Mazda BT-50 2025 ไมเนอร์เชนจ์ปรับโฉมดุดันก่อนวางขายปีหน้าที่ออสเตรเลีย
Mazda BT-50 2025 ไมเนอร์เชนจ์ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการที่ประเทศออสเตรเลีย ปรับดีไซน์เน้นความดุดันยิ่งขึ้น อัปเกรดระบบความปลอดภัยด้วยระบบกล้องคู่ เตรียมวางจำหน่ายที่ออสเตรเลียช่วงต้นปีหน้า
Mazda BT-50 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ยังคงเน้นซิกเนเจอร์การออกแบบ "Kodo – soul of motion" แต่ปรับปรุงเพิ่มความดุดันและทรงพลังมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งออนโรดและออฟโรด
ด้านหน้ามาพร้อมไฟหน้าดีไซน์ใหม่ที่ถูกตกแต่งไฟส่องสว่างเวลากลางวันเป็นรูปตัว L ซ้อนกัน พร้อมกระจังหน้าที่เพิ่มขนาดกรอบล้อมหนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ประดับด้วยโลโก้มาสด้าขนาดใหญ่ขึ้น ขณะที่กันชนหน้าถูกเพิ่ม Air curtain เพื่อปรับปรุงการไหลเวียนของอากาศ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำมันได้ดียิ่งขึ้น
ด้านท้ายมีการปรับเปลี่ยนไปใช้ไฟท้ายแบบ LED ที่ส่องสว่างเป็นรูปตัว L เข้ากับด้านหน้า พร้อมทั้งขยายขนาดโลโก้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม รวมถึงเปลี่ยนดีไซน์ล้ออัลลอยเพื่อให้เข้ากับบุคลิกที่เน้นความดุดันยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสารโดดเด่นด้วยหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว พร้อมปุ่มช็อตคัตแบบสัมผัส และปุ่มควบคุมระดับเสียงแบบหมุน ติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ (MID) ขนาด 7 นิ้ว ที่เพิ่มฟังก์ชันการแสดงผลและยังสามารถทำงานควบคู่กับหน้าจอกลางได้
หน้าจอขนาด 9 นิ้ว ยังสามารถแสดงข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับการขับขี่ เช่น ระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS), องศาการหมุนพวงมาลัย, องศาตัวรถแบบเรียลไทม์, ข้อมูลระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง, โหมดการขับขี่, สถานะดิฟล็อก ฯลฯ
นอกจากนี้ Mazda BT-50 ไมเนอร์เชนจ์ มีการติดตั้งช่องจ่ายไฟ USB-C เพื่อความสะดวกในการชาร์จอุปกรณ์ เพิ่มเติมด้วยระบบ Android Auto แบบไร้สาย จากเดิมที่ใช้ได้เฉพาะกับ Apple CarPlay เท่านั้น ขณะที่แผงประตูและแผงคอนโซลหน้ามีการปรับปรุงวัสดุ พร้อมทั้งเปลี่ยนจากสีน้ำตาลเป็นสีดำ (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย)
ในรุ่นแฟลกชิปมีการติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังสีดำสลับหนังกลับ Maztex สีส้มอิฐ ประดับด้วยสัญลักษณ์ BT-50 บริเวณพนักพิงศีรษะ ควบคู่ไปกับทางเลือกตัวถังสี Red Earth Metallic ใหม่ล่าสุดที่มีเฉพาะรุ่น BT-50 ทั้งยังมีสีใหม่อีก 2 สี คือ สีขาว Geode White Pearl และสีน้ำเงิน Sailing Blue Metallic
ด้านระบบช่วยเหลือการขับขี่มีการทำงานด้วยกล้องแบบคู่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจจับวัตถุ เพิ่มเติมด้วยระบบ Traffic Jam Assist, ระบบ Rear Cross Traffic Brake (RCTB) และ Intelligent Adaptive Cruise Control ที่สามารถทำงานควบคู่กับระบบ Traffic Sign Recognition เพื่อเปลี่ยนความเร็วได้โดยอัตโนมัติ
ขณะที่ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB สามารถตรวจจับรถจักรยานยนต์และคนเดินถนนบริเวณทางแยก และระบบ Emergency Lane Keeping ที่เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจจับขอบถนนแม้ไม่มีเส้นจราจร
ส่วนกล้องด้านหลังถูกเคลือบพื้นผิวเพื่อป้องกันน้ำเกาะ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยการมองเห็นได้ดีขึ้น เพิ่มเติมด้วยเส้นกะระยะแบบไดนามิกที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการถอยจอด อีกทั้งยังมีการเพิ่ม USB บริเวณใกล้กับกระจกมองหลังเพื่อความสะดวกในการต่อกล้องบันทึกภาพ
Mazda BT-50 2025 ไมเนอร์เชนจ์มีกำหนดประกาศราคาพร้อมวางจำหน่ายที่ออสเตรเลียช่วงไตรมาสแรกปีหน้า
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