Mercedes-Maybach S 580 e 2024 รุ่นประกอบในประเทศ ตัวถังสีทูโทน (Obsidian black / High-tech silver) พร้อมขุมพลัง Plug-in Hybrid แบบ 6 สูบ กำลังสูงสุด 510 แรงม้า เคาะราคาจำหน่าย 11,200,000 บาท

Mercedes-Maybach S 580 e ถูกพัฒนาให้เป็นรถยนต์ระดับ High-end Luxury ที่ถูกประกอบในประเทศไทยเป็นครั้งแรก และยังถือเป็นประเทศแรกที่ขึ้นไลน์ผลิตตัวถังสีทูโทนแบบ Local Production ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าได้เป็นระยะทางสูงสุดกว่า 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (WLTP) และรองรับการชาร์จได้ทั้งแบบ AC (ชาร์จปกติ) และ DC (ชาร์จด่วน)

Mercedes-Maybach S 580 e ติดตั้งไฟหน้าแบบ DIGITAL LIGHT พร้อมระบบไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist Plus ควบคู่กับระบบปรับโคมไฟหน้าตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS (Active Light System) และไฟส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (Cornering Light) รับกับกระจังหน้า Radiator grille แบบโครเมียมประดับด้วยตราสัญลักษณ์ Maybach

mercedes-maybachs580e_26

ภายนอกยังถูกติดตั้งไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยี Fibre-optic ติดตั้งกระจกหน้าต่างรอบคันแบบ Laminated glass ที่มีคุณสมบัติช่วยสะท้อนความร้อน ป้องกันรังสีอินฟราเรดและลดเสียงรบกวนจากภายนอก พร้อมช่วงล่างแบบถุงลม AIRMATIC ที่สามารถปรับตั้งค่าให้เหมาะสมกับการขับขี่ ความเร็ว และน้ำหนักบรรทุกได้โดยอัตโนมัติ และล้อ MAYBACH แบบ Forge wheels ขนาด 20 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งแผงคอนโซลกลางแบบ Black crystal-look ติดตั้งหน้าจอแสดงผลแบบ OLED ขนาด 12.8 นิ้ว และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Digital ที่ปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ บริเวณเหนือเพดานตกแต่งอย่างประณีตด้วย DINAMICA microfibre คุณภาพสูง พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน หุ้มหนัง Nappa ที่มีปุ่มควบคุมแบบ Touch Control

mercedes-maybachs580e_41

เบาะนั่งโดยสารหุ้มวัสดุหนัง Exclusive Nappa ที่ตกแต่งแบบ Diamond design และเบาะนั่งด้านหลังแบบ First-Class พร้อมฟังก์ชันนวดเพื่อความผ่อนคลายขณะเดินทาง อีกทั้งยังติดตั้งระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC แบบ 4-ZONE พร้อมระบบปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร (AIR BALANCE package) ระบบฟอกอากาศ HEPA Filter และระบบตรวจจับฝุ่นละออง PM 2.5 เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

Mercedes-Maybach S 580 e ยังถูกติดตั้งระบบผู้ช่วยส่วนตัว MBUX Interior Assistant สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ทำงานผ่านระบบปฏิบัติการ MBUX ที่รองรับระบบ Music streaming service, ระบบแผนที่ทำงาน, ระบบตรวจสอบสภาพการจราจร Live Traffic Information และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® 3D surround sound system

นอกจากนี้ ภายในห้องโดยสารยังถูกติดตั้ง Ambient lighting ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารด้วยไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารปรับได้ 64 สี รวมถึง 2 เฉดสีพิเศษ ได้แก่ สี Twinkle-star และสี Rosé gold ที่มีเฉพาะ Mercedes-Maybach เท่านั้น

mercedes-maybachs580e_42

Mercedes-Maybach S 580 e ถูกติดตั้งโปรแกรมการขับขี่ "MAYBACH" ที่พัฒนาขึ้นเพื่อเน้นความผ่อนคลายสูงสุดให้แก่ผู้โดยสารตอนหลัง โดยควบคุมการทำงานของช่วงล่างเพื่อมอบการขับขี่ที่นุ่มสบายมากที่สุด ขณะเดียวกันก็สามารถปรับการทำงานของคันเร่งเพื่อให้ออกตัวได้อย่างนุ่มนวล ขณะที่โปรแกรม "COMFORT" จะให้ความสมดุลสำหรับผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลังอย่างเหมาะสม รวมถึงโปรแกรมอื่นๆ ภายใต้ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECT

ด้านระบบความปลอดภัยมีการติดตั้งฟังก์ชันขอความช่วยเหลืออัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistant package ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน (Active Emergency Stop Assist) ระบบควบคุมพวงมาลัยและเตือนเมื่อปล่อยมือ (Active Steering Assist with hands-off warning) และระบบ ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill-start Assist เป็นต้น

อีกทั้งยังมีการติดตั้งระบบช่วยจอด Active Parking Assist with PARKTRONIC ทำงานคู่กับกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360° ที่จะช่วยน ารถเข้าจอดได้อย่างง่ายดายผ่านการส่งสัญญาณเสียง เพื่อควบคุมการเข้าจอดได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

mercedes-maybachs580e_14

Mercedes-Maybach S 580 e ใหม่ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 6 สูบ Plug-in Hybrid พร้อมเทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์ ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร เมื่อทำงานร่วมกันจะมีพละกำลังสูงสุดรวม 510 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กม./ชม.

ระบบปลั๊กอินไฮบริดของ Mercedes-Maybach S 580 e ทำงานคู่กับแบตเตอรี่แบบ Luthium-ion ความจุ 28.6 kWh สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนได้เป็นระยะทางกว่า 100 กิโลเมตรเมื่อชาร์จจนเต็ม (ตามมาตรฐาน WLTP) รองรับการชาร์จด่วน (DC Charge) สูงสุด 60 kWh ใช้เวลา 30 นาที และการชาร์จแบบปกติ (AC Charge) สูงสุด 11 kWh ใช้เวลาชาร์จ 2 ชั่วโมง 30 นาที

Mercedes-Maybach S 580 e (CKD) ตัวถังสีทูโทน Obsidian black / High-tech silver เคาะราคาจำหน่ายทางการอยู่ที่ 11,200,000 บาท

อัลบั้มภาพ ราคาทางการ Mercedes-Maybach S580e (CKD) สีทูโทน เคาะ 11,200,000 บาท ภาพที่ 14 / 47

ราคาทางการ Mercedes-Maybach S580e (CKD) สีทูโทน เคาะ 11,200,000 บาท