"ปารีส" จ่อเพิ่มค่าที่จอดเอสยูวีขึ้น 3 เท่า จ่ายชั่วโมงละเกือบ 7 ร้อยบาท

ชาวปารีสลงคะแนนเสียงเห็นชอบมาตรการปรับเพิ่มค่าที่จอดรถสำหรับเอสยูวี (SUV) ในเขตใจกลางเมืองขึ้น 3 เท่า ส่งผลให้ผู้ที่ขับรถประเภทดังกล่าวอาจต้องจ่ายค่าที่จอดรถสูงถึง 18 ยูโร หรือเกือบ 700 บาทต่อชั่วโมง

ชาวเมืองหลวงของฝรั่งเศสลงคะแนนเสียงกว่าร้อยละ 54.5 เพื่อสนับสนุนมาตรการเพิ่มค่าที่จอดรถประเภท SUV ในย่านใจกลางเมืองปารีสขึ้น 3 เท่า โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อต่อสู้กับปัญหามลพิษในเขตที่มีผู้อยู่อาศัยหนาแน่น และยังถือเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของโลก

Anne Hidalgo นายกเทศมนตรีกรุงปารีสกล่าวถึงสาเหตุในการมุ่งเป้าปรับเพิ่มค่าที่จอดรถเอสยูวีใจกลางเมืองหลวงนั้น อันเนื่องมาจากเหตุผลด้านความปลอดภัยบนท้องถนน มลพิษทางอากาศ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมทั้งอ้างอิงรายงานของ World Wide Fund Nature ที่ระบุว่ารถเอสยูวีปล่อยมลพิษมากกว่ารถเก๋งถึง 20% และคนเดินถนนที่ถูกชนโดยรถเอสยูวียังมีโอกาสเสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าอีกด้วย

อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าวจะบังคับใช้กับรถเอสยูวีที่มาจากต่างถิ่นเท่านั้น โดยหากไม่ได้เป็นผู้ที่พำนักอาศัยอยู่ใจกลางกรุงปารีสที่ได้รับอนุญาตจากทางการ จะต้องเสียค่าจอดรถชั่วโมงละ 18 ยูโร หรือประมาณ 690 บาท ในช่วงระยะเวลา 2 ชั่วโมงแรก เทียบกับรถยนต์นั่งปกติที่จ่ายเพียง 6 ยูโร หรือประมาณ 230 บาทต่อชั่วโมงเท่านั้น

ไม่เพียงเท่านี้ หากจอดรถทิ้งไว้เกิน 2 ชั่วโมง ค่าที่จอดก็จะถูกปรับเพิ่มตามระยะเวลาที่ล่วงเลย โดยแหล่งข่าวระบุว่าหากจอดรถเอสยูวีใจกลางกรุงปารีสนาน 6 ชั่วโมง จะต้องเสียค่าที่จอดรถสูงถึง 225 ยูโร หรือกว่า 8,600 บาท เทียบกับรถเก๋งปกติที่จ่ายเพียง 75 ยูโร หรือประมาณ 2,800 บาทเท่านั้น (ซึ่งก็ถือว่าแพงมากอยู่ดี)

มาตรการปรับเพิ่มค่าที่จอดรถ 3 เท่าดังกล่าว ยังเตรียมบังคับใช้กับรถสันดาปและรถไฮบริดที่มีน้ำหนักเกินกว่า 1.6 ตัน รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเกิน 2 ตัน ซึ่งจะถูกชาร์จในอัตราเดียวกับรถเอสยูวีที่มาจากต่างถิ่นเช่นกัน

อย่างไรก็ดี ปารีสถือเป็นหนึ่งในมหานครที่ทุ่มเทอย่างหนักเพื่อสนับสนุนการใช้จักรยานแทนรถยนต์ โดยทางการได้มีการเพิ่มทางจักรยานระยะทางรวมกว่า 84 กิโลเมตรนับตั้งแต่ปี 2020 ที่ผ่านมา ขณะที่ประชาชนก็หันมาใช้จักรยานเพิ่มขึ้นถึง 71% นับตั้งแต่มีการล็อกดาวน์ช่วงโควิด-19 จนถึงปีที่ผ่านมา