"โตโยต้า" เพิ่มระยะทางวิ่ง GR Corolla ขุมพลังไฮโดรเจนเหลวไกลขึ้นกว่า 50%

"โตโยต้า" จบการแข่งขัน 24 ชั่วโมง Super Taikyu 2024 ที่สนามฟูจิสปีดเวย์ ประเทศญี่ปุ่น ด้วยรถ GR Corolla ที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงไฮโดรเจนเหลว สามารถทำระยะทางขับขี่เพิ่มขึ้น 50% เป็น 30 รอบต่อการเติมไฮโดรเจน 1 ครั้ง เทียบกับปีก่อนหน้าที่วิ่งเฉลี่ยเพียง 20 รอบเท่านั้น 

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา โตโยต้าบรรลุความสำเร็จไปอีกขั้นในการพัฒนารถยนต์สันดาปไฮโดรเจน (Hydrogen Combustion) ที่ใช้ไฮโดรเจนเหลว (Liquid Hydrogen) เป็นเชื้อเพลิง ด้วยการส่งรถแข่ง Toyota GR Corolla ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเพื่อรองรับเชื้อเพลิงไฮโดรเจนเหลว เข้าร่วมการแข่งขัน 24 ชั่วโมง Super Taikyu 2024 ณ สนามฟูจิสปีดเวย์ ประเทศญี่ปุ่น โดยมี Morizo หรือ Akio Toyoda และ Masahiko Kondo เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าว

ผลการแข่งขันพบว่ารถ GR Corolla พลังงานไฮโดรเจน หมายเลข 32 สามารถจบการแข่งขันต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ด้วยจำนวนรอบทั้งสิ้น 332 รอบ คิดเป็นระยะทางทั้งสิ้น 1,515 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม รถคันดังกล่าวพบปัญหาเกี่ยวกับระบบเบรก ส่งผลให้ไม่สามารถทุบสถิติ 358 รอบ หรือเกือบ 1,634 กิโลเมตร ที่เคยทำไว้เมื่อปี 2023 ได้

แม้ว่ารถแข่ง GR Corolla หมายเลข 32 จะไม่สามารถทุบสถิติปีก่อนหน้าได้ แต่โตโยต้าได้พัฒนาขีดความสามารถในการเพิ่มระยะทางขับขี่ด้วยเชื้อเพลิงไฮโดรเจนเหลวกว่า 50% เนื่องจากสามารถขับขี่เป็นระยะทางสูงสุด 30 รอบ ต่อเชื้อเพลิงไฮโดรเจนเหลว 1 ถัง เทียบกับปีก่อนหน้าที่ขับขี่ได้เป็นระยะทางเฉลี่ยเพียง 20 รอบ ต่อไฮโดรเจนเหลว 1 ถัง

ทั้งนี้ การส่งรถ GR Corolla เชื้อเพลิงไฮโดรเจนเหลว หรือ Liquid Hydrogen เข้าร่วมการแข่งขันดังกล่าว ถือเป็นความพยายามของโตโยต้าในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายใต้แนวคิด Multi-pathway อันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบขับเคลื่อนไฮบริด (HEV) ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (BEV) และเชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่มีความยั่งยืนสูง แทนการโฟกัสไปยังรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว

ถังเก็บไฮโดรเจนเหลวแบบใหม่ (ซ้าย) เทียบกับแบบเดิม (ขวา)

สำหรับรถแข่ง Toyota GR Corolla เชื้อเพลิงไฮโดรเจนเหลวที่เข้าร่วมการแข่งขัน Super Taikyu 2024 มีการปรับปรุงชิ้นส่วนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพจากปีก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบปั๊มจ่ายไฮโดรเจนเหลวไปยังเครื่องยนต์ที่มีความทนทานมากขึ้น สามารถทำการแข่งขันตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชุดปั๊ม เทียบกับปีก่อนหน้าที่สามารถใช้งานได้ราว 8 ชั่วโมง จึงจำเป็นต้องเข้ารับการเปลี่ยนปั๊มระหว่างการแข่งขันถึง 2 ครั้ง (ใช้ปั๊มทั้งสิ้น 3 ชุด)

นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงดีไซน์ของถังกักเก็บไฮโดรเจนเหลวในรถแข่ง โดยเปลี่ยนรูปทรงจากทรงกระบอกกลมที่ใช้เมื่อปี 2023 มาเป็นรูปทรงกระบอกแบบวงรี สามารถเพิ่มความจุจาก 150 ลิตร เป็น 220 ลิตร รองรับไฮโดรเจนเหลวเพิ่มขึ้นจาก 10 กก. เป็น 15 กก. หรือเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า จึงสามารถเพิ่มรอบขับขี่บนสนามฟูจิสปีดเวย์จาก 20 รอบ เป็น 30 รอบ ต่อการเติมเชื้อเพลิง 1 ครั้ง