ในตลาดมือสองถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยนะครับ