รีวิว Suzuki XL7 Hybrid ใหม่ เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง Mild-hybrid ราคาสบายกระเป๋า

รีวิว Suzuki XL7 Hybrid ใหม่ เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง Mild-hybrid ราคาสบายกระเป๋า

รีวิว Suzuki XL7 Hybrid ใหม่ เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง Mild-hybrid ราคาสบายกระเป๋า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Suzuki XL7 รถเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง สำหรับครอบครัวที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์ราคาประหยัด ครั้งนี้ได้มีการเพิ่มระบบ Mild-hybrid เพิ่มความประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นไปอีก แต่วางจำหน่ายในราคาใกล้เคียงเดิมเริ่มต้นที่ 799,000 บาท จะน่าใช้ขนาดไหนไปติดตามได้ในบทความนี้ครับ

Suzuki XL7 Hybrid มีให้เลือกเพียง 1 รุ่นย่อย คือ รุ่น GLX โดยมีราคาจำหน่ายแนะนำช่วงเปิดตัวอยู่ที่ 799,000 บาท เทียบกับ Ertiga Hybrid รุ่น GX (รุ่นท็อปสุด) ซึ่งมีราคาจำหน่าย 765,000 บาท แลกกับช่วงล่างแบบยกสูงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ใกล้เคียงกับรถเอสยูวี

suzuki_xl7_hybrid_74

จุดแตกต่างระหว่าง XL7 Hybrid และ XL7 เดิมมีอะไรบ้าง?

หากมองเผินๆ หลายคนอาจแยกไม่ออกระหว่าง XL7 Hybrid ใหม่ กับ XL7 เครื่องยนต์สันดาปล้วนเดิม แต่อันที่จริงซูซูกิได้มีการปรับปรุงรูปลักษณ์และเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานเน้นความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นพอสมควร

รูปลักษณ์ด้านหน้ามาพร้อมกระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่ ออกแบบรับกับไฟหน้าแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ LED ที่เพิ่มระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน Guide Me ที่ช่วยหน่วงเวลาส่องสว่างนำทางเข้าบ้าน และเมื่อเดินเข้าหาตัวรถ ส่วนด้านท้ายมีการตกแต่งด้วยแผง Chrome Black Garnish สีดำบริเวณเหนือช่องติดแผ่นป้ายทะเบียน เพิ่มเติมด้วยสัญลักษณ์ HYBIRD

ส่วนล้อยังเป็นลายเดิมขนาด 16 นิ้ว หุ้มด้วยยางขนาด 195/60 R16 ซึ่งเป็นขนาดที่หาได้ง่ายและราคาไม่แพง

suzuki_xl7_hybrid_52

Suzuki XL7 Hybrid ยังมีการเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานจากรุ่น XL7 เดิม ได้แก่ ระบบพับ-กางกระจกมองข้างอัตโนมัติเมื่อล็อกและปลดล็อกประตูรถ, ระบบ Idling Stop ช่วยดับเครื่องยนต์ขณะติดไฟแดง, ระบบ Cruise Control และมีการปรับปรุงหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว สามารถรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ได้ ขณะที่ช่อง HDMI ยังคงมีให้เช่นเดิม

อุปกรณ์มาตรฐานครบครันเมื่อเทียบกับงบประมาณ

Suzuki XL7 Hybrid ถือเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่มีราคาถูกที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดขณะนี้ แต่ก็มีอุปกรณ์มาตรฐานมาให้ครบครันเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป เบาะนั่งทุกตำแหน่งหุ้มด้วยวัสดุผ้าสีเทา-ดำ สามารถปรับสูง-ต่ำฝั่งผู้ขับขี่ได้ ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับเลื่อนหน้า-หลัง และปรับเอนเพิ่มความสบายได้ มีพนักพิงศีรษะมาให้ครบ 3 ตำแหน่ง ส่วนเบาะแถวที่ 3 สามารถปรับพับ 50:50 ได้

suzuki_xl7_hybrid_11

แม้ว่าจะถูกวางให้เป็นรถแบบ 7 ที่นั่ง แต่เบาะนั่งแถวที่ 3 ค่อนข้างเหมาะสำหรับเด็กเสียมากกว่า ด้วยพื้นที่วางขาที่ค่อนข้างจำกัด หากเป็นผู้ใหญ่นั่งโดยสารระยะทางไกลอาจจะรู้สึกอึดอัดไปเสียหน่อย แต่หากนั่งเต็มคันเพื่อขับไปร้านอาหารแถวบ้านระยะทางไม่ไกลมาก แบบนี้ถือว่าพอรับได้

ส่วนฟังก์ชันอื่นๆ ก็มีให้ครบครันไม่ว่าจะเป็นกุญแจ Keyless Entry พร้อมปุ่ม Keyless Push Start, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน D-Shape พร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ และ Cruise Control, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบปรับอากาศตอนหลังปรับแรงลมได้ 3 ระดับ, ช่องวางแก้ว 2 ตำแหน่งด้านหน้าพร้อมช่องเป่าลมเย็น และแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger พร้อมช่องจ่ายไฟ 12V อีก 3 ตำแหน่ง

suzuki_xl7_hybrid_12

หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว นอกจากจะเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ผ่านสาย USB ได้แล้ว ยังสามารถแสดงภาพจากกล้องมองหลังขณะถอยรถ พร้อมเซ็นเซอร์กะระยะด้านท้าย และยังมีการติดตั้งกล้องบันทึกภาพขณะขับขี่ (DVR) มาให้จากโรงงานอีกด้วย โดยสามารถย้อนดูคลิปเหตุการณ์จากหน้าจอ 10.1 นิ้วได้ทันที

ด้านระบบความปลอดภัยของ XL7 Hybrid ก็ถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐาน ทั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP, ระบบเบรก ABS/EBD, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Hold Control, เข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด ทั้ง 7 ตำแหน่ง, จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX บริเวณเบาะแถวสองจำนวน 2 ตำแหน่ง และถุงลมนิรภัยฝั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า

ติดตั้งขุมพลังเบนซิน 1.5 ลิตร เพิ่มมอเตอร์ ISG

Suzuki XL7 Hybrid ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส K15B ความจุ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ และเพิ่มเติมด้วยมอเตอร์ ISG หรือ Integrated Starter Generator ทำงานคู่กับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนความจุ 12Ah อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 17.9 กม./ลิตร (อ้างอิงตาม ECO Sticker)

suzuki_xl7_hybrid_26

การทำงานของระบบ Mild-hybrid หรือที่ซูซูกิเรียกว่า Smart Hybrid (SHVS) จะช่วยเสริมพละกำลังในช่วงเร่งออกตัว รวมถึงเพิ่มความนุ่มนวลในการทำงานของระบบ Idling Stop หากพูดง่ายๆ คือ หากเป็นการสตาร์ทเครื่องยนต์ตามปกติจะใช้ไดสตาร์ทเพื่อให้เครื่องยนต์เริ่มทำงาน

แต่หากเป็นการติดเครื่องยนต์ในช่วงระหว่างการทำงานของระบบ Idling Stop แล้วล่ะก็ ระบบ Smart Hybrid จะใช้มอเตอร์ ISG เพื่อติดเครื่องยนต์ขึ้นมาแทน ซึ่งให้การทำงานที่เงียบและนุ่มนวลกว่า อีกทั้งยังสามารถเสริมกำลังเครื่องยนต์ได้สูงสุด 1.8 kW (ประมาณ 2.5 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 50 นิวตัน-เมตร

นอกจากนี้ บริเวณหน้าจอ MID ยังสามารถแสดงการทำงานของระบบไฮบริด Smart Hybrid ได้แบบเรียลไทม์ เพื่อให้ผู้ขับขี่ทราบว่าจังหวะไหนมีการเสริมกำลังให้กับเครื่องยนต์ จังหวะไหนมีการชาร์จชาร์จไฟกลับไปเก็บยังแบตเตอรี่ หรือจังหวะไหนขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เพียวๆ เป็นต้น

suzuki_xl7_hybrid_03

แรงขึ้นอีกนิด ประหยัดขึ้นอีกหน่อย

ในช่วงทดสอบขับขี่ Suzuki XL7 Hybrid พบว่าอัตราเร่งดีขึ้นกว่า XL7 เครื่องยนต์เบนซินล้วนนิดหน่อย แบบนิดเดียวจริงๆ จะสังเกตเห็นได้ชัดในช่วงจังหวะเติมคันเร่งเบาๆ เพื่อเพิ่มความเร็วแซงรถคันหน้า จะรู้สึกได้ว่ามีแรงบิดเพิ่มเข้ามาช่วยเสริมกำลังอยู่บ้าง แต่หากเป็นการคิกดาวน์เพื่อแซงคันหน้าแบบทันทีทันใดแล้วล่ะก็ ความรู้สึกแทบไม่ต่างกับเวอร์ชันสันดาปล้วนเลย

suzuki_xl7_hybrid_86

ส่วนเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด แม้ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างล้าสมัยไปแล้ว แต่การใช้งานจริงก็ถือว่าพอรับได้ ไม่ได้น่าเกลียดขนาดนั้น การเปลี่ยนเกียร์ทำได้นุ่มนวล ไม่มีอาการกระตุกให้รู้สึกรำคาญ ส่วนรอบเครื่องยนต์ขณะขับขี่ที่ความเร็วสูงนั้น หากใช้ความเร็ว 100 กม./ชม. จะอยู่ที่ราว 2,500 รอบต่อนาที และความเร็ว 120 กม./ชม. รอบจะอยู่ที่ราว 3,000 รอบต่อนาที ซึ่งถามว่าสูงไหม.. ก็สูง แต่เสียงจากเครื่องยนต์และแรงสั่นสะเทือนเข้ามายังห้องโดยสารก็ถือว่าไม่แย่นัก

ขณะที่ช่วงล่างของ XL7 Hybrid ถูกเซ็ตมาเน้นความนุ่มนวล จึงอาจพบเจออาการโคลงบ้างหากใช้ความเร็วสูง แต่หากขับขี่แบบไม่รีบร้อน ใช้ความเร็วเดินทางมากสุดไม่เกิน 120 กม./ชม. ก็ถือว่าพอรับได้ แลกกับความนุ่มสบายที่น่าจะถูกอกถูกใจผู้ใหญ่ที่นั่งโดยสารอยู่เบาะหลัง

suzuki_xl7_hybrid_47

Suzuki XL7 Hybrid ยังเป็นรถ MPV 7 ที่นั่งที่เน้นความคุ้มค่าราคาประหยัด

แม้ว่าการเพิ่มระบบไมล์ด-ไฮบริด ISG จะไม่ได้สร้างความหวือหวาในด้านสมรรถนะและอัตราสิ้นเปลืองมากนัก แต่หากเทียบกับ XL7 เดิมก็ถือว่าดีขึ้น ยิ่งถ้ามองว่าราคาจำหน่ายก็ไม่ได้หนีไปจากเดิมมากนัก (เพิ่มมา 10,000 บาท) แลกกับอุปกรณ์มาตรฐานที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน Suzuki XL7 Hybrid ก็ยังถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่มองหารถ 7 ที่นั่ง ในระดับราคาไม่เกิน 8 แสนบาท

นอกจากนี้ Suzuki XL7 Hybrid ยังได้เปรียบเรื่องการบำรุงรักษาที่ไม่ซับซ้อน เพราะมีจุดที่ต้อง Maintenance เพิ่มมาเพียงจุดเดียวคือสายพานขับมอเตอร์ ISG เท่านั้น พร้อมด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 5 ปี หรือ 100,000 กม. ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ผู้ที่กำลังมองหารถ 7 ที่นั่งราคาคุ้มค่าเหมาะกับสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ครับ

อัลบั้มภาพ 28 ภาพ

อัลบั้มภาพ 28 ภาพ ของ รีวิว Suzuki XL7 Hybrid ใหม่ เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง Mild-hybrid ราคาสบายกระเป๋า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook