เกียร์ออโต้กับเกียร์ธรรมดา อันไหนประหยัดน้ำมันกว่ากัน?
หากเทียบระหว่างเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ เกียร์แบบไหนประหยัดน้ำมันมากกว่ากัน? บทความนี้ Sanook Auto จะพาไปหาคำตอบกัน
โดยหลักการแล้วเกียร์ธรรมดาประหยัดน้ำมันกว่า
เกียร์ธรรมดามีการทำงานที่ไม่ซับซ้อนเท่ากับเกียร์อัตโนมัติ ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนน้อยกว่า จึงทำให้การสูญเสียกำลังในชุดเกียร์น้อยกว่า จึงสามารถถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ไปสู่ล้อได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่า รถเกียร์ธรรมดาจึงมีสมรรถนะที่ดีกว่า ขณะเดียวกันก็ยังกินน้ำมันน้อยกว่าด้วย
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันเกียร์อัตโนมัติมีการพัฒนาก้าวล้ำไปจากเดิมมาก จากเดิมที่รถส่วนใหญ่มักติดตั้งเกียร์ธรรมดา 4 สปีด หรือ 5 สปีด แต่ปัจจุบันมีการเพิ่มเติมรูปแบบเกียร์อัตโนมัตินอกเหนือไปจากเกียร์แบบ Torque Converter ปกติเพียงอย่างเดียว เช่น เกียร์คลัตช์คู่ (Dual-clutch Transmission) และเกียร์อัตโนมัติ CVT (Continuous Variable Transmission)
ซึ่งเกียร์อัตโนมัติทั้ง 2 รูปแบบดังกล่าว ถูกออกแบบให้มีการสูญเสียกำลังน้อยกว่าเกียร์อัตโนมัติแบบเดิม รวมถึงออกแบบอัตราทดให้สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้อัตราสิ้นเปลืองลดลงมาใกล้เคียงกับเกียร์ธรรมดา และบางรุ่นอาจประหยัดกว่าด้วยซ้ำไป
ขณะที่เกียร์อัตโนมัติแบบ Torque Converter ที่ใช้มาอย่างยาวนาน ปัจจุบันก็มีการเพิ่มอัตราทดเกียร์มากขึ้นกว่าแต่ก่อน เช่น เพิ่มจาก 4 เกียร์ เป็น 6 หรือ 7 เกียร์ จุดนี้ก็ส่งผลให้การเปลี่ยนเกียร์มีความต่อเนื่องมากขึ้น ขณะเดียวกันการขับขี่ทางไกลก็ใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำ ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันได้ไม่ต่างจากรถเกียร์ธรรมดา
เกียร์ธรรมดามีข้อดีเรื่องความทนทาน
แม้ว่าเกียร์อัตโนมัติในปัจจุบันจะมีการปรับปรุงการทำงานให้มีอัตราสิ้นเปลืองใกล้เคียงกับรถเกียร์ธรรมดา แต่ในด้านความทนทานก็ยังคงเป็นรองเกียร์ธรรมดาอยู่ โดยเฉพาะเกียร์ CVT ที่รองรับแรงบิดได้น้อยกว่า จึงแทบไม่มีรถกระบะค่ายไหนที่ใช้เกียร์ CVT เลย จะมีก็เพียงรถเก๋งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางเท่านั้น
ดังนั้น เกียร์ธรรมดายังมีข้อดีในเรื่องของความทนทาน จะมีก็เพียงการเปลี่ยนชุดคลัตช์ที่มักทำกันไม่ต่ำกว่า 2 แสน หรือ 3 แสนกิโลเมตรขึ้นไป ขณะที่เกียร์อัตโนมัติหากละเลยการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามที่ผู้ผลิตกำหนดไว้แล้วล่ะก็ มีโอกาสสูงที่จะทำให้เกียร์ได้รับความเสียหายจนถึงขั้นต้องโอเวอร์ฮอลหรือเปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่ไปเลย
เมื่อทราบเช่นนี้แล้วก็ลองตัดสินใจดูนะครับว่าเกียร์แบบไหนเหมาะสมกับการใช้งานของคุณมากกว่ากัน