รีวิว All-new Toyota CAMRY 2025 ใหม่ ถึงจะเปลี่ยนไม่สุด แต่ขับดีที่สุดในกลุ่ม

รีวิว All-new Toyota CAMRY 2025 ใหม่ ถึงจะเปลี่ยนไม่สุด แต่ขับดีที่สุดในกลุ่ม

รีวิว All-new Toyota CAMRY 2025 ใหม่ ถึงจะเปลี่ยนไม่สุด แต่ขับดีที่สุดในกลุ่ม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รีวิวทดลองขับ All-new Toyota CAMRY 2025 ใหม่ แม้ว่าจะมีเค้าโครงมาจากรุ่นก่อนหน้าอยู่บ้าง แต่หากมองในด้านสมรรถนะการขับขี่ และความคุ้มค่าของราคา รถรุ่นนี้ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในกลุ่ม D-segment เครื่องยนต์สันดาปเช่นเดิม

toyota_camry_2025_205

ราคาทางการ All-new Toyota CAMRY 2025 (ราคาพิเศษช่วงแนะนำ)

  • รุ่น HEV Smart ราคา 1,455,000 บาท (ปกติ 1,475,000 บาท)
  • รุ่น HEV Premium ราคา 1,639,000 บาท (ปกติ 1,639,000 บาท)
  • รุ่น HEV Premium Luxury ราคา 1,789,000 บาท (ปกติ 1,809,000 บาท)

สำหรับคันที่ Sanook Auto ได้มีโอกาสทดสอบในครั้งนี้เป็นรุ่น HEV Premium Luxury หรือตัวท็อปที่มีอุปกรณ์มาตรฐานมาให้มากที่สุดนั่นเอง

ภายนอก

รูปลักษณ์ด้านหน้าของ All-new Toyota Camry มีการเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัด โดยมีการออกแบบไฟหน้าเป็นรูปตัว C ซึ่งเป็นแนวทางการออกแบบรุ่นใหม่ๆ ของโตโยต้า โดยทุกรุ่นย่อยจะได้ไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อมไฟส่องสว่าง LED เหมือนกันทั้งหมด มาพร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และปุ่มปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำภายในรถ

toyota_camry_2025_232

ด้านท้ายมีการติดตั้งไฟท้าย Full LED ออกแบบเป็นรูปตัว C เข้ากันกับด้านหน้า หากดูเผินๆ จะพบว่ามีกลิ่นอายของแบรนด์หรู Lexus อยู่ไม่น้อยทีเดียว

ด้านข้างจะพบว่ารายละเอียดเส้นสายมีความคล้ายคลึงกับรุ่นที่แล้ว โดยเฉพาะแนวขอบประตูคู่หน้า และ Shoulder Line จากหน้าจดท้าย โดยรุ่น Premium Luxury และ Premium จะได้ล้ออัลลอยทูโทนขนาด 18 นิ้ว และรุ่น Smart จะได้ล้อขนาด 17 นิ้ว

toyota_camry_2025_223

ทุกรุ่นถูกติดตั้งระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, กระจกบังลมหน้าแบบ Acoustic Glass ลดเสียงรบกวน, กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อกรถ ส่วนรุ่น Premium ขึ้นมาจะได้หลังคา Panoramic Roof แบบเปิด-ปิดได้ พร้อมม่านไฟฟ้า

ส่วนรุ่น Premium Luxury เป็นเพียงรุ่นย่อยเดียวที่จะได้กระจกมองข้างทำงานคู่กับเมมโมรี่ และระบบ Reverse Link ที่ช่วยปรับองศาขณะถอยหลัง

toyota_camry_2025_190

ภายใน

ห้องโดยสารของ โตโยต้า คัมรี่ มีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างชัดเจน โดยรุ่น Premium และ Premium Luxury จะได้เบาะนั่งหุ้มหนังแท้ Smooth Leather สลับหนังสังเคราะห์ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางคู่หน้า (รุ่น Premium ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางฝั่งผู้โดยสาร) รวมถึงมีปุ่มข้างเบาะผู้โดยสารตอนหน้าเพื่อเพิ่มความสะดวกในการปรับจากด้านหลังเช่นเคย

toyota_camry_2025_94

รุ่น Premium Luxury ถูกเพิ่มเติมด้วยเมมโมรี่ 2 ตำแหน่ง, ระบบเลื่อนถอยหลังอัตโนมัติขณะเข้า-ออกตัวรถ, ระบบระบายอากาศคู่หน้า (Seat Ventilator) และระบบดันหลังไฟฟ้าคู่หน้า (รุ่น Premium ลงไปมีเฉพาะฝั่งคนขับ)

