ประสบการณ์รถพัง เยิน และการเช็ครถง่ายๆ ในแบบผู้หญิงๆ
เกิดเป็นผู้หญิงสมัยนี้แสนยุ่งยากยิ่งนัก ต้องเก่งทั้งการบ้าน การเรือน รวมถึงเรื่องใต้กระโปรงก็ต้องเริ่ดด้วย แหน่ะๆ อย่าคิดไปไกล ทิชชี่หมายถึง เรื่องใต้กระโปรงรถค่ะ
ทิชชี่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยใส่ใจดูแลรถเลย ตะบี้ตะบันขับเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทางไปวันๆ รู้แค่ต้องเติมน้ำมัน เติมแก๊ส เท่านั้นจริงๆ เรื่องอื่นทิชชี่ให้พ่อเป็นคนจัดการดูแลตรวจเช็คให้ทั้งสิ้น (รถยนต์ที่ทิชชี่ใช้ขับเคลื่อนคือ Toyota รุ่น Altis ติดแก๊สได้ประมาณ 5 ปี ใช้มาประมาณ 10 ปีแล้วด้วยค่ะ)
ซึ่งต่อจากนี้คือเรื่องจริงจากการใช้รถยนต์ของทิชชี่ เป็นเรื่องโหดร้ายที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ในเวลาที่ไม่ไกลกันนัก
เหตุการณ์แรกเกิดขึ้น ในช่วงน้ำท่วม อย่างที่รู้ๆ ว่าถนนป็นหลุมเป็นบ่อไปทั่ว คืนวันนั้นทิชชี่ขับรถด้วยความเร็วปกติ (60-80กิโลเมตรต่อชั่วโมง) อยู่ๆ เสียงก็ดังปั้งขึ้นประหนึ่งโดนยิงมาที่กลางหัวใจ เสียงกรีดร้องของแม่ พ่อ และทิชชี่ที่อยู่บนรถดังขึ้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย พร้อมกับการผ่อนเบาของการเหยียบคันเร่ง ทิชชี่รู้ทันทีว่างานเข้าแล้วไง ยางระเบิดค่ะคุณ ทิชชี่ฝืนใจขับรถฝืดๆ ยางแบนแต๊ดแต๋ ที่ทรงตัวแทบไม่อยู่ ไปจนถึงร้านปะยาง เมื่อถึงมือช่างก็เปลี่ยนยางจนเสร็จ ใช้เวลาเพียงไม่ถึงชั่วโมง ก็ขับกลับบ้านปกติอย่างปลอดภัยค่ะ
เหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ทิชชี่รู้ว่า การขับรถไม่ควรประมาทสักวินาทีเดียว ไม่เช่นนั้นอาจไม่มีโอกาสได้ขับอีกต่อไปก็เป็นได้ ควรเช็คลมยางอยู่เสมอ ลมยางอ่อนหรือแข็งจนเกินไป มีผลต่อการทรงตัวของรถยนต์ และควรใช้ความดันลมยางตามที่ผู้ผลิตกำหนด สังเกตการสึกหรอของดอกยางด้วย ถ้าดอกสึกมาก ต้องเปลี่ยนยางจะเป็นการดีที่สุดค่ะ
เหตุการณ์ต่อมาคือ กลิ่นแก๊สพุ่งเข้ามาในตัวรถ จนทำให้เวียนหัว คลื่นไส้ แทบจะเป็นลม บอกเลยวันนั้นกลัวก็กลัว ในสมองจินตนาการไปกันใหญ่ กลัวแก๊สระเบิดตูมตามเหมือนในหนัง แต่ทิชชี่ก็ ฝืนใจขับรถกลับบ้านต่อ เพื่อไปส่งซ่อมที่ร้านประจำ แถวบ้าน เมื่อถึงร้านซ่อม ช่างบอกว่าท่อส่งแก๊สรั่ว ช่างจัดการซ่อมให้จนเจ้าแก๊สหายพ่นกลิ่นเหม็นๆ มากวนใจค่ะ
เหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ทิชชี่รู้ว่า อันตรายเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ควรตรวจเช็คแก๊สสม่ำเสมอ ทุกๆ 3 เดือน เพราะการรั่ว หรือความเสียหายสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา และควรตรวจรอยรั่วของน้ำมันต่างๆ ใต้ท้องรถ ซึ่งคุณสามารถก้มลงดูได้เองด้วยตาเปล่า หากพบรอยน้ำมันให้รีบส่งช่างด่วนค่ะ
เหตุการณ์สุดท้าย (แต่ไม่ท้ายที่สุด ด้วยความเป็นรถเก่า ปัญหาจึงถาโถม กระหน่ำเข้ามาเป็นระยะๆ อย่างไม่ยั้ง) วันดีคืนดี ขับๆ อยู่รถเกิดสั่น ประหนึ่งเจ้าเข้าค่ะ บางทีก็สั่นๆ ดับๆ เร่งคันเร่งไม่ขึ้น คล้ายอาการกระหายน้ำไปเสียเฉยๆ นานเข้า มีอาการเยอะขึ้น สั่นเหมือนแผ่นดินไหว 10 ริกเตอร์ ขับไปทิชชี่ก็กลัวไป จึงตัดสินใจพาไปส่งช่างซ่อมแต่โดยดี ช่างบอกว่ามีปัญหาจากตัว "คอยล์จุดระเบิด" ตอนแรกใจหายวาบ เพราะตกใจ คำว่าระเบิดๆ แต่ช่างให้คำตอบว่าไม่เป็นอันตรายใดๆ นัก แค่เปลี่ยน "คอยล์จุดระเบิด" ตัวใหม่ ก็เป็นปกติ วิ่งฉิวเหมือนเดิมแล้ว ค่ะ
เหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ทิชชี่รู้ว่าขับรถอย่างนิ่งดูดาย หากเกิดปัญหา อย่าทิ้งไว้นาน เพราะรถของคุณอาจพินาศเพิ่มยิ่งขึ้นกว่าเดิมค่ะ
วันนี้ทิชชี่รู้แล้วว่า การดูแลรถยนต์เป็นเรื่องสำคัญมากๆ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ขับรถตัวคนเดียวอย่างเรา ทิชชี่จึงมีวิธีเช็ครถง่ายๆ เบื้องต้นในแบบผู้หญิงๆ มาแนะกันค่ะ
การดูแลน้ำระบายความร้อน ตรวจเช็คง่ายๆ เปิดกระโปรงรถขึ้น แล้วเปิดฝาหม้อน้ำออก ถ้าพบว่าน้ำพร่องลงไปจนเหลือน้อย ก็ใช้น้ำสะอาดเติมลงไปให้เต็ม ระวังอย่าเปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่เพิ่งใช้รถมาใหม่ๆ เพราะไอน้ำจะมีความร้อนสูงมาก ทำให้เกิดอันตรายได้
เช็คระดับน้ำมันเครื่อง โดยอุ่นเครื่องยนต์ให้อุณหภูมิทำงาน แล้วดับเครื่อง จากนั้นเช็คระดับจากก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออก เช็ดคราบน้ำมัน ด้วยผ้าที่สะอาด แล้วเสียบก้านวัดกลับที่เดิม จากนั้นดึงก้านวัดออกมาอีกครั้ง ตรวจสอบคราบน้ำมันเครื่องที่ปลายก้านวัด ถ้าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ระหว่างตัวอักษร "F" (Full) กับ "L" (Low) แสดงว่าระดับน้ำมันเครื่องปกติ ถ้าระดับต่ำกว่า "L" ก็เติมน้ำมันเครื่องเพิ่ม แต่อย่าเติมให้เกินตัว "F" เพราะการเติมน้ำมันเครื่องมากเกินไป อาจทำให้รถยนต์ของคุณพังกว่าเดิมค่ะ
เช็คระดับน้ำมันเบรก สามารถตรวจได้ด้วยตาเปล่า หมั่นดูที่กระปุกน้ำมันเบรกจะมีคำว่า MAX และ MIN อยู่ ระดับน้ำมันเบรกควรอยู่ที่ MAX เสมอ ถ้าระดับต่ำกว่านี้ให้เติมน้ำมันเบรกเพิ่ม หรือนำเข้าอู่ เข้าศูนย์บริการเลยค่ะ
หมั่นเช็ค ดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้นด้วยตัวเองอยู่สม่ำเสมอ อย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง เพื่อยืดระยะการใช้งานเพิ่มขึ้น "รถยนต์" ถือเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวันของคนบางคนเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นอย่าปล่อยให้รถคู่ใจของคุณ กลายเป็นเศษเหล็กที่ไร้ค่าไปแบบไม่รู้ตัวนะคะสาวๆ
เรื่องโดย : Thichy
ขอบคุณภาพประกอบ : http://www.istockphoto.com/