เรียนอะไรดี ในประเทศรัสเซีย
"ทำไมถึงเลือกมาเรียนที่รัสเซีย" นี่เป็นหนึ่งในคำถามยอดฮิต ที่รับประกันได้ว่า นักเรียนไทยทุกคนที่นี่ต้องเคยได้ยิน หลายคนอาจจะตอบได้ทันทีทันใด แต่ก็เชื่อว่า มีไม่น้อยเหมือนกันที่จะหยุดใช้เวลาคิดซักพักหนึ่ง ถึงแม้คำถามดูเหมือนจะง่ายๆ แต่คำตอบของแต่ละคนจะบ่งบอกถึงมุมมองของตัวเองที่มีต่อรัสเซีย บางคนก็ว่า มาเพื่อเรียนภาษา บางคนก็มาตามความชอบส่วนตัว หรือยิ่งไปกว่านั้น อาจจะบอกว่าหลับตาปาเป้ามา แต่ก็เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะรู้ก่อนที่ตัวเองจะมา ว่า...รัสเซียเป็นอย่างไร
ตามมุมมองของคนไทยโดยทั่วไปแล้ว รัสเซียอาจจะยังเป็นประเทศที่ไม่นิยมมาศึกษาเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับประเทศ Top Hit อื่นๆ แต่ถ้ามองไปในทางกลับกันแล้ว นั่นแหล่ะ คือจุดได้เปรียบที่นักเรียนรัสเซียทุกๆคนจะได้กลับไป ภาษา วิชาความรู้ หรือประสบการณ์มากมาย จะมีใครซักกี่คนที่รู้ นอกจากคนที่เคยมารัสเซียแล้วว่า จากรถลาด้ากระป๋องของรัสเซีย จนถึง เบนซ์สุดหรู ที่วิ่งอยู่ตามถนนนั่นแหล่ะพร้อมที่จะเป็นแท็กซี่ให้คุณทุกเมื่อ ถ้าคุณโบกมือเรียก หรือไม่ก็คุณอาจจะต้องเสียเวลาทั้งวัน เพื่อใช้เวลากับการขอเอกสาร "ง่ายๆ"เพียงแผ่นเดียว และคุณรู้ไหมว่าอยู่ที่นี่ต้องพกพาสปอร์ตติดตัวตลอดเวลา...ทุกๆอย่างที่นี่จะเป็นประสบการณ์ใหม่ ที่คุณไม่สามารถหาได้จากเมืองไทย
รัสเซียเป็นประเทศที่มีการศึกษาที่มีคุณภาพสูงมากแห่งหนึ่ง มีการศึกษาหาความรู้กันอย่างจริงจัง อีกทั้งมีวิชาการ ความรู้และเทคโนโลยีเป็นของตนเองมาเป็นเวลานาน การเรียนการสอนก็เต็มไปด้วยสาระและความรู้ใหม่ๆ บวกกับความสามารถของอาจารย์ผู้สอนที่สามารถอธิบายได้อย่างหมดเปลือก ทำให้รัสเซียเป็นแหล่งความรู้แหล่งใหม่ สำหรับคนที่ไม่ต้องการความซ้ำซากจำเจ...นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายทางด้านการศึกษาก็นับว่าไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
หลังจากรัสเซียเริ่มเปลี่ยนระบบการปกครองเป็นแบบประชาธิปไตยเมื่อปี พ.ศ. 2534 จำนวนนักเรียนไทยที่เข้ามาในรัสเซียก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ เมืองที่นักเรียนนิยมมาเรียนกันหลังจากรัสเซียได้เปิดประเทศเป็นช่วงแรกๆ เห็นจะมีแค่สองเมือง คือ มอสโก และ เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก โดยประมาณปี พ.ศ. 2548-2549 จำนวนนักเรียนไทยในเมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก มีมากถึง 40-50คน หรือประมาณ 2 เท่า เมื่อเทียบกับในมอสโก
ภายหลังจากที่เกิดวิกฤตการเศรษฐกิจฟองสบู่แตกขึ้นในประเทศไทย นักเรียนไทยทั้งสองเมืองหายไปจนเกือบจะหมดประเทศรัสเซีย เท่าที่พอจะจำได้ ไม่น่าจะเกิน 20-30 คนในทั้งสองเมือง โดยหลังจากที่เศรษฐกิจได้เริ่มกระเตื้องขึ้น นักเรียนไทยเริ่มหันเข้ามาเรียนต่อในรัสเซียอีกครั้งหนึ่ง โดยครั้งนี้ในส่วนใหญ่มีจุดหมายคือ กรุงมอสโก
เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าในประเทศรัสเซีย สถาบันไหนดีที่สุด และคงจะพูดออกมาไม่ได้เช่นกันว่า "ในรัสเซียเรียนที่ไหนก็เหมือนกัน" เอาเป็นว่าในแต่ละสถาบัน ก็จะมีจุดแข็งเป็นของตนเอง ดังนั้น การมาเรียนในรัสเซียโดยไม่ให้เสียเวลาเปล่า ควรจะมองจากความสนใจและความถนัดของตัวเองมาก่อน มากกว่าที่จะยึดติดกับชื่อเสียงของสถาบัน
การเรียนการสอนในทุกๆสถาบันจะแตกต่างจากเมืองไทย นักศึกษาทุกคนได้เรียนวิชาเหมือนกันหมดในสาขาของตนเอง ไม่มีการลงทะเบียนเก็บหน่วยกิจ ใครที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ นอกจากจะไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียนแล้ว ทางรัฐยังจะจ่ายเงินเดือนให้ ยิ่งใครเรียนเก่งก็จะยิ่งได้เงินเดือนเพิ่ม ถึงแม้จะไม่มากมายอะไร แต่ก็เป็นความภูมิใจอย่างหนึ่งที่นักเรียนรัสเซียมี...ใครจะรู้ว่าเงินเพียงน้อยนิดนี่เอง อาจจะทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการค้นคว้าหาความรู้หรือคิดค้นทฤษฏีใหม่ๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และนี่ก็อาจจะเป็นหนึ่งในแรงดึงดูดใจที่ทำให้คนรัสเซียรักที่จะศึกษาต่อในสถาบันชั้นสูง
รัสเซียมีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์มาเป็นเวลาช้านาน โดยเฉพาะการศึกษาด้านอวกาศ ที่ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่เชิดหน้าชูตา โดยเมื่อวันที่ 12 เมษายน ปี ค.ศ. 1961 รัสเซียได้ทำให้โลกตะลึง ด้วยการส่งมนุษย์อวกาศนามว่า ยูริ กาการิน (Yuri Gagarin) ไปโคจรรอบโลกพร้อมกับยาน "วอสตอก (Vostok)" มาแล้ว ตามด้วยการสร้างสถานีอวกาศ มีร์ (MIR Space Station) ที่ปลดประจำการไปเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 2001 นี้เอง และในเร็วๆนี้เราอาจจะได้เห็นความร่วมมือด้านอวกาศของไทยกับรัสเซียก็เป็นได้
ศาสตร์ที่มีชื่อเสียงและน่าศึกษามาเป็นอันดับต้นๆอีกด้านหนึ่งของรัสเซียคงหนีไม่พ้น "วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ หรือ Pure Science" จำพวก คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ซึ่งแต่ละสาขาก็มีรางวัลโนเบลเป็นสิ่งการันตีว่าไม่เป็นสองรองใคร ตำราที่ใช้ในการศึกษาทั้งหนักและแน่นด้วยเนื้อหาและทฤษฏี สมควรค่ากับความรู้ที่มีอยู่ข้างใน ในทุกๆสถาบันจะมีห้องทดลองและเครื่องมือจำนวนมาก เก่าใหม่ปนกัน ให้นักศึกษาได้ทำการค้นคว้าทดลองด้วยตัวเอง และคณะอาจารย์ที่ดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้นักศึกษาสามารถหาข้อสรุปด้วยตัวเองได้ว่า ทฤษฎีและปฏิบัตินั้น เป็นไปได้พร้อมกันตลอดหรือไม่...
งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในโลกปัจจุบันนี้ คงหนีไม่ต้นการใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย ทำให้ได้ผลการทดลองมีประสิทธิภาพ แม่นยำและรวดเร็วขึ้น ดังนั้นในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ที่นี่จะมีการสอนการใช้คอมพิวเตอร์จากเริ่มต้น ไปถึงขั้นโปรแกรมเมอร์ไปในตัวด้วย และคงเป็นที่รู้กันในโลกไซเบอร์ว่า นักโปรแกรมเมอร์จากรัสเซียเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก ด้วยเหตุนี้เอง Computer Science ก็เป็นอีกสาขาหนึ่งที่น่าสนใจศึกษา เป็นเพราะว่ารัสเซียมีจุดแข็งทางด้านคณิตศาสตร์อยู่แล้ว การที่จะรู้ลึกทางด้านคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ Programming คงจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร
วิศวกรรมการบินเป็นอีกสาขาหนึ่ง ที่จะไม่เอ่ยถึงไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัสเซียมีเครื่องบินรบตระกูล "มิก (MIG)" และ "ซู (SU)" ที่มีความเหนือชั้นทางด้านเทคนิค และเครื่องบินลำเลียงที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Antonov มาเป็นสิ่งล่อใจให้นักศึกษาต่างชาติเข้ามาเรียนกันอย่างมากมาย
หลายท่านอาจะเคยได้ยินคำล่ำลือถึงความสวยงามของสถานีรถไฟใต้ดินรัสเซีย โดยเฉพาะในกรุงมอสโกที่มีมากถึง 171 สถานี อีกทั้งแต่ละสถานีจะมีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ความสวยงามใต้พื้นดินหลายร้อยเมตรแบบนี้ ถ้ามองอีกด้านหนึ่งคงจะเห็นถึงความสามารถในการขุดเจาะลงไปในพื้นดิน หรือจะเป็นการถลุงแร่ต่างๆออกมาใช้ เนื่องจากรัสเซียมีแร่ธาตุเกือบทุกชนิดเป็นจำนวนมากฝังอยู่ใต้พื้นดิน รวมถึงขั้นการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติออกมาใช้ประโยชน์ได้เป็นอันดับต้นๆของโลกเลยทีเดียว สาขาที่เกี่ยวข้องกับที่กล่าวมาอาจจะนำกลับไปประยุกต์ใช้ได้ในเมืองไทยของเรา
ปรัชญาด้านต่างๆก็เป็นสาขาที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่เป็นนักคิด เพราะรัสเซียถือว่า ปรัชญาเป็นพื้นฐานของความรู้ทุกแขนง การสอนปรัชญาที่นี่จะแบ่งแยกและเน้นหนักไปตามสาขาย่อยๆอีก เช่น ปรัชญาวิทยาศาสตร์ ปรัชญาศิลปะ ปรัชญาการเมือง ปรัชญาศาสนา และอื่นๆอีกมากมาย
สำหรับผู้ที่สนใจที่จะเรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ด้านต่างๆ มาเรียนที่นี่รับรองไม่ผิดหวัง รัสเซียเป็นประเทศที่มีความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ในทุกยุคทุกสมัยมาช้านาน ประวัติศาสตร์ทั้งหลากหลายแขนงจึงถูกนำมาสอนกันอย่างละเอียด มีการเรียนรู้อย่างจริงจังตั้งแต่เด็ก ทำให้คนรัสเซียมีความรู้ทางด้านนี้ค่อนข้างแน่น
ถ้าจะเอ่ยชื่อถึงคณะบัลเลย์บอลชอย (Bolshoi) ของรัสเซีย สำหรับคอบัลเลย์แล้ว น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก ศิลปการแสดงก็เป็นอีกสาขาหนึ่งที่มีชื่อ ทั้งบัลเลย์ โอเปร่า ละครเวที รวมไปถึงดนตรีคลาสสิคประเภทต่างๆ สำหรับท่านที่มีความสนใจทางด้านนี้ รัสเซียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม
สำหรับใครที่ต้องการศึกษาทางด้านรัสเซียโดยตรง เช่นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การเมืองรัสเซีย หรือรัสเซียศึกษา ที่นี่ก็มีคำตอบให้ท่านได้แม่แพ้สาขาอื่น มีสถาบันที่มีคุณภาพสูงที่ให้การศึกษาทางด้านนี้อยู่เป็นจำนวนมาก หรือถ้าสนใจด้านภาษารัสเซีย ก็คงเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าจะได้เรียนกับเจ้าของภาษาโดยตรง
ในรัสเซียยังมีอะไรที่น่าเรียนรู้อีกมากมายสำหรับคนไทย นอกเหนือจากที่ได้กล่าวมา การเปิดรับเอาความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ เป็นการเปิดมุมมองต่อโลกของเราให้กว้างขึ้นไปด้วย การเรียนรู้ถึงการใช้ชีวิตที่นี่อาจจะทำให้คุณใจเย็นขึ้น มีความอดทนมากขึ้น มองโลกในแง่ดีขึ้น หรืออาจจะทำให้คุณกลายเป็นคนประหลาดขึ้นก็เป็นได้ ที่สำคัญ ที่นี่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงคุณได้ตลอดเวลา...ถ้าคุณยังค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการไม่เจอ
ถึงแม้รัสเซียจะมิได้สวยหรูอย่างที่หลายคนคาดหวังไว้ แต่ก็มิได้เลวร้ายไปกว่าที่จะลอง...มิใช่หรือ
บทความโดย : ทรงศักดิ์ พงษ์หิรัญ
ขอบคุณข้อมูล : สถานทูตไทย ณ กรุงมอสโก