HONDA FREED “ชิว เอาท์” ออกนอกเมือง

HONDA FREED “ชิว เอาท์” ออกนอกเมือง

HONDA FREED “ชิว เอาท์” ออกนอกเมือง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คอข่าวอยากรู้ หลังกระแส ฟรีด สร้างความแปลกใหม่ นำเสนอสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ตามแนวคิดอเนกประสงค์ ดีไซน์ใหม่ ตอบสนองชีวิตยุคใหม่ คล่องตัว เมื่อรวมกันแล้วเป็นรถใช้ในเมืองที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้เหมาะกับการใช้งาน หลายด้าน แต่ถ้านำมาใช้นอกเมืองจะเป็นอย่างไร ที่สำคัญ “ฟรีด เวอร์ชั่นไทย” ไม่เหมือนใครในโลก

Concept - Honda Freed รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ เหมาะสำหรับเป็นรถยนต์ครอบครัวรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตในเมือง ต้องการรถยนต์ที่ตอบสนองการใช้งานได้หลายรูปแบบ ขับขี่ง่าย คล่องตัว คำนึงถึงความสะดวกสบายของสมาชิกในครอบครัวเป็นหลัก

วันสบาย ๆ กับ ฮอนด้า ฟรีด” ก็แบบคนมันเพื่อนเยอะในวันพักผ่อน หรืออีกด้านก็เป็น Family Man กับครอบครัวที่อบอุ่น อย่างว่าหนุ่มออฟฟิศ มนุษย์เงินเดือน จะใช้จ่ายอะไรต้องมองหาความคุ้มค่าในระยะเวลายาว ๆ แต่ยังไงก็ชอบชีวิตอิสระในแบบ Freedom ก็ต้อง “ฟรีด” นี่แหละเหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะขับไปทำงาน หรือจ่ายกับข้าว ว่าง ๆ ก็ใช้เป็นพาหนะท่องราตรี ไปกันเป็นฝูง ได้อรรถรสยิ่งนัก อย่างว่าหลายหัวดีกว่าหัวเดียว แล้วความมันส์ก็บังเกิด...

เป้าหมายการเดินทางลองชิมลางในทริปนี้ อยู่ที่หัวหิน เป็นถิ่นมีหอย...ก็ต้องชวนเพื่อน ๆ ออกมาเฮฮากันหน่อย แหม...ก็ได้รถทรงแปลกตาคนไทย ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่นั่งได้ถึง 6-7 คน กับเบาะ 3 แถว ในรูปแบบ 2-2-3 (ไม่ใช่ทีมฟุตบอลเป็นผังที่นั่ง) แต่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร มันจะประหยัดอะไรกันขนาดนั้น แบบว่าไปเยอะ ตัวหารค่าน้ำมันเยอะดีด้วย 555 แถมมีไฮไลต์หรือจุดเด่นกับประตูสไลด์ทั้งซ้ายและขวา โก้หรูไม่เบา งานนี้เลยต้องขับไปโชว์ให้ชาวประชาได้เห็นกันหน่อย ขนาดแวะปั๊ม หรือจอดข้างทางถ่ายรูปเล่นยามว่าง ต้องเปิดประตูเล่นให้หายคันมือ ทั้งซ้าย-ขวา จนบางทีคิด มันจะรวนไหมวะเนี่ย ทำไงได้ นาน ๆ จะได้ประตูสไลด์มาเล่น ใจหนึ่งก็อยากเป็นผู้โดยสาร นั่งสบาย ๆ ชิว ๆ ชมทิวทัศน์ข้างทาง แต่ก็อยากรู้ว่า ฟรีด ขับนอกเมือง ไป-กลับกว่า 300 กิโลจะเป็นอย่างไร แถมมีคอมเมนเตเตอร์ชั้นดี ก็เพื่อนสื่อมวลชนที่พกร่วมทางกันมาด้วย ร่วมแชร์ไอเดียกัน แต่ตอนนี้ย้อนไปดูรายละเอียดกันก่อน

หลังจากบินกลับมาจากอินโดนีเซีย จากการได้รับเชิญจากฮอนด้าให้ไปชม ฟรีด ถึงโรงงานประกอบ ซึ่งเป็นการพาสื่อเพื่อขอคอมเมนต์ว่าเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในไทย ควรจะเป็นไปในทิศทางไหน และตรงกับที่การตลาดคิดไว้มากน้อยหรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามคาด ฟรีด ที่อินโดนีเซีย มาที่ไทยต้องปรับใหม่ ให้ถูกกับรสนิยมสุดเก๋ของเรามากมาย (ที่นั่นขายกัน 6-7 แสน ออปชั่นภายในตามราคาออกย้อนยุค เน้นการใช้งานมากกว่า คือนั่งได้เยอะ ที่อินโดฯ นิยมรถแบบนี้กันสุด ๆ เพราะรัฐบาลสนับสนุน) การปรับปรุงเริ่มตั้งแต่ จับใส่เครื่องเสียง 2 DIN แบบมีเนวิเกเตอร์ พร้อมกล้องส่องหลัง เปลี่ยนแผงควบคุมระบบปรับอากาศ ตกแต่งจุดต่าง ๆ อีกนิดหน่อย แต่ที่น่าเสียดาย ไม่มีมูนรูฟเหมือนที่ญี่ปุ่น พอมาเปิดตัวในไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ฮอนด้าจัด ฟรีด ให้อยู่ในกลุ่มรถ MUV ราคาเปิดที่แปดแสนปลาย (บวกค่าขนส่ง นั่งเรือมาไกล)

กลับมาย่านพระราม 2 กันต่อ ฟรีด เวอร์ชั่นไทยแลนด์ มุ่งหน้าวังมะนาว ช่วงนี้หลายคนเริ่มออกอาการซุกซน บางคนว่าทำไมไม่มีแอร์ตอนหลังมาด้วย แต่อีกคนก็แย้งว่า แอร์ออกแบบมาให้ช่องลมพุ่งเป็นแนวผ่านเบาะแถวหน้ามาถึงด้านหลังได้ทั่วถึง ไม่ต้องห่วง แต่รถคันที่ทดสอบนี้ไม่มีฟิล์มติดมา ในวันอากาศร้อน ๆ บ้านเรายัง โอ.เค. ส่วนคอนโซลหน้าที่ปรับปรุงไป ถือว่าแก้ไขได้ดีมาก พอถึงจุดเลี้ยวผ่านแยกวังมะนาว เริ่มทำความเร็วกันสุด ๆ เพื่อดูสมรรถนะที่หลายคนอยากเห็น ว่าอัตราทดเกียร์ 3 ที่ทำใหม่ มาพร้อมกับปุ่ม D3 Mode เป็นอย่างไร ความเร็วที่ใช้กันอยู่แบบไม่เหนื่อยมาก 140 กม./ชม. พอไหว ไปได้เรื่อยแบบไม่ใจร้อน เพราะไม่ใช่รถสปอร์ตอะไรที่ไหน แถมคันนี้นั่ง 4 คน น้ำหนักเยอะด้วยต่างหาก และยังมีสัมภาระที่อัดแน่นแถวสาม ไปแบบชิว ๆ แต่พอจะแซง อาการเริ่มออก พวกวัยรุ่นเริ่มตะโกนว่าไม่ทันใจ เราเป็นคนขับก็ต้องหันไปบอกมาลองเองไหม พยายามนึกถึงคอนเซ็ปต์รถที่ฮอนด้าให้ไว้ ก็ไม่ขอคอมเมนต์ อย่าลืมเครื่อง 1.5 วิ่งต่างจังหวัดสบาย ๆ ไปเรื่อย ๆ ความเร็วขนาดนี้ก็ โอ.เค.สุด ๆ แล้ว แต่ต้องมาดูอัตราสิ้นเปลืองดีกว่า เพราะเวลาแซงต้องกดคันเร่งกันยาว ๆ รอระยะแซงที่ต้องเผื่อไว้ด้วย หรือใช้โอเวอร์ไดร์ฟช่วย

ทีนี้ถึงเวลาแวะปั๊มแถวเพชรบุรี-บ้านลาด เปลี่ยนตัวขอเป็นคนนั่งมั่ง ได้เวลาไซโคคนขับคืน ให้มันลองดู ช่วงนี้มีเวลาลองขยับแข้งขา ด้านหลังช่องว่างที่มีให้ ถ้านั่งประมาณนี้กำลังสบายสุด ถอยเบาะแถว 2 ไปด้านหลัง เอนเบาะลง วีไอพีมาก ๆ เหมือนนั่งชั้นเฟิร์สคลาส ช่วงล่างสบาย ๆ มีเวลาหันไปดูเกจ์วัดน้ำมันหลังวิ่งไปได้ 140 กม. โอ้โหขยับนิดเดียวเอง แบบนี้ไป-กลับ ใช้ประมาณครึ่งถังเป็นแน่ แบบเหลือให้วิ่งที่ กทม.ได้อีกสามวัน และยิ่งขับแบบไม่รีบร้อนด้วยแล้ว แต่ยังไงจะมีผลทดสอบชุดใหญ่มาให้ดูกันอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นก็มุ่งหน้าเข้าสู่ที่พักที่ หัวหิน พอตกดึกได้เวลาสุมหัวออกไปท่องราตรี หาร้านอาหารนั่งพูดคุยกัน

ระหว่างทางจึงได้ชิมบรรยากาศ ฟรีด ในยามค่ำคืน ลืมบอก เราไม่ได้มากันคันเดียว แต่มาเป็นแก๊ง 5-6 คัน ทีนี้เปลี่ยนใหม่ นั่ง 7 รวมกันจะได้ไม่ต้องขับกันไปเยอะ ค่อนข้างพอดี ไม่อึดอัด แต่ก็ไม่ได้กว้างมากนัก ช่องทางเดินระหว่างในรถก็ไม่ติดขัดอะไร แม้จะเป็นคนรูปร่างใหญ่ก็ตาม การเดินขึ้น-ลง ก็สะดวกสบาย ด้วยพื้นห้องโดยสารไม่สูงจากผิวถนนมากนัก แถมไม่ต้องเปิดประตูเองด้วย ให้คนขับมันกดสวิตช์ด้านหน้า หรือที่รีโมตเปิดให้ รู้สึกเป็นผู้บริหารยังไงไม่รู้

ถึงเวลารีเควสได้มีโอกาสเจอพี่ ๆ สื่อฮอนด้าที่โต๊ะอาหาร ออกความเห็นกันอย่างเมามัน ว่าน่าจะเพิ่มตรงไหนบ้าง หรือปรับอะไรเพิ่ม ส่วนกรังด์ปรีซ์ เราขอที่แขวนถุงน้ำหลังเบาะเพิ่ม “ทำไมให้มาอันเดียวพี่ ที่บ้านซื้อกับข้าวบ่อย มีประโยชน์มาก พอดีใช้ ซีวิค อยู่ มีเหมือนกัน แต่อยากได้เพิ่ม” งานนี้ฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์ ได้ข้อมูลดี ๆ เพียบ ก่อนกลับกรุงเทพฯ ไม่ลืม เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก ช่วยกันอุดหนุนของฝากในย่านต่าง ๆ ติดไม้ติดมือไปฝากคนที่บ้าน จะได้รู้ว่ามาจริง ๆ นะตัวเอง มาทำงานนะเนี่ย ทิ้งท้ายที่ญี่ปุ่น ฟรีด เป็นมินิแวนที่เปิดตัวไม่นานก็ขึ้นอันดับ 1 เชียวนะ และที่พาดหัวว่า ฉีกกฎ ออกนอกเมือง คือรถคันนี้นำเสนอให้หนุ่มสาวยุคใหม่ ชีวิตในเมืองกับความอเนกประสงค์

รถยนต์ฮอนด้า ฟรีด มีให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่น คือ รุ่น S ราคา 894,500 บาท รุ่น E 974,500 บาท รุ่น E Sport 1,014,500 บาท และรุ่น E Navi Sport 1,074,500 บาท ทุกรุ่นติดตั้งเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร ขนาด 118 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และใช้ได้กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี สีเงิน สีเทา สีดำ และสีขาว
Special Thanks USB PORT ที่ทำให้เราไม่เหงา D3 MODE ที่ให้เราสนุกขึ้น ที่วางแก้วอะเมซอนมากมาย และช่องว่างทางเดินระหว่างรถที่ให้เราเดินเล่น อาหารทะเลมื้อใหญ่จากฮอนด้า ที่ผมแพ้แต่ต้องกินด้วยความเสียดาย สุโค่ย อุไม่...

ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค
รุ่น S E
เครื่องยนต์ ซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (SOHC) 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC
ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง หัวฉีดมัลติพอยต์ PGM-FI
ความจุ (ซี.ซี.) 1,497
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบ x ช่วงชัก (มิลลิเมตร) 73.0 x 89.4
อัตราส่วนกำลังอัด 10.4 : 1
กำลังสูงสุด กิโลวัตต์ (พีเอส)/รอบต่อนาที 87(118)/6,600
แรงบิดสูงสุด นิวตัน-เมตร (กก.-ม.)/รอบต่อนาที 146(14.9)/4,800
ระบบควบคุมการเปิด-ปิด ลิ้นปีกผีเสื้อแบบอิเล็กทรอนิกส์ (DBW) O

ระบบส่งกำลัง
ระบบเกียร์ เกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด
ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ Grad Logic Control
พร้อม Direct Control และ Shift Hold Control
อัตรากดเกียร์ เกียร์ 1 2.995
เกียร์ 2 1.678
เกียร์ 3 1.136
เกียร์ 4 0.760
เกียร์ 5 0.551
เกียร์ถอยหลัง 1.956
เฟืองท้าย 4.562

ระบบพวงมาลัย
แบบ แร็ค แอนด์ พิเนี่ยน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า(EPS)
พวงมาลัยหมุนสุด (รอบ) 3.33
รัศมีวงเลี้ยว (เมตร) 5.2

ระบบเบรก
หน้า ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน
หลัง ดรัมเบรก

ระบบสั่นสะเทือน
หน้า แม็คเฟอร์สัน สตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง ทอร์ชั่นบีมแบบ H-Shape
มิติ (มิลลิเมตร)
ความยาว 4,215
ความกว้าง 1,700
ความสูง 1,735
ฐานล้อ 2,740
ระหว่างล้อคู่หน้า/คู่หลัง 1,478/1,466
ความสูงใต้ท้องรถ 165
น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) 1,330 l 1,355
ขนาดล้อ 15 x 5.5J
ขนาดยาง 185/65R15
ขนาดยางอะไหล่ 185/65R15
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) 42

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook