5 เหตุผลว่าทำไมรถ EV จากจีนถึงราคาถูกกว่ารถญี่ปุ่น
ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะนอกจากจะช่วยให้เจ้าของรถประหยัดเชื้อเพลิงลงได้แล้ว ค่าตัวของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) สัญชาติจีนยังมีราคาเข้าถึงง่ายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ยิ่งถ้าเทียบสเปกกับรถสันดาปจากญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ จะเห็นว่ารถไฟฟ้าจีนมีความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก
แล้วเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมรถยนต์ไฟฟ้าจีน ถึงสามารถทำราคาได้ถูกกว่ารถสันดาปสัญชาติญี่ปุ่น บทความนี้ Sanook Auto มี 5 เหตุผลมาบอกกัน
สาเหตุที่ 1 Economies of scale - ประเทศจีนถือได้ว่าเป็นโรงงานของโลก มีฐานการผลิตที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่ง ทั้งยังมีจำนวนประชากรระดับมหาศาล จึงทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำกว่าประเทศอื่นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อผลิตในปริมาณมาก ต้นทุนต่อหน่วยก็จะลดลงตามไปด้วยนั่นเอง
สาเหตุที่ 2 การสนับสนุนจากรัฐบาล - รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเป็นอย่างมาก มีนโยบายส่งเสริมทั้งในเรื่องภาษี การให้เงินอุดหนุน และการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในจีนได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ทั้งในด้านการวิจัยและพัฒนา ไปจนถึงการผลิตและการตลาด
สาเหตุที่ 3 เทคโนโลยีและนวัตกรรม - จีนมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในด้านแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้สามารถผลิตส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าได้ในราคาที่ถูกกว่า ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้คู่แข่่งต่อกรได้ยาก
สาเหตุที่ 4 Supply Chain แข็งแรง - จีนมีห่วงโซ่อุปทานที่ครบวงจร ทั้งวัตถุดิบในการผลิตแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า อันเป็นผลมาจากลักษณะทางภูมิศาสตร์ของประเทศจีนเอง ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงการประกอบรถยนต์
สาเหตุที่ 5 การแข่งขันสูง - ตลาดรถยนต์ในประเทศจีนมีการแข่งขันสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นรถสันดาปหรือรถไฟฟ้า ผู้ผลิตต่างก็พยายามลดราคาเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด ทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากราคาที่ถูกลง ซึ่งส่งผลมายังตลาดต่างประเทศด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี รถยนต์ไฟฟ้าจีนมีราคาจำหน่ายเข้าถึงได้ง่ายก็จริง แต่ควรพิจารณาถึงปัจจัยอื่นๆ นอกเหนือจากราคาจำหน่ายเพียงอย่างเดียว เช่น คุณภาพบริการหลังการขาย, ปริมาณอะไหล่, ระยะเวลารอซ่อม หรือแม้แต่ความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจระยะยาว จะได้ไม่เสียใจในภายหลังครับ