รีวิว NETA X ใหม่ โดดเด่นที่ความคุ้มค่ากับราคาตัวท็อปไม่ถึง 8 แสนบาท
NETA X เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน 100% อีกหนึ่งรุ่นที่หลายคนกำลังให้ความสนใจ ด้วยราคาค่าตัวที่เข้าถึงได้ง่าย หน้าตาก็สวยพอประมาณ แถมยังมีออปชันครบครันโดนใจ แต่ในเรื่องการขับขี่จะเป็นอย่างไร มาติดตามกับ Sanook Auto ได้ในบทความนี้ครับ
NETA X เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยถือเป็นรุ่นที่ 3 ของแบรนด์ต่อจาก NETA V และ NETA V-II (ปัจจุบันวางจำหน่ายเฉพาะ NETA V-II เท่านั้น) มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย พร้อมราคาจำหน่าย ดังนี้
- NETA X รุ่น Comfort ราคา 739,000 บาท
- NETA X รุ่น Smart ราคา 799,000 บาท
ภายนอก
NETA X ถูกพัฒนาเพื่อวางตำแหน่งในกลุ่ม B-SUV แต่มีขนาดตัวถังใหญ่กว่าคู่แข่งเกือบทุกรุ่น เช่น BYD ATTO 3 และ MG ZS EV ตัวถังมีขนาดความยาว 4,619 มม. ความกว้าง 1,860 มม. ความสูง 1,628 มม. และความยาวฐานล้อ 2,770 มม.
ส่วนความสูงจากพื้นถนนตามสเปกอยู่ที่ 156 มม. คือสูงกว่ารถเก๋งปกติเล็กน้อยเท่านั้น อันเป็นผลมาจากการติดตั้งแบตเตอรี่ไว้ใต้ท้องรถนั่นเอง
ดีไซน์เน้นความโฉบเฉี่ยวด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED รูปตัว L ที่สามารถสลับเป็นไฟเลี้ยวในโคมเดียวกัน พร้อมไฟหน้า Projector LED ขยับลงมาบริเวณกันชน พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติเป็นมาตรฐาน โดยรุ่น Smart ถูกเพิ่มเติมด้วยระบบไฟสูงอัตโนมัติ HBA - High Beam Assist
NETA X ทั้ง 2 รุ่นย่อย ยังถูกติดตั้งหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา พร้อมม่านกรองแสงเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า, กระจกมองข้างปรับและพับเก็บอัตโนมัติ, ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ พร้อมที่ปัดน้ำฝนหลัง และรุ่น Smart เพิ่มเติมด้วยประตูท้ายไฟฟ้า
ทั้งรุ่น Comfort และ Smart ได้ล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 18 นิ้ว หน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบ พร้อมยางขนาด 225/60 R18 ยี่ห้อ Chao Yang การันตีอีกขั้นกว่าเป็นรถจีนแท้แน่นอน
ภายใน
ห้องโดยสารของ NETA X ต้องยอมรับว่าถูกออกแบบให้ดูพรีเมียมหรูหราเกินกว่าราคาที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะการตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลออกไปทางส้ม พร้อมกรอบช่องแอร์และมือเปิดประตูสีทอง และการใช้วัสดุบุนุ่มกว่า 80% ของพื้นที่ห้องโดยสาร
ทั้ง 2 รุ่นย่อยถูกติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางคู่หน้า (รุ่น Smart จะถูกเพิ่มเติมด้วยระบบเมมโมรี่และ Welcome Seat), พวงมาลัยหุ้มหนังปรับได้ 4 ทิศทาง, ระบบเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter บริเวณคอพวงมาลัย และที่บังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้าและไฟส่องสว่าง เป็นต้น
ระบบกุญแจอัจฉริยะของ NETA X สามารถล็อกและปลดล็อกได้โดยไม่ต้องนำกุญแจออกจากกระเป๋า โดยหากพกกุญแจไว้กับตัว เพียงเปิดประตูและขึ้นรถก็พร้อมที่จะเข้าเกียร์และขับออกไปในทันที โดยไม่จำเป็นต้องกดปุ่มสตาร์ทแต่อย่างใด ส่วนการดับเครื่องยนต์ก็สามารถเข้าเกียร์ P จากนั้นลงรถและล็อกตามปกติได้เลย
เบื้องหน้าผู้ขับขี่จะถูกติดตั้งหน้าจอมาตรวัดแบบดิจิทัลขนาด 8.9 นิ้ว แยกต่างหากกับหน้าจออินโฟเทนเมนท์ ต่างจากรถไฟฟ้าหลายรุ่นที่มักจะรวมไว้เป็นหน้าจอเดียวกัน ซึ่งการแยกแบบนี้ถือว่าสะดวกกว่ามาก เพราะไม่ต้องสลับหน้าจอให้วุ่นวาย แถมช่วยลดการละสายตาจากถนนได้อีกด้วย
ส่วนหน้าจอกลางเป็นจอสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว (Neta ระบุว่าจะอัปเดตแบบออนไลน์ OTA เพื่อรองรับ Apple CarPlay ได้ในช่วงปลายปี 2567) รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth พร้อมระบบนำทางในตัว ขับกำลังเสียงผ่านลำโพง 8 จุด คุณภาพเสียงถือว่าพอใช้ได้
ส่วนช่อง USB สำหรับการชาร์จไฟทั้งหลาย มีทั้ง USB-A และ USB-C อย่างละ 1 จุด ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (รวมเป็นทั้งหมด 4 จุด) โดยรุ่น Smart เพิ่มเติมด้วยที่ชาร์จแบบไร้สายบริเวณคอนโซลหน้าอีก 1 ตำแหน่ง
จุดขายสำคัญของ NETA X นอกเหนือจากการตกแต่งที่ดูมีความพรีเมียม ยังรวมไปถึงความกว้างขวาง นั่งสบาย ไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสารตอนหน้าและตอนหลังก็ตาม โดยเบาะแถวหลังสามารถนั่งไขว้ห้างได้เลยด้วยซ้ำ จึงสามารถตอบสนองการใช้งานในรูปแบบครอบครัวได้ดี วันธรรมดาขับไปทำงานคนเดียวก็ไม่เทอะทะ ส่วนวันหยุดจะพาครอบครัวไปเที่ยวก็สบาย
ทั้ง 2 รุ่นย่อยมีระบบสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย แต่คำสั่งที่ใช้งานถือว่าค่อนข้างจำกัด จำเป็นต้องพูดให้ตรงคีย์เวิร์ดจึงจะทำงานได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีฟังก์ชันเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน NETA AUTO ที่สามารถล็อก-ปลดล็อกประตูระยะไกล, สตาร์ทรถพร้อมเปิดแอร์, เปิดประตูท้ายไฟฟ้า และตรวจสอบสถานะต่างๆ ได้จากสมาร์ทโฟน
ลองนึกภาพว่าขับรถไปจอดทิ้งไว้สนามบินเพื่อที่จะบินไปต่างจังหวัด แล้วกลับลืมว่าล็อกรถแล้วหรือยัง ถ้าเป็นรถที่ไม่มีฟังก์ชันเชื่อมต่อก็คงได้แต่กังวล แต่พอมีระบบเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชันก็สามารถตรวจสอบและล็อกรถได้ทันทีไม่ว่าตัวจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ขอแค่ให้มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตเท่านั้นเป็นพอ
สรุปอุปกรณ์มาตรฐาน NETA X รุ่น Comfort
- ไฟหน้า Projector LED
- ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED
- ไฟท้าย LED
- หลังคากระจกพาโนรารมา
- ม่านบังแดดหลังไฟฟ้า
- กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า
- ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
- ระบบกุญแจอัจฉริยะ
- ระบบจ่ายกระแสไฟ V2L
- พวงมาลัยหุ้มหนังสังเคราะห์พรีเมียม
- พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง
- เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์พรีเมียม
- เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
- ที่บังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกและไฟส่องสว่าง
- ระบบปรับอากาศพร้อมกรองอากาศ N95
- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ 8.9 นิ้ว
- หน้าจอกลางระบบสัมผัส 15.6 นิ้ว
- ระบบนำทาง
- ระบบสั่งงานด้วยเสียง (รองรับเฉพาะภาษาไทย)
- ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth
- แอปพลิเคชัน NETA App
- ช่องจ่ายไฟ 12V ด้านหน้าและท้ายรถ
- ช่องเชื่อมต่อ USB Type C
- ระบบอัปเดตเฟิร์มแวร์ออนไลน์ OTA
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง AVM
- ระบบเบรก ABS/EBD/Brake Assist
- ระบบควบคุมการทรงตัว ESC
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HHC
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน HDC
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านถุงลม
- ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง
- จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
- ชาร์จด่วน DC กำลังสูงสุด 65 kWh
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
อุปกรณ์มาตรฐาน NETA X รุ่น Smart เพิ่มเติมจากรุ่น Comfort
- ระบบไฟสูงอัตโนมัติ HBA
- ประตูท้ายไฟฟ้า
- ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งผู้ขับขี่และฟังก์ชันต้อนรับ
- ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย
- ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC
- ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะย่านความเร็วสูง ICA
- ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะย่านความเร็วต่ำ TJA
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถคันหน้า FCW
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ELKS
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDW
- ระบบช่วยเปลี่ยนเลนพร้อมระบบตรวจจุดอับสายตา
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA
- ระบบแจ้งเตือนประตูเปิด DOW
- ระบบจดจำป้ายจราจร TSR
- ระบบภาพจำลองเสมือนจริง Surrounding Reality
- ระบบชาร์จด่วน DC กำลังสูงสุด 100 kWh
รายละเอียดทางเทคนิค
NETA X ทั้งรุ่น Comfort และ Smart ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 9.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม.
