เพิ่งจะรู้! ประโยชน์ที่แท้จริงของปุ่ม Trip A / Trip B มีไว้ทำแบบนี้

เพิ่งจะรู้! ประโยชน์ที่แท้จริงของปุ่ม Trip A / Trip B มีไว้ทำแบบนี้

เพิ่งจะรู้! ประโยชน์ที่แท้จริงของปุ่ม Trip A / Trip B มีไว้ทำแบบนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมรถรุ่นใหม่ๆ ถึงมีปุ่มสลับโหมด Trip A และ Trip B มาให้ ประโยชน์ที่แท้จริงของระบบดังกล่าวคืออะไร บทความนี้ Sanook Auto มีคำตอบมาฝากกันครับ

Trip A และ Trip B ใช้ทำอะไร?

หากเคยลองสังเกตรถยนต์รุ่นใหม่ๆ จะพบว่าผู้ขับขี่สามารถปรับค่าการแสดงระยะทางขับขี่แบบ Trip A หรือ Trip B ได้ โดยสามารถเลือกรีเซ็ตเฉพาะค่าใดค่าหนึ่ง หรือทั้งสองค่าก็ได้ จนหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่าฟังก์ชันเหล่านี้มันมีประโยชน์อย่างไรกันแน่?

ประโยชน์ของระบบ Trip A และ Trip B ยกตัวอย่างเช่น Trip A สามารถใช้วัดระยะทางจากจุด A ไปยังจุด B ตามปกติ ขณะที่ Trip B สามารถรีเซ็ตหลังเติมน้ำมันเพื่อหาอัตราสิ้นเปลืองของตัวรถได้ โดยไม่กระทบต่อระยะทางหลัก (Trip A) นั่นเอง

ส่วนวิธีการหาอัตราสิ้นเปลืองก็ทำได้ง่ายๆ แถมยังแม่นยำกว่าที่โชว์บนหน้าจอ เพียงแค่เติมน้ำมันจนเต็มถัง จากนั้นรีเซ็ต Trip A หรือ Trip B แล้วนำรถไปใช้งานตามปกติ เมื่อต้องการวัดอัตราสิ้นเปลือง ให้เติมน้ำมันกลับจนเต็มถัง จากนั้นนำระยะทางหลังรีเซ็ต มาหารด้วยจำนวนลิตรที่เติมกลับเข้าไป ก็จะได้อัตราสิ้นเปลืองหน่วยเป็น กม./ลิตร ยกตัวอย่างเช่น ระยะทางวิ่ง 200 กม. เติมน้ำมันกลับได้ 10 ลิตร จะเท่ากับ 200/10 = 20 กม./ลิตร

odo

ทั้งนี้ รถบางรุ่นหากมีการรีเซ็ต Trip A ก็จะทำการรีเซ็ตตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยควบคู่กันไปด้วย โดยส่วนมากระบบ Trip A และ Trip B จะแสดงระยะทางสูงสุดที่ 9999.9 กิโลเมตร ก่อนวนกลับไปเริ่มต้นที่ 0 อีกครั้ง

เมื่อทราบเช่นนี้แล้วก็อย่าลืมลองใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกันด้วยนะครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook