ยอดขาย TESLA ร่วงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี สวนทาง BYD โตแข็งแกร่ง

ยอดขาย TESLA ร่วงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี สวนทาง BYD โตแข็งแกร่ง

ยอดขาย TESLA ร่วงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี สวนทาง BYD โตแข็งแกร่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Tesla เผยยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าตลอดทั้งปี 2024 ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ เทียบกับก่อนหน้านี้ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยยอดขายลดลง 1% จาก 1,808,581 คันในปี 2023 เหลือ 1,789,226 คันในปี 2024 ขณะที่ บีวายดี (BYD) ครองอันดับสอง สามารถจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าได้มากกว่าเทสลาในไตรมาสสุดท้ายของปีเป็นปีที่สองติดต่อกัน

cybertruck

แม้ว่าจะเป็นการลดลงเพียง 19,355 คัน แต่ถือเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่บริษัทเริ่มเผยแพร่ยอดส่งมอบรถยนต์รายไตรมาสในช่วงกลางปี 2011 โดยในปี 2023 ยอดขายของเทสลาเติบโตถึง 39% แม้ว่ายอดขายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 495,570 คัน สูงกว่าสถิติเดิม 484,507 คันที่ทำไว้ในปีที่แล้ว

อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา ได้คาดการณ์ว่ายอดขายในปี 2025 จะฟื้นตัว โดยคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 20-30% ขับเคลื่อนโดยรุ่นใหม่ที่มีราคาประหยัดมากขึ้นที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

ในขณะที่ยอดขายรถยนต์เทสลาร่วงลง แต่ความต้องการผลิตภัณฑ์พลังงานภายในบ้านของบริษัท เช่น แบตเตอรี่ Powerwall ได้เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบเป็นรายปี

teslapowerwall

ในทางกลับกัน ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริดของ BYD ช่วยให้บริษัทสามารถรับมือกับภาวะชะลอตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าได้ และยังสามารถเพิ่มยอดขายรถยนต์ไฮบริดได้ 63% ในปี 2024 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทำให้ยอดขายรวมของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในปี 2024 อยู่ที่ 4,042,445 คัน เพิ่มขึ้น 34%

ทั้งนี้ เทสลาไม่มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่เลยตลอดช่วงปี 2024 ที่ผ่านมา โดยรถ 2 รุ่นล่าสุดที่ถูกเปิดตัว คือ กระบะไฟฟ้า Cybertruck ซึ่งไม่ได้มีการวางจำหน่ายทั่วโลก ขณะที่ Model 3 Highland ก็เป็นเพียงการปรับไมเนอร์เชนจ์เท่านั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook