เพิ่งจะรู้! หากเหยียบ "คันเร่ง" กับ "เบรก" พร้อมกันจะเกิดอะไรขึ้น
เคยสงสัยหรือไม่ว่าหากเผลอเหยียบ "แป้นคันเร่ง" กับ "แป้นเบรก" ไปพร้อมกัน จะส่งผลอย่างไรบ้าง? บทความนี้ Sanook Auto มีคำตอบมาฝากกัน
เหยียบคันเร่งและเบรกพร้อมกันจะเกิดอะไรขึ้น?
โดยปกติแล้วเครื่องยนต์และเบรกจะทำงานแยกส่วนกันอย่างชัดเจน โดยหากผู้ขับขี่เกิดเผลอเหยียบคันเร่งและเบรกไปพร้อมกันขณะเข้าเกียร์ D แล้วล่ะก็ เครื่องยนต์ก็จะสร้างกำลังส่งผ่านชุดเกียร์ไปยังล้อ ขณะที่ระบบเบรกก็จะคอยยั้งไม่ให้รถเคลื่อนที่ หรือเคลื่อนที่ได้ช้าลง
ซึ่งกรณีเช่นนี้เคยสร้างความระทึกขวัญให้กับผู้ใช้รถจำนวนไม่น้อย เพราะหลายครั้งที่ผู้ขับขี่เกิดความสับสนระหว่างแป้นคันเร่งและแป้นเบรก อาจเผลอเหยียบทั้งสองแป้นพร้อมกันอย่างเต็มแรง ทำให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าหรือข้างหลังโดยไม่ตั้งใจ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้
หรืออย่างกรณีที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ เคยมีรายงานว่ารถมีปัญหาคันเร่งค้าง ทำให้รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง แม้ว่าจะพยายามเหยียบเบรกอย่างเต็มแรงแค่ไหน รถก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะชะลอความเร็วลง กลายเป็นเคสที่ทำให้ผู้ใช้รถเกิดความหวาดกลัวไปช่วงหนึ่งเลยทีเดียว
ระบบ BOS ช่วยป้องกันการเหยียบคันเร่งโดยไม่ตั้งใจ
รถตั้งแต่ยุคปี 2000 ขึ้นมา เริ่มมีการติดตั้งระบบ BOS หรือ Brake Override System เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน หากระบบตรวจพบว่าแป้นคันเร่งและแป้นเบรกถูกเหยียบในเวลาเดียวกัน ระบบจะสั่งตัดการทำงานของคันเร่ง เครื่องยนต์จึงไม่มีพละกำลังมากพอที่จะทำให้รถพุ่งไปข้างหน้า ช่วยป้องกันกรณีผู้ขับขี่เกิดความสับสนระหว่างแป้นคันเร่งและแป้นเบรกจนเผลอเหยียบไปพร้อมกัน รวมถึงป้องกันกรณีรถเกิดอาการคันเร่งค้าง (ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก) จนนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้
ระบบ BOS ทำงานบนพื้นฐานว่าการเหยียบคันเร่งและเบรกพร้อมกันถือเป็นลักษณะการขับขี่ที่ผิดปกติ หากระบบตรวจพบว่าแป้นทั้งสองถูกเหยียบในเวลาเดียวกัน แสดงว่าผู้ขับขี่มีความต้องการที่จะหยุดรถ จึงตัดการทำงานของคันเร่งเพื่อให้ระบบเบรกสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
แล้วถ้ารถคันเร่งค้างจริงๆ จะทำอย่างไร?
หากว่าโชคร้ายรถเกิดคันเร่งค้างขึ้นมาจริงๆ แถมรถก็ไม่มีระบบ Brake Override System มาด้วยแล้วล่ะก็ วิธีที่ง่ายและได้ผลดีที่สุดในการชะลอความเร็วและหยุดรถ คือการผลักคันเกียร์ไปยังตำแหน่ง N หรือกรณีรถเกียร์ธรรมดาก็เพียงแค่เหยียบคลัตช์และผลักเกียร์ไปตำแหน่ง N ก็จะเป็นการตัดกำลังจากเครื่องยนต์ไปสู่ล้อ ช่วยให้รถอยู่ในพิสัยที่สามารถควบคุมได้อย่างปลอดภัย
ทางที่ดีการขับรถเกียร์อัตโนมัติ ควรใช้เท้าข้างขวาในการควบคุมแป้นคันเร่งและเบรกเพียงข้างเดียวเท่านั้น หลีกเลี่ยงการขับรถด้วยเท้าทั้งสองข้าง ก็จะช่วยลดโอกาสเกิดความผิดพลาดและเสี่ยงต่ออุบัติเหตุได้มากโขแล้วล่ะครับ