สนอ.ห่วงโรค"มือ-เท้า-ปาก"ลามกรุง ชี้เด็กเล็กเสี่ยงป่วย-สั่งโรงเรียนเฝ้าระวัง
พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้โรคมือเท้าปากกำลังระบาดไปทั่วประเทศ โดยสถิติกองควบคุมโรคระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยแล้วจำนวน 1,676 ราย ยังไม่พบผู้เสียชีวิต โดยเด็กแรกเกิดถึงอายุ 4 ปี ป่วยมากที่สุด พบร้อยละ 84 รองลงมา 5-9 ปี ร้อยละ 13 และตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป พบร้อยละ 1 ขณะที่สถิติผู้ป่วยของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ในปี 2556 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-2 มิ.ย. พบผู้ป่วยแล้ว 11,678 ราย ยังไม่พบผู้เสียชีวิต โดยเด็กอายุ 1 ปีป่วยมากที่สุด พบร้อยละ 31 รองลงมา 2 ปี ร้อยละ 25 และ 3 ปี ร้อยละ 17 พื้นที่ที่พบมากที่สุดได้แก่ ระยอง เชียงราย พะเยา นครสวรรค์ และน่าน
"โรคนี้มักเกิดในเด็กที่มาอยู่รวมกันมากๆ ซึ่งใน กทม.มีโรงเรียนอยู่หลายแห่ง ช่วงนี้มีฝนตก จึงเสี่ยงต่อการระบาดของโรค แม้ กทม.ยังไม่พบการแพร่ระบาด แต่ให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะระบาดขึ้นได้ เพราะเป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก" พญ.วันทนีย์กล่าว
พญ.วันทนีย์กำชับว่า โรงเรียนที่มีเด็กอยู่เป็นจำนวนมากให้ดูแลเรื่องหลักอนามัยให้ถูกต้อง คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ รวมทั้งดูแลความสะอาดของอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ผู้ปกครองต้องดูแลอย่างใกล้ชิด หากพบว่า บุตรหลานมีไข้ขึ้นสูง 1-2 วัน อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร เจ็บภายในช่องปากและลำคอ ปวดเมื่อยตามร่างกายคล้ายเป็นหวัด ในปากมีแผลเหมือนเป็นร้อนในและมีผื่นเป็นจุดแดงอักเสบที่ลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือที่ก้น รวมถึงหากมีอาการชัก ให้รีบปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด