รู้จัก EU Tyre Label บ่งบอกว่ายางรถยนต์ดีแค่ไหนก่อนเลือกซื้อ

รู้จัก EU Tyre Label บ่งบอกว่ายางรถยนต์ดีแค่ไหนก่อนเลือกซื้อ

รู้จัก EU Tyre Label บ่งบอกว่ายางรถยนต์ดีแค่ไหนก่อนเลือกซื้อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทำความรู้จัก EU Tyre Label สติกเกอร์บ่งบอกข้อมูลยางก่อนเลือกซื้อ ทั้งการประหยัดน้ำมัน การยึดเกาะถนน และเสียงรบกวน รู้ไว้จะได้เลือกยางที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง

EU Tyre Label หรือ European Tyre Labeling Regulation เป็นสติกเกอร์ที่บ่งบอกถึงคุณสมบัติของยางรถยนต์แต่ละรุ่น ยี่ห้อ และขนาด เริ่มนำมาใช้สำหรับผู้ผลิตยางล้อที่วางจำหน่ายในสหภาพยุโรป ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2012 เป็นต้นมา โดยจะถูกติดกับยางเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ

ข้อมูลบน EU Tyre Label มีอะไรบ้าง?

ข้อมูลที่ปรากฏอยู่บนสติกเกอร์ EU Tyre Label ประกอบไปด้วย 3 ส่วน

0123eu_label

ความต้านทานการหมุน

ความต้านทานการหมุน ส่งผลต่ออัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของรถ ถูกแบ่งคะแนนออกเป็น 5 เกรด คือ A, B, C, D และ E โดยที่ A หมายถึงค่าความต้านทานการหมุนต่ำสุด ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองได้ดี และ E หมายถึงค่าความต้านทานการหมุนสูงสุด จะส่งผลให้รถมีอัตราสิ้นเปลืองเพิ่มสูงขึ้น

ประสิทธิภาพการเบรกบนถนนเปียก

นอกเหนือจากระบบเบรกของรถแต่ละคัน ยางรถยนต์ยังมีผลต่อระยะเบรกของรถอีกด้วย โดยสติกเกอร์จะแบ่งคะแนนออกเป็น 5 เกรด คือ A, B, C, D และ E โดยที่ A หมายถึงระยะเบรกสั้นที่สุด และ E หมายถึงระยะเบรกไกลที่สุด

เสียงรบกวน

เสียงรบกวนจากยางเป็นหนึ่งปัจจัยในการเลือกซื้อยางรถยนต์ โดยจะระบุผลลัพธ์ที่ได้จากการทดสอบวัดระดับเสียงหน่วยเป็นเดซิเบล (dB) และแบ่งเกรดเป็น 3 เกรด ได้แก่ A, B และ C

ทั้งนี้ การทดสอบวัดระดับเสียงรบกวนของยางกระทำโดยการติดตั้งไมโครโฟนห่างจากจุดศูนย์กลางของรถไปทางด้านข้าง ข้างละ 7.5 เมตร จากนั้นเคลื่อนรถผ่านไมโครโฟนที่ความเร็ว 70-80 กม./ชม. จำนวน 4 ครั้ง และที่ความเร็ว 80-90 กม./ชม. จำนวน 4 ครั้ง โดยรถจะถูกดับเครื่องยนต์และเข้าเกียร์ว่างขณะเคลื่อนที่ผ่านพื้นที่ที่ทำการทดสอบเพื่อให้ผลลัพธ์มีความแม่นยำมากที่สุด

เมื่อทราบเช่นนี้แล้วก่อนเปลี่ยนยางครั้งต่อไปก็อย่าลืมพิจารณาคุณสมบัติของยางที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อ จะได้ยางที่ตรงใจมากที่สุดครับ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook