'นิทาน' ช่วยให้เด็กสมาธิดี
ข่าวสะเทือนใจที่โด่งดังไปทั่วโลกในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นโศกนาฏกรรมในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่คร่าชีวิตน้อยๆ ไปกว่า 20 ชีวิต ท่ามกลางเรื่องราวอันน่าสะเทือนใจนี้ ยังมีเกร็ดที่น่าสนใจอีกมากมาย และเรื่องหนึ่งในนั้น คือ เรื่องพลังมหัศจรรย์ของนิทาน ซึ่งคุณครูท่านหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นได้ใช้การเล่านิทาน มาสะกดให้เด็กๆ ทั้งห้องอยู่ในความสงบ และรอดพ้นเหตุการณ์เลวร้ายนั้นมาได้
เหตุใดนิทานจึงมีพลังที่ทำให้เด็กๆ สงบนิ่งได้ พญ.รัตโนทัย พลับรู้การ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ให้ความรู้ว่า เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการอ่านเป็นสิ่งที่มีประโยชน์หลายด้าน โดยเฉพาะหากคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้เล่านิทานให้ลูกฟังด้วยแล้ว นอกจากจะช่วยสานสายสัมพันธ์ ก็ยังทำให้เด็กๆ เกิดสมาธิ ช่วยให้เด็กฝึกการคิดและแก้ปัญหา และเสริมสร้างจินตนาการให้กับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี ด้วยคำถามที่ว่า ทำไมการอ่าน โดยเฉพาะนิทานจึงมีพลังทำให้เด็กๆ กลุ่มใหญ่อยู่ในความสงบได้ เพราะการที่เด็กๆ ได้ฟังนิทาน จะทำให้เกิดความรู้สึกร่วม รู้สึกเพลิดเพลิน นอกจากนี้ยังทำให้เกิดสมาธิที่ยาวนานขึ้น จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ตัวละครในนิทานกำลังคิด กำลังทำ นี่จึงน่าจะเป็นคำตอบถึงพลังแห่งการเล่านิทานที่ช่วยทำให้เด็กๆ อยู่ในความสงบได้ดี
พญ.รัตโนทัย กล่าวว่า สำหรับคุณพ่อคุณแม่ทั่วไป การเล่านิทานให้ลูกฟังก็เป็นประโยชน์มาก ดังที่ได้กล่าวมาแล้วและยังเสริมสร้างความฉลาดทางอารมณ์หรืออีคิวให้ลูกได้ เพราะเรื่องราวในนิทานเปรียบเสมือนสถานการณ์สมมุติให้เด็กๆ ได้ฝึกคิดตาม ถือเป็นแบบฝึกหัดชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งที่สนุกและเข้าใจง่าย จึงไม่น่าแปลกใจหากจะพบว่าเด็กที่ฟังนิทานเป็นประจำจะมีทักษะทางสังคมและมีความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีกว่าเด็กที่ไม่ค่อยได้ฟังนิทาน นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่าเด็กๆ ที่ได้ฟังนิทานเป็นประจำ จะมีนิสัยรักการอ่าน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการพัฒนาชีวิตเมื่อโตขึ้น อีกด้วย
"ในต่างประเทศมีงานวิจัยที่พบว่าช่วงเวลาที่เด็กๆ วัย 3-8 ขวบ มีความสุขมากที่สุดคือ ขณะที่คุณพ่อคุณแม่เล่านิทานให้ฟัง จึงขอชักชวนให้คุณพ่อ คุณแม่มอบช่วงเวลาดีๆ และเวลาแห่งความสุขให้กับลูกๆ ด้วยการอ่าน และการเล่านิทานให้ลูกฟังนะคะ" พญ.รัตโนทัย กล่าวทิ้งท้าย