แบตเตอรี่ของรุ่น Comfort มีขนาดความจุ 51.8 kWh ระยะทางขับขี่ 401 กม. และรุ่น Smart เพิ่มเป็น 62 kWh ระยะทางขับขี่ 480 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC)
ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบอิสระ Multi-link ซึ่ง NETA X ถือเป็นรถราคาต่ำกว่า 8 แสนบาทเพียงไม่กี่รุ่นที่ติดตั้งช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระมาให้ พร้อมดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ
การขับขี่
ด้านสมรรถนะของ NETA X ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยแรงบิดกว่า 210 นิวตัน-เมตร ที่มาเต็มแบบไม่ต้องรอรอบเหมือนกับเครื่องยนต์สันดาป สามารถฉุดตัวถังที่มีน้ำหนักกว่า 1.8 ตัน จากจุดหยุดนิ่งได้อย่างรวดเร็วทันใจ การขับขี่ในเมืองถือว่ามีความคล่องตัวดี ขณะเดียวกันการขับขี่นอกเมืองก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน กับย่านความเร็วเดินทางตามกฎหมาย 120 กม./ชม.
ขณะที่ช่วงล่างถูกเซ็ตมาเน้นความนุ่มนวล การขับขี่รูดฝาท่อถือว่านุ่มสบาย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ใช้ความเร็วสูงแล้วล่ะก็ จะเจอว่ามีอาการแบบเดียวกับรถไฟฟ้าจีนหลายยี่ห้อ คือจะมีความโยนตัวมากกว่าปกติ คือหากพื้นถนนมีลักษณะเป็นแอ่งหลุม ถ้าเป็นรถทั่วไปจะเด้ง 1 ครั้งแล้วหยุด แต่ NETA X พบว่ามีอาการเด้งต่อเนื่องไปอีก 2-3 ครั้งแล้วจึงหยุด เป็นอีกหนึ่งจุดที่ควรสังเกตก่อนวางเงินจอง ถ้ารับได้ก็ถือว่าโอเค
ส่วนการเก็บเสียงถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง จะมีเสียงลมด้านข้างแทรกเข้ามาในช่วงความเร็วตั้งแต่ 90-100 กม./ชม. ขึ้นไป แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่พอรับได้ ไม่ได้ดังจนน่ารำคาญ ซึ่งส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่ารถไฟฟ้าไม่มีเสียงเครื่องยนต์ จึงมีโอกาสที่ผู้โดยสารจะได้ยินเสียงรบกวนมากกว่ารถสันดาปทั่วไป
สรุป
NETA X ถือเป็นรถที่มีความโดดเด่นด้วยความคุ้มค่า เพราะหากพิจารณาราคาตัวท็อป 799,000 บาท ถ้าเป็นค่ายญี่ปุ่นคงไม่มีวันเห็นลูกเล่นแพรวพราวเช่นนี้แน่นอน แถมยังได้สมรรถนะการขับขี่ในแบบรถไฟฟ้า 100% ส่วนเรื่องของบริการหลังการขายกับความพร้อมของอะไหล่ ก็เป็นเรื่องที่ต้องดูกันยาวๆ เพราะจะมาสู้กับแบรนด์ญี่ปุ่นที่ทำตลาดมาหลายทศวรรษก็คงเหนื่อยหน่อย
ถึงกระนั้น NETA ก็ยังเพิ่มความอุ่นใจด้วยการรับประกันคุณภาพตลอดอายุการใช้งาน ครอบคลุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และแบตเตอรี่ ได้แก่ แบตเตอรี่ มอเตอร์ขับเคลื่อน ชุดควบคุมมอเตอร์ (MCU) กล่องควบคุมรถยนต์ (VCU) ภายใต้เงื่อนไขว่าจะต้องเป็นรถที่ใช้งานส่วนบุคคล (ไม่ใช้งานเชิงพาณิชย์) มีเลขไมล์ไม่เกิน 30,000 กม. ต่อปี และจะต้องเข้ารับบริการทุก 10,000 กม.
อัลบั้มภาพ 46 ภาพ