ไฮไลต์ของรุ่น Premium Luxury อีกอย่างหนึ่ง คือ เบาะนั่งด้านหลังสามารถปรับพนักพิงด้วยไฟฟ้า โดยควบคุมผ่านปุ่มระบบสัมผัสที่ซ่อนอยู่บริเวณที่วางแขนกลาง ซึ่งแผงที่ว่ายังสามารถควบคุมระบบความบันเทิง และอุณหภูมิระบบปรับอากาศเฉพาะตอนหลังแยกต่างหากได้อีกด้วย

toyota_camry_2025_130

toyota_camry_2025_128

ในรุ่นท็อปสุดยังมีการติดตั้งคอพวงมาลัยไฟฟ้า สามารถปรับได้ 4 ทิศทาง ผ่านปุ่มบริเวณคอพวงมาลัย โดยจะทำงานควบคู่กับระบบเมมโมรี่และระบบเลื่อนอัตโนมัติขณะเข้า-ออก ขณะที่รุ่นรองลงมาเป็นแบบปรับมือทั้งหมด

เบื้องหน้าผู้ขับขี่ถูกติดตั้งหน้าจอสี TFT ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมจอ Head-up Display สำหรับแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (มีเฉพาะรุ่น Premium Luxury) สามารถปรับแต่งรูปแบบการแสดงผลได้หลากหลาย และเปลี่ยนกราฟิกตามโหมดการขับขี่ได้

toyota_camry_2025_111

การจัดการข้อมูลต่างๆ บนหน้าจอจะต้องทำผ่านปุ่มที่พวงมาลัย ซึ่งระยะแรกต้องยอมรับว่ามีความงงงวยอยู่พอสมควร เพราะเพียงแค่จะรีเซ็ตอัตราสิ้นเปลืองยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นตรงไหน แต่เชื่อว่าหากใช้งานจนชินสักหน่อย น่าจะคุ้นเคยและไม่เป็นอุปสรรคจนเกินไปนัก

ส่วนหน้าจอความบันเทิงเป็นแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วเช่นกัน สามารถแสดงผลได้อย่างละเอียดคมชัด รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto ผ่าน USB พร้อมระบบ T-Connect เป็นมาตรฐาน โดยรุ่น Premium Luxury จะได้ลำโพง JBL 9 ตำแหน่งเพิ่มขึ้นมา ขณะที่รุ่นรองจะได้ลำโพงปกติจำนวน 6 ตำแหน่ง

toyota_camry_2025_154

ด้านช่องเชื่อมต่อก็มีให้แบบครบๆ โดยด้านหน้ามีช่อง USB-C จำนวน 3 ตำแหน่ง (เป็นช่องสำหรับส่งถ่ายข้อมูล 1 ตำแหน่ง และช่องสำหรับชาร์จไฟโดยเฉพาะ 2 ตำแหน่ง) และด้านหลังมีช่อง USB-C สำหรับชาร์จไฟอีก 2 ตำแหน่ง รวมถึงมี Wireless Charger ที่ด้านหน้าอีก 1 ตำแหน่งด้วย

