All-new MINI Aceman 2025 ใหม่ ครอสโอเวอร์ไฟฟ้า 100% เผยโฉมครั้งแรกในโลก

All-new MINI Aceman 2025 ใหม่ ครอสโอเวอร์ไฟฟ้า 100% ขนาดรองลงมาจาก Countryman ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ขนาด 218 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ขับขี่ไกลสุด 406 กม. ต่อการชาร์จแต่ละครั้ง

MINI Aceman ถูกพัฒนาให้เป็นรถครอสโอเวอร์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน 100% โดยมีขนาดตัวถังแทรกกลางระหว่างรุ่น Cooper และ Countryman และจะไม่มีรุ่นเครื่องยนต์สันดาปเหมือนกับสองรุ่นที่กล่าวมา เน้นจับกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า แต่ยังคงต้องการฟีลลิ่งแบบรถโกคาร์ทและขนาดตัวถังกะทัดรัดตามฉบับ MINI เนื่องจาก Countryman จะเน้นกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานเชิงครอบครัวมากกว่า

ตัวถังของ MINI Aceman มีขนาดความยาว 4.07 เมตร (รุ่น Countryman มีความยาว 4.43 เมตร) ความกว้าง 1.75 เมตร และความสูง 1.05 เมตร ห้องโดยสารรองรับได้ 5 ที่นั่ง มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 300 ลิตร สามารถขยายเป็น 1,005 ลิตร และล้ออัลลอยที่มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 17 นิ้ว ไปจนถึง 19 นิ้ว

ดีไซน์ด้านหน้าของ MINI Aceman ถูกออกแบบให้มีเอกลักษณ์ด้วยไฟหน้าทรงเหลี่ยม รับกับกระจังหน้าทรงแปดเหลี่ยมที่สามารถตกแต่งด้วยกรอบสีเงิน Vibrant Silver หรือสีดำ Jet Black ขณะที่ตัวถังด้านข้างถูกตกแต่งด้วยพลาสติกสีดำบริเวณซุ้มล้อและชายประตูเพื่อเพิ่มบุคลิกความเป็นครอสโอเวอร์ พร้อมด้วยไฟท้ายแบบ Matrix ที่สามารถเลือกปรับลวดลายการส่องสว่างได้ถึง 3 รูปแบบ

ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบด้วยแนวคิด "Charismatic Simplicity" เน้นความเรียบง่ายตามฉบับมินิรุ่นคลาสสิก โดดเด่นด้วยหน้าจอ OLED ทรงกลมที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 240 มม. ทำงานบนระบบปฏิบัติการ MINI Operatin System 9 โดยที่ข้อมูลเกี่ยวกับการขับขี่ทั้งหลาย เช่น ความเร็ว สถานะแบตเตอรี่ ตำแหน่งเกียร์ ฯลฯ จะถูกแสดงค้างไว้ส่วนบนสุดของหน้าจอ หรือจะแตะหน้าจอเพื่อแสดงมาตรวัดความเร็วแบบ Full-screen ได้

MINI Aceman มาพร้อมระบบ MINI Experience Modes ที่สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลบนหน้าจอและไฟตกแต่งภายในห้องโดยสารเพื่อเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกของผู้ขับขี่ โดยหากเลือกโหมด Experience จะทำงานคู่กับระบบ MINI Driving Sounds เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่รถไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่ หรือโหมด Go-Kart จะเปลี่ยนสีภายในห้องโดยสารเป็นสีแดงสลับ Anthracite ควบคู่กับหน้าจอที่จะแสดงข้อมูลแบบ Analogue ดีไซน์เฉพาะที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก John Cooper Works

ปุ่มเลือกตำแหน่งเกียร์ของ MINI Aceman ถูกย้ายไปติดตั้งไว้บริเวณ Toggle bar ใกล้กับปุ่มควบคุมเบรกมือไฟฟ้า, ปุ่ม Start/Stop, ปุ่ม Experience Mode และปุ่มควบคุมระดับเสียง ซึ่งมินิระบุว่าจะช่วยเพิ่มพื้นที่บริเวณคอนโซลกลางให้สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์มากขึ้น เช่น การวางแก้วน้ำ, ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย และพื้นที่วางของที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

MINI Aceman มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ Aceman E และ Aceman SE โดยรุ่น Aceman E ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 290 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.9 วินาที ท็อปสปีด 160 กม./ชม. และรุ่น Aceman SE เพิ่มกำลังเป็น 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ลดลงเหลือ 7.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 170 กม./ชม.

MINI Aceman E ถูกติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดความจุ 42.5 kWh มีระยะทางขับขี่ไกลสุด 310 กม. เมื่อชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม (ตามมาตรฐาน WLTP) ขณะที่ Aceman SE เพิ่มขนาดแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นเป็น 54.2 kWh ให้ระยะทางขับขี่สูงสุด 406 กม. ทั้งคู่รองรับการชาร์จด่วนแบบ DC จาก 10-80% ในเวลาไม่ถึง 30 นาที

ทั้งนี้ MINI Aceman จะเริ่มเดินสายการผลิตที่ประเทศจีนเป็นแห่งแรก ก่อนจะเริ่มผลิตที่โรงงาน MINI Plant Oxford ประเทศอังกฤษในปี 2026