"BMW Driving Experience" โปรแกรมยกระดับทักษะการขับขี่จากสนามแข่ง
ทำความรู้จัก BMW Driving Experience โปรแกรมฝึกอบรมการขับขี่รถยนต์ด้วยหลักสูตรจากเยอรมนี พร้อมสัมผัสรถบีเอ็มดับเบิลยูหลากรุ่นกับทีมผู้ฝึกสอนที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานของบีเอ็มดับเบิลยู
BMW Driving Experience เป็นโปรแกรมฝึกอบรมการขับขี่รถยนต์อย่างถูกต้องและปลอดภัย เพื่อให้ผู้ขับสามารถประเมินสถานการณ์และรับมือได้อย่างเหมาะสม โดยโปรแกรมดังกล่าวเริ่มขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2520 ในประเทศเยอรมนี ซึ่งดำเนินการโดย BMW Motorsport GmbH ด้วยเป้าหมายที่ยังคงสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน นั่นคือ การถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ใช้สำหรับการฝึกอบรมนักแข่ง มาให้แก่ผู้ใช้ยานพาหนะทั่วไป เพื่อยกระดับศักยภาพระหว่างคนกับรถยนต์ ให้ได้ทักษะการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ
สำหรับในประเทศไทย ทางบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้จัดคอร์สฝึกอบรม BMW Driving Experience ครั้งแรกในเดือนกันยายน พ.ศ. 2547 โดยปีนี้นับเป็นปีที่ 20 ของกิจกรรม BMW Driving Experience ในประเทศไทย ซึ่งได้มีการยกระดับรูปแบบของโปรแกรมให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นและขยายศักยภาพในการรองรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ถึง 30 คน ภายใต้ความร่วมมือของผู้สนับสนุน 3 ราย ได้แก่ อีโวลท์ เทคโนโลยี จำกัด, มิชลิน ประเทศไทย และบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย
โปรแกรมดังกล่าวเน้นให้ผู้เข้าร่วมได้เสริมความสามารถในการขับขี่ ผ่านการเรียนรู้ทักษะการขับขี่ที่ท้าทาย และสนุกสนาน เน้นย้ำการขับขี่อย่างปลอดภัย ช่วยปรับปรุงทักษะการขับขี่ทั่วไปและการตอบสนองในกรณีฉุกเฉิน ดำเนินการโดยทีมผู้ฝึกสอนที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานของบีเอ็มดับเบิลยู
คอร์สของ BMW Driving Experience ประกอบด้วย
1. ระดับ Basic (ราคา 8,000 บาท) เหมาะกับผู้ที่มีทักษะการขับขี่ทุกระดับ เน้นการเสริมทักษะที่จำเป็นในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินและขับขี่ได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยผู้ขับขี่จะได้ฝึกฝนทักษะด้วยรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องยนต์สันดาปอย่างบีเอ็มดับเบิลยู M340i xDrive ระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดอย่างบีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นล่าสุดอย่างบีเอ็มดับเบิลยู i5 M60 xDrive โดยจะครอบคลุมการฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ดังนี้
- การปรับท่านั่งและการหมุนพวงมาลัยที่ถูกต้อง
- การเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม.
- การเปลี่ยนช่องทางกะทันหันที่ความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม.
- การเบรกฉุกเฉินพร้อมเปลี่ยนช่องทางกะทันหันที่ความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม.
- การแก้อาการรถเสียหลักหลุดโค้ง
- การแก้อาการรถหมุน
- การฝึกขับแบบสลาลมจับเวลา
ทั้งนี้ ผู้เข้าฝึกอบรมจะได้รับทั้งความรู้ ทักษะ และความสนุกในการขับขี่ไปพร้อมกัน เมื่อสิ้นสุดการอบรม จะได้รับประกาศนียบัตรจากบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งสามารถนำไปใช้ต่อยอดในการเรียนทักษะการขับขี่ขั้นสูงของบีเอ็มดับเบิลยูในระดับสากลได้อีกด้วย
2. ระดับ Advanced (ราคา 9,000 บาท) คอร์สอบรมที่มีความเข้มข้นและท้าทายยิ่งขึ้นด้วยการฝึกฝนเทคนิคการขับขี่ขั้นสูง เพื่อใช้แก้สถานการณ์คับขันบนท้องถนนในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงเทคนิคการขับขี่แบบพิเศษ เพื่อให้ผู้ร่วมฝึกได้นำเอาศักยภาพของทั้งตนเองและรถยนต์ออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งผู้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมระดับ Advanced จะต้องผ่านการอบรมคอร์ส Basic และได้รับใบประกาศนียบัตรมาแล้ว โดยจะได้ฝึกอบรมทักษะต่าง ๆ ดังนี้
- การเบรกฉุกเฉินในโค้งที่ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม.
- การเปลี่ยนช่องทางกะทันหันสองจังหวะพร้อมเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม.
- ดริฟต์แบบครึ่งวงกลม
- กลับรถ 180 องศาแบบฉุกเฉิน
- ดริฟต์แบบวงกลม
- การฝึกขับยิมคาน่าจับเวลา
3. คอร์ส BMW M Driving Experience (ราคา 15,000 บาท) โปรแกรมฝึกฝนทักษะการขับขี่เพื่อดึงความสามารถของทั้งผู้ขับขี่และรถยนต์ออกมาใช้ในสนามแข่งได้อย่างเต็มที่ โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้สัมผัสรถยนต์สมรรถนะสูงกับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในตระกูล M ที่มาพร้อมขุมพลังมอเตอร์สปอร์ตสุดเร้าใจ ณ สนามพีระเซอร์กิต ซึ่งเป็นสนามแข่งระดับตำนานของประเทศไทย เพื่อท้าทายขีดจำกัดและสนุกสนานกับความเร็วภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมผู้ฝึกสอน โดยผู้ร่วมกิจกรรมต้องเป็นผู้ที่ผ่านการอบรมคอร์ส Basic Training Course และ Advanced มาเรียบร้อยแล้ว สำหรับทักษะที่จะได้อบรมในคอร์ส BMW M Driving Experience ได้แก่
- การทำความเข้าใจไลน์แข่งรถ
- การฝึกเข้าไลน์สนามแบบโค้งยูเทิร์น
- การฝึกเข้าไลน์สนามแบบโค้ง 90 องศา
- การขับในสนามรอบใหญ่ตามรถนำขบวน (ใช้เวลาครึ่งวัน)
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมและจองคอร์สการฝึกอบรมได้ที่ https://www.bmw.co.th/th/topics/fascination-bmw/driving-experience/overview.html หรือโทรติดต่อ 095-169-1919 เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
อัลบั้มภาพ 32 ภาพ