"กรุงนิวยอร์ก" เตรียมลดจำกัดความเร็วสูงสุดไม่เกิน 32 กม./ชม.
มหานครนิวยอร์กแห่งสหรัฐอเมริกาเตรียมบังคับใช้กฎหมาย "Sammy's Law" ที่กำหนดให้ใช้ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 20 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 32 กม./ชม. จากเดิมที่กำหนดไว้ 25 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 40 กม./ชม.
กฎหมาย Sammy's Law มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับคนเดินถนนในกรุงนิวยอร์ก เนื่องจากการศึกษาพบว่าความเร็วของรถยนต์ส่งผลอย่างมากต่อความรุนแรงของอุบัติเหตุ ซึ่งกรณีเกิดอุบัติเหตุรถชนคนที่ความเร็ว 32 กม./ชม. ย่อมปลอดภัยกว่าการชนที่ความเร็ว 40 กม./ชม. และสามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุลงได้
กฎหมายดังกล่าวจะช่วยให้กรุงนิวยอร์กสามารถกำหนดความเร็วสูงสุดของทั้ง 5 เขตเองได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากออลบานี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐนิวยอร์ก (เขตทั้ง 5 ของกรุงนิวยอร์ก ประกอบด้วย แมนฮัตตัน, บร็องซ์, ควีนส์, บรุกลิน และเกาะสแตเทน)
ทั้งนี้ การปรับลดเพดานจำกัดความเร็วสูงสุดจะแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ โดยถนนส่วนมากจะถูกจำกัดความเร็วไว้ที่ 20 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 32 กม./ชม. ขณะที่ถนนบางสายจะถูกจำกัดความเร็วเหลือเพียง 10 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 16 กม./ชม. ยกเว้นถนนที่มีขนาดตั้งแต่ 3 เลนขึ้นไป และเดินรถไปในทิศทางเดียวกัน จะยังคงจำกัดความเร็วไว้ที่ 25 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 40 กม./ชม. เช่นเดิม
ปัจจุบันสหรัฐอเมริกาได้กำหนดการจำกัดความเร็วสูงสุดแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละรัฐ แต่โดยมากแล้วจะจำกัดความเร็วบนทางหลวงระหว่างรัฐ (Interstate) สูงสุดไม่เกิน 70 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 112 กม./ชม. ขณะที่ทางหลวงภายในรัฐจะถูกจำกัดความเร็วสูงสุดไม่เกิน 65 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 105 กม./ชม. เท่านั้น