NEW MAZDA CX-9 สวย ดุดัน ล้ำสมัย
จากคำกล่าวที่ว่า โอกาสย่อมมีอยู่เสมอเมื่อคิดจะก้าวไปข้างหน้า ในโลกแห่งยานยนต์ก็เช่นเดียวกัน การพัฒนาปรับปรุงในจุดเล็กๆ น้อยๆ ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอไม่ว่าเป็นส่วนของสมรรถนะ การทำงาน และดีไซน์ทั้งหมดเหล่านี้ถูกหลอมรวมขึ้นเป็นยนตรกรรมโฉมใหม่ในตระกูลมาสด้าอย่างลงตัว
ถ้าพูดถึงมาสด้า CX-9 ถือว่าเปิดตัวสู่สายตาสาธารณชนครั้งแรกในปี 2550 ด้วยการออกแบบเพื่อความคล่องตัวรอบด้าน มีสไตล์ และเน้นความปลอดภัย ตลอดทุกสมรรถนะการทำงาน มาสด้า CX-9 ได้รับการปรับปรุงรูปลักษณ์ให้โดดเด่นสะดุดตาทั้งตัวถังและภายในห้องผู้ โดยสาร พร้อมออฟชั่นต่างๆ เต็มอัตรา ทั้งยังเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้นอีกด้วย
ฉบับนี้เราได้โอกาสลองของกับ NEW MAZDA CX-9 กันแบบเต็มๆ หลังจากได้ชิมลางมาแล้วเมื่อก่อนหน้านี้ แต่เป็นแบบหอมปากหอมคอ แต่ครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่ทาง บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด ได้กรุณาส่งเจ้าม้าศึกรุ่นนี้ มาให้ทางทีมงานนิตยสารออฟโรดได้สัมผัสกันแบบเต็มๆ แต่ก่อนอื่นไปลองดูข้อมูลของรถรุ่นนี้กันก่อนดีกว่า ก่อนที่ผมจะพาท่านผู้อ่านควบ CX-9 ทะยานแบบ ซูม ซูม มุ่งหน้าสู่นอกเมือง
รูปลักษณ์ที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ความรู้สึก
เมื่อเมี่ยงมองดูที่รูปโฉมภายนอก ต้องบอกว่ามาสด้า CX-9 นี้ ได้รับการออกแบบให้รูปทรงมีความสง่างาม โฉบเฉี่ยว ล้ำหน้า ทันสมัย เมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์กับรุ่นอื่นๆ ในราคาที่ใกล้เคียงกัน เพราะความที่มันโดดเด่นตั้งแต่โป่งล้อหน้าและล้อหลังที่ปรับขนาดใหญ่เป็นพิเศษ พร้อมทั้งกันชนแข็งแรงยิ่งขึ้น รวมถึงกระจกหน้าลาดเอียง ซึ่งทำให้ CX-9 สร้างความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน
กระจังหน้าเป็นทรงห้าเหลี่ยม ตกแต่งสไตล์สปอร์ตนอกจากจะสะท้อนถึงความสง่างามแล้ว ยังบ่งบอกถึงตัวตนที่แท้จริงของความเป็นมาสด้าอย่างเด่นชัด นอกจากนี้ที่ด้านหน้ายังมาพร้อมกับคิ้วโครเมียมแนวขวางประดับอยู่ด้านหน้า ของกระจังสร้างเอกลักษณ์โดดเด่น และให้ความรู้สึกถึงคุณภาพอันเต็มเปี่ยม หน้าต่างด้านข้างทุกด้านได้รับการออกแบบให้รู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่ภายใน เรือนกระจกใส ที่มองทะลุจากทุกตำแหน่งไปเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างชัดเจน ท่อไอเสียคู่ ทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดที่ไม่เหมือนใครช่วยขับเน้นความพิถีพิถันในการออก แบบอย่างแท้จริง
ดีไซน์ภายใน: พิถีพิถัน ใส่ใจในทุกรายละเอียด
ทันทีที่เข้าไปนั่งในห้องโดยสาร จะพบองค์ประกอบของความเป็นสปอร์ตกับการออกแบบที่ผสมผสานอย่างประณีตลงตัว ความโค้งมนของแผงควบคุมในรูปตัวที ที่รองรับมาตรวัดส่องสว่างชัดเจนตัดกับลำแสงสะท้อนสีฟ้าช่วยจุดประกายอารมณ์ผ่อนคลาย การให้แสงสว่างด้วยระบบสะท้อนแสงที่ฝังไว้จากเพดานสร้างความสว่างแบบอบอุ่น ความกว้างขวางของห้องโดยสารถือว่าทำได้ดีทีเดียว เพราะนอกจากจะกว้างขวางแล้ว ยังนั่งสบาย ไม่อึดอัด
นอกจากนี้ระบบปรับอากาศที่แยกอิสระได้ถึง 3 โซน แต่ละตำแหน่งสามารถควบคุมอุณหภูมิที่พอเหมาะของตนเองได้โดยโซนผู้โดยสารตอนหลังมีตำแหน่งของ LCD ขนาด 4.3 นิ้ว แสดงระดับอุณหภูมิ ระดับพัดลมและโหมดการทำงาน
ระบบเครื่องเสียงให้เสียงคมชัดจากเครื่องเสียง 6 แผ่น ทั้งในรูปแบบ MP 3 WMA พร้อมช่องต่อเครื่องเล่นภายนอก AUX ถ่ายทอดสู่ลำโพงซับวูฟเฟอร์ กำลัง 227 วัตต์ ของ BOSE และลำโพงอีก 10 ตัว พร้อมจอ LCD ขนาด 4.3 นิ้ว เชื่อมต่อ กล้องมองหลังเวลาถอยรถ
เรียกได้ว่า ทั้งรูปร่างหน้าตา ทั้งภายนอกภายใน อยู่ในเกณฑ์ที่ดีทีเดียว แต่น่าเสียดายที่รถราคานี้ น่าจะเพิ่มเติมที่พับกระจกไฟฟ้ามาให้สักหน่อย เพราะอย่างที่รู้ๆ กันว่าในกรุงเทพฯนั้น พื้นที่จอดรถหาทำยายากหรือไม่ก็จำกัดจำเกลี่ยแค่พอดีจอด แล้วด้วยเรือนร่างที่ใหญ่โตขนาดนี้ มีโอกาสที่กระจกข้างจะไม่ติดอยู่กับที่กับทางมีสูงเหมือนกัน
เครื่องแรง ขับสนุก แต่ความสนุกสนานในการขับขี่ สมรรถนะยกระดับปรับใหม่เต็มสูบ
มาสด้า CX-9 โฉมใหม่ ใช้เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.7 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผัน S-VT ให้พลังสูงถึง 273 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 367 นิวตันเมตร โดยมีแรงบิดที่สูงในช่วงรอบเครื่องยนต์ต่ำตั้งแต่ 2800 รอบถึง 5800 รอบต่อนาที ช่วงชักที่สั้น วางทำมุม 60 องศาที่พัฒนาขึ้นใหม่ เครื่องยนต์ที่ประกอบด้วยเสื้อสูบและฝาสูบ อลูมิเนียมพร้อมไลน์เนอร์ทำจากเหล็กหล่อส่งผลให้มีความคงทนแข็งแรงและมี น้ำหนักเบา ชุดเพลาราวลิ้นขับเคลื่อนด้วยโซ่เพื่อลดอัตราการบำรุงรักษา ใช้จำนวน 4 วาล์วต่อหนึ่งกระบอกสูบพร้อมชุดปรับควบคุมวาล์วที่สามารถควบคุมจังหวะการ เปิด-ปิดวาล์วให้สอดคล้องกับสภาวะการทำงาน อัตราส่วนการอัดที่สูงถึง 10:3:1 ช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพและให้กำลังสูงสุด
มาสด้า CX-9 ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ Sport AT 6 สปีดของ Aisin พร้อมโหมดแมนนวล เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อให้อัตราเร่งที่ดีเยี่ยมและระยะทางสะสมได้ยาวนาน อัตราทดเกียร์ที่กว้างเพิ่มความยืดหยุ่นในการขับขี่โดยให้อัตราเร่งที่ทันอกทันใจ ในขณะที่เครื่องยนต์เดินเงียบ โดยที่เกียร์ 5 และ 6 ใช้อัตราทดแบบ Overdrive