ซึ่งต้องบอกว่าระบบ Wireless Charger ของ Toyota Camry 2025 สามารถใช้งานได้จริง ส่วนตัวผู้เขียนเองใช้ iPhone 13 Pro ก็สามารถชาร์จไฟได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด แม้ว่าสภาพเส้นทางจะเคี้ยวคดไปมาก็ตามที ต่างจากรถบางรุ่นที่หากมือถือขยับออกจากตำแหน่งเพียงนิดเดียวก็หยุดชาร์จไปดื้อๆ แล้ว

toyota_camry_2025_95

ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ ระบบ Smart Entry พร้อมปุ่ม Push Start, ระบบเบรกมือไฟฟ้า, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 3 โซน ซ้าย-ขวา และหลัง (รุ่น Premium ลงไปเป็นแบบอัตโนมัติ 2 โซน), กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ, ม่านบังแดดประตูหลัง และม่านกระจกหลังไฟฟ้า (ซึ่งกลับไปใช้ปุ่มกดจริงๆ เรียบร้อยแล้ว ไม่เหมือนกับโฉมก่อนหน้าที่ต้องตั้งค่าผ่านจอผู้ขับขี่ซะงั้น)

ด้านระบบความปลอดภัยมีการติดตั้ง TOYOTA SAFETY SENSE ในทุกรุ่นย่อย เสริมประสิทธิภาพการทำงานด้วยการปรับปรุงกล้องบริเวณกระจกหน้าให้สามารถตรวจจับวัตถุได้ไกลและกว้างขึ้น เพิ่มเติมด้วยระบบช่วยเตือนการเปิดประตู Safe Exit Assist และระบบช่วยเตือนขณะจอดรถ พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ PKSB

toyota_camry_2025_152

ระบบความปลอดภัยมาตรฐานของ All-new Toyota Camry 2025 ทุกรุ่นย่อย

  • กล้องมองรอบคัน PVM (ยกเว้นรุ่น Smart มีเฉพาะกล้องมองหลัง)
  • สัญญาณเตือนกะระยะหน้า 4 จุด หลัง 4 จุด
  • ไฟตัดหมอกหลัง
  • ระบบ ABS / EBD / BA / VSC / TRC / HAC
  • ระบบสัญญาณไฟกะพริบเมื่อเบรกกะทันหัน ESS
  • ระบบเตือนมุมอับสายตา BSC
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA
  • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู SEA (Safe Exit Assist)
  • ระบบเตือนขณะจอดรถพร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ PKSB
  • ระบบ Dynamic Radar Cruise Control แบบ All-Speed พร้อมระบบลดความเร็วอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมหน่วงพวงมาลัยกลับ LDA
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน LTA
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB
  • จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านด้านข้าง / หัวเข่าคนขับ

เครื่องยนต์

All-new Toyota Camry 2025 ทุกรุ่นย่อยถูกติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริด HEV รหัส A25A-FXS แบบ 4 สูบ ความจุ 2.5 ลิตร Dual VVT-i ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน (Li-ion) กำลังสูงสุด 227 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ E-CVT และรองรับน้ำมัน E20 ได้

toyota_camry_2025_121

แม้ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 2.5 ลิตรเท่ากับรุ่นเดิม แต่โตโยต้าได้มีการปรับปรุงใหม่หลายจุด เช่น Motor Generator ที่สามารถสร้างประจุไฟได้เร็วขึ้น, แบตเตอรี่จาก Ni-MH ไปเป็น Li-ion เพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายและเก็บไฟได้ดีขึ้น 9% รวมถึงการจูนกล่อง ECU เครื่องยนต์เพื่อให้ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งหมดนี้ส่งผลให้พละกำลังรวมสูงสุดทั้งระบบเพิ่มขึ้นจาก 211 แรงม้า (PS) ไปเป็น 227 แรงม้า และอัตราสิ้นเปลืองดีขึ้นจาก 23.8 กม./ลิตร เป็น 25 กม./ลิตร

การขับขี่

ขุมพลังไฮบริดของ All-new Toyota Camry ใหม่ บอกได้เต็มปากว่าเป็นระบบไฮบริดที่มีการตัดต่อระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ได้เนียนจนแทบแยกไม่ออกว่ากำลังขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์หรือไฟฟ้า ในช่วงความเร็วต่ำและกลางมีการส่งกำลังอย่างนุ่มนวลและเงียบเชียบ เว้นแต่เมื่อมีการเร่งแซงถึงจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์เล็ดลอดเข้ามา

toyota_camry_2025_54

พละกำลังก็ถือว่าเหลือเฟือทีเดียว หากต้องการขับแบบนิ่มนวล สุขุม ก็เพียงแต่กดคันเร่งอย่างแผ่วเบา ระบบไฮบริดก็จะทำงานเพื่อรีดความประหยัดให้มากที่สุด แต่เมื่อต้องการพละกำลังก็เพียงแค่กดคันเร่งเกิน 50% ขึ้นไป พละกำลังก็จะไหลมาเทมาจนสามารถแตะความเร็ว 120 กม./ชม. ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเปลี่ยนไปใช้โหมด Sport เลยด้วยซ้ำ

ด้านคุณภาพการขับขี่ต้องยอมรับเลยว่า Camry ถูกขยับเข้าไปใกล้ Lexus ขึ้นอีกนิด ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่างที่สามารถซับแรงสะเทือนได้อย่างนุ่มนวลแต่มั่นใจ อันเป็นผลจากการใช้แพล็ตฟอร์ม TNGA ที่มีความดีงามมาตั้งแต่รุ่นก่อนหน้า แม้ว่าจะซับแรงจากการจัมป์คอสะพานหรือพื้นผิวถนนไม่เรียบได้ดี แต่เมื่อใช้ความเร็วสูงก็ไม่มีอาการโคลงให้เห็น เรียกว่าตอบสนองได้ดีทั้งย่านความเร็วต่ำและสูง

toyota_camry_2025_48

เมื่อเราสลับไปนั่งเบาะหลังจะพบว่าตำแหน่งของผู้โดยสารอยู่ในตำแหน่งเดียวกับรุ่นที่แล้วเปี๊ยบ เว้นแต่รุ่น Premium Luxury ที่สามารถปรับเอนพนักพิงได้ ช่วยให้รู้สึกนั่งสบายขึ้นอีกนิด แต่หากวัดกันที่ความกว้างขวางแล้วล่ะก็ ผู้เขียนกลับรู้สึกชอบห้องโดยสารหลังของโฉม ACV50 ที่มีความโปร่งโล่ง และรู้สึกภูมิฐานมากกว่า ขณะที่รุ่นนี้กลับรู้สึกว่าตำแหน่งโดยสารค่อนข้างเตี้ยและมีความอึดอัดกว่านิดหน่อย

สำหรับอัตราสิ้นเปลืองพบว่าหลังขับต่อเนื่องเป็นระยะทาง 77.9 กม. ขับแบบปกติทั่วไปโดยใช้ความเร็วประมาณ 110 - 120 กม./ชม. มีติดไฟแดงและเร่งแซงบ้างนิดหน่อย พบว่าอัตราสิ้นเปลืองบนหน้าจอโชว์ 19.8 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างดีทีเดียวเมื่อเทียบกับขนาดตัวรถและสมรรถนะระดับนี้

สรุป

toyota_camry_2025_241

แม้ว่าหลายคนจะมองว่า Toyota Camry 2025 ดูเหมือนจะเป็นการนำรุ่นเก่ามาปรับปรุงต่อยอด แต่หากมองกันที่เนื้อผ้าจริงๆ จะพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากกว่า 80% และเป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะสมรรถนะการขับขี่ ทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง และอัตราสิ้นเปลือง

สรุปง่ายๆ คือ Toyota Camry 2025 ใหม่ มีสมรรถนะการขับขี่ที่ขยับเข้าใกล้ความเป็น Lexus มากขึ้น แม้ว่าอุปกรณ์มาตรฐานและการตกแต่งรายละเอียดบางอย่างพบว่าคู่แข่งอาจทำได้ดีกว่า แต่ถึงกระนั้นความเป็นโตโยต้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความน่าเชื่อถือ ความทนทาน บริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม เหล่านี้เป็นสิ่งที่คนซื้อคงต้องพิจารณาเข้าไปร่วมด้วย เพื่อให้ได้รถที่ตรงต่อการใช้งานจริงมากที่สุดครับ

อัลบั้มภาพ 35 ภาพ

อัลบั้มภาพ 35 ภาพ ของ รีวิว All-new Toyota CAMRY 2025 ใหม่ ถึงจะเปลี่ยนไม่สุด แต่ขับดีที่สุดในกลุ่ม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook