ตรวจเข้ม"ม่านรูด"วาเลนไทน์ ปคม.เฝ้าระวัง"เด็ก"เสี่ยง
ห้วงเวลานี้ผ่านไปทางไหน มักจะได้เห็นดอกไม้หลากสี โดยเฉพาะสีชมพู สีแดง ตุ๊กตา ขนม ฯลฯ สื่อแทนความรัก ตั้งเรียงรายให้เหล่าคนอินเลิฟ เลือกซื้อมอบให้คนรัก ในวันแห่งความรัก "วาเลนไทน์"
แม้ "วาเลนไทน์" 14 กุมภาพันธ์ จะไม่ใช่ประเพณีไทย แต่ได้รับความนิยมไม่น้อย โดยเฉพาะในหมู่วัยเรียน วัยรุ่น ตลอดจนวัยทำงาน
หากแต่ วันวาเลนไทน์นี้เอง ก็อาจกลับกลายเป็นภัยสำหรับวัยรุ่น วัยเรียนได้ โดยเฉพาะหญิงวัยรุ่น ทั้งการแสดงความรักจนถลำลึกเกินวัย ตลอดจนการถูกล่อลวงโดยกลุ่มเพื่อนหรือกลุ่มคนแปลกหน้า
โดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ออกคำสั่ง เรื่องมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความปลอดภัย ป้องกันและระงับอัคคีภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีน และเทศกาลวันวาเลนไทน์
สำหรับวันวาเลนไทน์ ระหว่างวันที่ 11-16 กุมภาพันธ์ ให้หน่วยปฏิบัติในพื้นที่ ทำมาตรการเชิงรุกในการรักษาความปลอดภัย เน้นพื้นที่ล่อแหลมหรือเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม และการคุกคามทางเพศ ได้แก่ สถานบริการ สถานบันเทิง โรงแรมม่านรูด สวนสาธารณะ แหล่งมั่วสุมหรือที่ชุมนุมของเด็กและเยาวชน
ให้สายตรวจเพิ่มความเข้มตรวจตรากลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มเด็กและเยาวชน กลุ่มผู้มีพฤติการณ์แนวโน้มก่ออาชญากรรม การหลอกลวงของกลุ่มมิจฉาชีพ การแข่งรถในทาง ฯลฯ รวมทั้งพื้นที่เสี่ยง เช่น สถานบริการ สถานบันเทิง ร้านอินเตอร์เน็ต ร้านค้าจำหน่ายสื่อหรือวัตถุลามกอนาจารทุกประเภทอย่างจริงจัง
เข้มงวดกวดขัน สถานบริการ สถานบันเทิง ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสถานบริการ และ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 โดยเคร่งครัด และเพิ่มความเข้ม ในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ต้องไม่จำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่เด็กและเยาวชนรอบสถานศึกษา รวมถึงห้ามมั่วสุมเสพยาเสพติด ไม่จัดให้มีการแสดงลามกหรืออนาจารอย่างเด็ดขาด หากสถานบริการปล่อยปละละเลย ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด
ซึ่งทุกหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ต่างรับลูกคำสั่ง ผบ.ตร. อาทิ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) จัดทำแผนป้องกันปราบปรามอาชญากรรมวันวาเลนไทน์ ระบุว่า กลุ่มหนุ่มสาวมักจะนัดเลี้ยงสังสรรค์ตามสถานบันเทิง สถานบริการ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ที่มักจะมีชาวต่างชาตินิยมไปท่องเที่ยว เช่น พัทยา เชียงใหม่ และภูเก็ต เป็นต้น
รวมทั้งมักมีกลุ่มบุคคลละเมิดสิทธิเด็กเยาวชน หรือลักลอบค้ามนุษย์ตามสถานบันเทิง สถานบริการ ร้านอินเตอร์เน็ต ร้านเกม มอมเมาหรือปล่อยปละละเลยให้เด็กเยาวชนเข้าไปใช้บริการ และนำไปสู่การละเมิดสิทธิเด็กเยาวชนในทุกรูปแบบ
แผนของ บก.ปคม. ให้ระดมปราบปรามอาชญากรรม วันที่ 11-16 กุมภาพันธ์ ส่วนใหญ่เป็นคดีเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กและความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพิ่มความเข้มงวดออกตรวจโรงแรมม่านรูด สวนสาธารณะ สถานบริการโดยห้ามจำหน่ายสุราให้แก่เด็กและเยาวชน ขอให้หลีกเลี่ยงการให้บริการแก่เด็กและเยาวชน หากพบพฤติการณ์ว่าเด็กและเยาวชนถูกล่อลวงมาให้สืบสวนจับกุมตามอำนาจหน้าที่อย่างเฉียบขาด
ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนและโรงแรมทุกแห่ง โดยเฉพาะโรงแรมม่าดรูดให้ช่วยตรวจสอบหรือสังเกตผู้มาใช้บริการ ขอให้หลีกเลี่ยงการให้บริการแก่เด็กและเยาวชน
พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม. แจงว่า กก.1 ปคม. ดูพื้นที่ กทม. มุ่งเน้นเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง ตามโรงแรมม่านรูด อพาร์ตเมนต์ และห้องพักชั่วคราว กก.2 ปคม. รับผิดชอบภาคตะวันออก ที่ จ.ชลบุรี เน้นที่พัทยา และแหล่งท่องเที่ยว จ.ระยอง เคยจับกุมเอเยนต์ค้ามนุษย์ 3-4 รายเร่ขายบริการให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
"กก.3 ปคม. เขตชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน จ.มุกดาหาร นครพนม และ จ.บึงกาฬ ให้เฝ้าระวังแนวตะเข็บชายแดน และเมืองใหญ่ ในพื้นที่ บช.ภ.4 มักใช้ช่วงเทศกาลมาขายบริการ กก.4 ปคม. เน้นเฝ้าระวัง จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย กก.5 ปคม. เน้นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาตินิยมมาพักผ่อน อาทิ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.เพชรบุรี และกก.6 ปคม. เน้น อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่มีนักท่องเที่ยวประเทศมาเลเซีย เข้ามามาก" ผบก.ปคม.กล่าว
ผบก.ปคม.เผยด้วยว่า นอกจากนี้แต่ละกองกำกับการมีฐานข้อมูลเกี่ยวกับการค้ามนุษย์อยู่แล้ว โดยเฉพาะสถานบริการคาราโอเกะ นวดแผนโบราณ และนวดสปา จึงให้ร่วมกับตำรวจพื้นที่เฝ้าระวังป้องกันพวกฉวยจังหวะเทศกาลมาก่อเหตุ รวมทั้งให้นำฐานข้อมูลเดิมจากเหยื่อที่เคยถูกลวงไปค้าบริการ ทั้งเหยื่อชาวไทยและชาวต่างชาติ (ลาว) ตลอดจนให้ตรวจสอบกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน ทางสายด่วน 1191
"อีกทั้งปัจจุบันมีการแสวงหาผลประโยชน์จากเด็กในรูปแบบอื่นๆ อาทิ ให้เด็กเข้าไปในร้านคาราโอเกะ เปลื้องผ้า โดยให้ผู้ใช้บริการจ่ายเงินให้เจ้าของร้าน ตรงนี้ก็เป็นจุดเสี่ยงให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ" ผบก.ปคม.เผย