นอกจากนี้ มาสด้า CX-9 ยังเพิ่มระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ Active Torgue Split All-Wheel Drive ซึ่งเป็นระบบเดียวกันกับมาสด้า CX-7 SUV อเนกประสงค์ ระบบนี้ จะตอบสนองการปรับเปลี่ยนจังหวะความเร็วได้ดีขึ้น ด้วยการตรวจจับการลื่นไหลของล้อ วงเลี้ยว อัตราการโคลง อัตราเร่ง รวมถึงกำลังส่งแรงบิดที่เหลืออยู่ ในการขับเคลื่อนปกติ เครื่องยนต์ส่งแรงไปยังล้อคู่หน้าทั้งหมดแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ในการเร่งจังหวะด้วยความเร็วสูง หรือล้อหน้าข้างใดข้างหนึ่งอยู่ในอาการลื่นไถล กำลังส่งที่ได้รับการควบคุมแรงจะลงสู่เพลาท้ายรถ
ด้านชุดเกียร์และเฟืองท้ายของ CX-9 ติดอุปกรณ์เสริมแรง ช่วยในการออกตัวสำหรับเพลาส่งกำลังไปยังเฟืองท้ายด้วยการออกคำสั่งผ่านโมดุล ที่ควบคุมการทำงานของเพลา พร้อมเสริมแรงบิดด้วย multi-plate coupling ควบคุมด้วยไฟฟ้าถ่ายทอดแรงจากศูนย์ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของแรงส่งที่มีอยู่ลงสู่ล้อคู่หลัง
ช่วงล่างแน่นบึ๊ก มาพร้อมความปลอดภัยเต็มพิกัด มาสด้าC x-9 ได้รับคะแนนระดับห้าดาว จากการทดสอบการชนจากด้านหน้าและด้านข้างทดสอบโดยสำนักงานเพื่อความปลอดภัยด้านจราจรบนทางหลวงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NHTSA) นอกจากนี้ยังได้รับคะแนนระดับสี่ดาวในการทดสอบระบบป้องกันการพลิกคว่ำ
ช่วงล่างแบบแยกเป็นอิสระ 4 จุดโครงสร้างรอบด้านหน้าที่ยึดติดกับตัวถังชุดโดยมีตัวยางรอง 6 ตัว รองรับเครื่องยนต์ ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แร็คแอนด์พิเนียน และระบบช่วงล่างแบบสตรัตความฝืดต่ำที่ใช้คอยล์สปริง ระบบช่วงล่างด้านหลังแบบมัลติลิงค์ประกอบด้วยแขนสวิงหลังหนึ่งชิ้นและจุดยึดต่อด้านละ 3 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระและพื้นที่โดยสาร มีการวางตำแหน่งคอยล์สปริงด้านหลังระหว่างจุดเชื่อมด้านล่างและตัวถังชุด ช็อคอัพวางในตำแหน่งที่ใกล้ล้อหลังที่สุดเพื่อการควบคุมการเคลื่อนไหวที่ดีเยี่ยมโดยที่เกิดแรงเสียดทานน้อยที่สุด มีการใช้เหล็กกันโคลงที่ปลายทุกด้านเพื่อเพิ่มความคล่องตัวและการทรงตัวในระหว่างการขับขี่ที่ท้าทาย
มาสด้า CX-9 ใช้ยางเรเดียลขนาด 20 นิ้ว 245/50RD20 เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมระบบเบรคแบบดิสก์ 4 ล้อที่มีระบบกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรค (EBD) ทั้ง 4 ล้อและระบบช่วยหยุดรถฉุกเฉิน (EBA) โดยมีจานดิสก์เบรคที่ใหญ่ถึง 17 นิ้ว ระบายความร้อนได้ดีและรวดเร็ด
สัมผัสกับสปอร์ตครอสโอเวอร์สุดหรู
สำหรับการทดสอบ มาสด้า CX-9 แม้จะเป็นช่วงเวลาหนึ่ง แต่เมื่อได้สัมผัสและขับจริง ต้องยอมรับว่า ภายในหรูหรา โอ่โถง ไม่เป็นรองใครเมื่อเเทียบกับรถในระดับเดียวกัน นั่งสบาย โดยเฉพาะกับการที่มีระบบปรับอากาศแยกอิสระตามโซน ถือว่าเป็นรถที่อยู่ในระดับหรูหราเลยทีเดียว เสียแต่ว่าหากจอ LCD เพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นมานิด ก็จะเฟอร์เฟ็กซ์มากกว่านี้ เวลามองจากแถวหลัง หรือเวลาถอยรถค่อนข้างมองยาก
การใช้งานในเมืองพละกำลังที่มหาศาล ทำให้การเร่งเพื่อแซงทำได้สบายด้วยแรงบิดที่ออกอิทธิฤทธิ์ ตั้งแต่รอบต่ำๆ ทำให้ไม่ต้องกดคันเร่งมาก ก็สามารถทะยานแซงรถคนอื่นได้สบาย ส่วนการใช้งานนอกเมืองก็หายห่วงด้วยอัตราเร่งที่ทำได้ดีตั้งแต่ 0 -180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาไม่นานและ MAXSPEED ที่ทำได้ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง นั้น รอบเครื่องยนต์ก็ค่อนข้างสูงพอสมควร เพราะอยู่ที่ 5,250 รอบ/นาที
หลังจากเร่งแล้วมาถึงระบบความปลอดภัยกันบ้าง นั่นก็คือระบบเบรคที่หยุดฝูงม้าที่มีมาให้ถึง 273 แรงม้าได้โดยลองใช้งานระบบเบรคในความเร็วระดับต่างๆ ประสิทธิภาพถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ผู้ขับขี่สามารถไว้ใจได้ในทุกช่วงของความเร็ว เพราะพร้อมระบบเบรคทั้ง 4 ล้อของ CX-9 นั้นเป็นแบบดิสก์ 4 ล้อที่มีระบบกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรค (EBD) ทั้ง 4 ล้อและระบบช่วยหยุดรถฉุกเฉิน (EBA) โดยมีจานดิสก์เบรคที่ใหญ่ถึง 17 นิ้ว ทำให้หยุดฝูงม้าดังกล่าวได้อย่างชะงักงัน
กับขุมพลัง V6 3.7 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 273 แรงม้าแรงบิดสูงสุดที่ 367 นิวตัน-เมตร ต้องบอกว่า ไม่ธรรมดา ค่อนข้างกระโชกโฮกฮากพอสมควร เรียกได้ว่าฝูงม้าเข้าประจำการได้อย่างทันอกทันใจ ในทุกย่านความเร็ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากขับแบบไปเนียนๆ นิ่มๆ นอกเมืองที่ไม่ค่อยได้ใช้เบรคมากมายนัก อัตราการบริโภคน้ำมันอยู่ที่ 7.5-8.5 กิโลเมตร/ลิตร แต่ถ้าต้องการเร้าใจขับแบบวัยรุ่น อัตราการบริโภคน้ำมันก็จะลดลงมาอีก ส่วนในเมืองที่มีการจราจรติดขัดสลับกับลื่นไหล อัตราการบริโภคอยู่ที่ 5.5-6.5 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งถือว่าการบริโภคน้ำมันอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างบริโภคพอสมควร แต่เมื่อแลกกับพละกำลังที่มีมาเยอะ บวกลบคูณหารแล้ว ก็สมเหตุสมผลกันดีครับ
มาสด้า CX-9 ถ้าเปรียบกับตลาดรถในระดับเดียวกัน มาสด้า CX-9 ถือว่าราคาไม่แพงจนเกินไป กับรูปลักลักษณ์ภายนอกที่สวยสะดุดดตา ความหรูหราภายในที่มีมาให้ ถือได้ว่าเป็นรถที่น่าจับตามองในยุคปัจจุบันเลยทีเดียว