ฝนเพิ่งตกใหม่ๆ ทำไมถนนถึงลื่นกว่าปกติ?

เมื่อใดก็ตามที่ฝนตก ก็มักจะพบเห็นอุบัติเหตุบนท้องถนนอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ก็ตาม ซึ่งสาเหตุหลักมาจากถนนที่เปียกลื่นทำให้รถเสียการควบคุม แต่เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมเวลาที่ฝนตกใหม่ๆ ถนนถึงลื่นมากกว่าปกติ? Sanook Auto จะพาไปไขคำตอบกัน

ช่วงที่ฝนเริ่มตกเป็นช่วงที่ถนนลื่นมากที่สุด

เมื่อฝนเริ่มตกใหม่ๆ มักจะเป็นช่วงเวลาที่พื้นผิวถนนจะลื่นมากที่สุดเสมอ เนื่องจากถนนจะมีสิ่งสกปรกอยู่มากมาย ทั้งฝุ่น ดิน คราบน้ำมัน หรือแม้กระทั่งสิ่งสกปรกที่ไหลลงมาจากรถขนส่ง (โดยเฉพาะรถขนส่งสัตว์น้ำ เช่น ปลา, กุ้ง ฯลฯ) เวลาที่ฝนเริ่มตก คราบเหล่านี้จะละลายรวมไปกับน้ำฝนที่เจิ่งนองบนพื้นถนน ก่อให้เกิดพื้นผิวที่ลื่นมากกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เป็นสาเหตุว่าทำไมเราจึงมักพบเห็นอุบัติเหตุในช่วงที่ฝนตกใหม่ๆ นั่นเอง

แต่เมื่อฝนตกไปแล้วระยะหนึ่ง สิ่งสกปรกเหล่านี้มักจะถูกชะล้างออกไปจากพื้นผิวถนน ทำให้การยึดเกาะของยางรถยนต์ (รวมถึงรถจักรยานยนต์) ทำได้ดีขึ้น เว้นแต่ยางที่เสื่อมสภาพ ดอกยางโล้น ก็จะเสี่ยงต่ออาการเหินน้ำ (Hydroplaning) เนื่องจากยางไม่สามารถรีดน้ำได้ทัน เกิดเป็นชั้นน้ำอยู่ระหว่างพื้นถนนและหน้ายาง ทำให้รถเกิดอาการเสียหลักได้ง่าย

ขับรถขณะฝนตกก็ปลอดภัยได้ไม่แพ้ถนนแห้ง

การขับรถขณะฝนตกหรือบนถนนเปียก ควรลดความเร็วลงจากความเร็วเดินทางปกติ เพิ่มระยะห่างจากรถคันหน้ามากขึ้น เปิดไฟหน้า เลือกระดับความเร็วของที่ปัดน้ำฝนให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงการเพิ่มความเร็วหรือเปลี่ยนเลนอย่างรุนแรง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้มากขึ้นแล้ว

ทางที่ดีควรหมั่นบำรุงรักษารถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ตรวจเช็กสภาพยางว่ายังคงมีดอกยางเหลืออย่างน้อย 2 มม. เพื่อประสิทธิภาพในการรีดน้ำ เติมลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม รวมถึงตรวจเช็กระบบไฟส่องสว่างทุกจุดรอบคัน จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นไปอีกครับ