ผลวิจัยชี้เจ้าของรถ EV ในสหรัฐฯ กว่า 46% อยากกลับมาใช้รถสันดาป

ผลวิจัยชี้เจ้าของรถ EV ในสหรัฐฯ กว่า 46% อยากกลับมาใช้รถสันดาป

ผลวิจัยชี้เจ้าของรถ EV ในสหรัฐฯ กว่า 46% อยากกลับมาใช้รถสันดาป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผลสำรวจเผยเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ในสหรัฐอเมริกาจำนวนถึง 46% ต้องการเปลี่ยนกลับมาใช้รถยนต์สันดาป โดยมีเหตุผลหลักมาจากโครงข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าไม่ดีพอ และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูงเกินไป

ev02

McKinsey & Company บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจของสหรัฐอเมริกา เผยผลสำรวจที่มีชื่อว่า Mobility Consumer Pulse เมื่อเดือนมิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา โดยเป็นการสำรวจข้อมูลความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อรูปแบบการเดินทางเดินทางในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์, รถจักรยานยนต์, รถยนต์ไฟฟ้า, รถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ, ระบบ Car sharing หรือแม้แต่การเดินทางด้วยจักรยาน

ส่วนหนึ่งของผลสำรวจดังกล่าวเปิดเผยว่า เจ้าของรถยนต์ EV ในสหรัฐอเมริกาจำนวนกว่า 46% มีความต้องการหันกลับมาใช้รถยนต์สันดาปดังเดิม เทียบกับค่าเฉลี่ยของหลายประเทศรวมกันอยู่ที่ 29% ขณะที่ออสเตรเลียกลายเป็นประเทศที่เจ้าของรถอีวีต้องการกลับมาใช้รถสันดาปมากที่สุดถึง 49%

เหตุผลอันดับ 1 ที่เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าต้องการเปลี่ยนกลับมาใช้รถยนต์สันดาปนั้น 35% ระบุว่าเกิดจากโครงข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ดีพอ ขณะที่ 34% ระบุว่ารถ EV มีค่าใช้จ่ายตลอดการครอบครองที่สูงเกินไป ขณะที่ 32% มองว่าการใช้รถยนต์ไฟฟ้ากระทบต่อรูปแบบการเดินทางระยะไกล และ 21% ระบุว่ารถ EV ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่มากจนเกินไป

ev03

ผลสำรวจของ McKinsey & Company ยังเผยข้อมูลที่น่าสนใจอีกว่า ผู้ที่ไม่เคยครอบครองรถยนต์ไฟฟ้ามาก่อน (Non-EV owners) จำนวนกว่า 20% มีความต้องการซื้อรถยนต์ประเภท Plug-in Hybrid เป็นรถคันต่อไป เทียบกับกลุ่มตอบแบบสำรวจ 18% ที่ระบุว่าจะซื้อรถไฟฟ้าเป็นคันต่อไป ขณะที่กลุ่มสำรวจ 10% ระบุว่ารถคันต่อไปของพวกเขาจะยังคงเป็นรถสันดาป ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าในภายหลัง และยังมีกลุ่มสำรวจมากถึง 21% ระบุว่าพวกเขาไม่ต้องการเปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด

เหตุผลยอดฮิตที่ไม่ต้องการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 เนื่องจากมีราคาสูงเกินไปคิดเป็น 45% ตามด้วยความกังวลเกี่ยวกับการชาร์จคิดเป็น 33% และความกังวลเกี่ยวกับระยะทางขับขี่คิดเป็น 29%

อย่างไรก็ดี ผลสำรวจดังกล่าวรวบรวมข้อมูลจากผู้เข้าร่วมวิจัยเพียง 9 ประเทศเท่านั้น คือ จีน, สหรัฐอเมริกา, เยอรมนี, นอร์เวย์, อิตาลี, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย และบราซิล จึงไม่อาจสะท้อนความคิดเห็นในภาพรวมของตลาดทั่วโลกได้อย่างสมบูรณ์

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook