วัยรุ่นวุ่นวาย ปิด/เปิดเทอมตามอาเซียน ทำอะไรกันดี?

วัยรุ่นวุ่นวาย ปิด/เปิดเทอมตามอาเซียน ทำอะไรกันดี?

วัยรุ่นวุ่นวาย ปิด/เปิดเทอมตามอาเซียน ทำอะไรกันดี?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โดย อุดมศักดิ์ ภัคธนาพงศ์

ประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 หลายฝ่ายมีการเตรียมตัวเพื่อจะต้อนรับกับความเปลี่ยนแปลงที่ค่อยๆ เกิดขึ้น รวมทั้งระบบการศึกษาของไทย ที่มีการเปลี่ยนแปลง กล่าวคือในช่วงปิดเทอมใหญ่ที่จะถึงนี้ บรรดามหาวิทยาลัยที่เป็นของรัฐบาล หรือเอกชน ก็จะปรับการเปิด-ปิดเทอม ให้เข้ากับประเทศในประชาคมอาเซียนด้วยกัน

ด้วยการปิดเทอมยาวตั้งแต่เดือนมีนาคมไปถึงเดือนสิงหาคมทำให้เยาวชนกำลังจะมีเวลาว่างถึง 6 เดือนเต็ม!

ในฐานะที่อดีตนักศึกษา มองว่าการปิดเทอมยาวแบบนี้มีทั้งผลดีและผลเสียในตัวของมันเอง ผลดีคือ การที่เราได้มีเวลาพักที่นานขึ้น ที่สำคัญคือ เป็นโอกาสทองที่จะได้เทกคอร์สเพิ่มพูนความรู้ตนเองเช่น ไปเรียนซัมเมอร์เพื่อฝึกภาษาเพิ่มเติมในต่างประเทศ หรือบางคนอาจใช้เวลาไปกับการทำงานพิเศษหารายได้ไว้เป็นค่าใช้จ่ายค่าเล่าเรียนฯลฯ

แต่ผลเสียก็มีเช่นกัน เพราะการหยุดไปยาวแบบนี้ ความต่อเนื่องของวิชาเรียนที่ได้ศึกษามามันก็จะหายไปกับช่วงเวลาที่เราพักนั่นเอง

ดังนั้น แล้วในช่วงเวลาที่ว่างยาวนานขนาดนี้ เราควรจะทำอะไรกันดี นอกจากการเรียนซัมเมอร์ หรือการทำงานพิเศษ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้มีจัดนิทรรศการการศึกษาต่อต่างประเทศ ขึ้นมาเพื่อที่จะแนะนำนักศึกษาในการใช้เวลาว่าง เพื่อฝึกภาษาของตัวเอง ต้อนรับการเข้าสู่เอซี

ในงานดังกล่าวบรรดาบริษัทตัวแทนการศึกษาต่อต่างประเทศ จึงได้เตรียมโครงการการเรียนทั้งระยะสั้นระยะยาว รวมไปถึงการฝึกงานยังต่างประเทศ เพื่อที่จะให้นักเรียนไทยได้ฝึกภาษา พร้อมจะต้อนรับแขกที่จะมาจากทุกสารทิศ โดยไม่มีอาการเกร็งหรือหวาดกลัวอย่างที่เป็นๆ กันอยู่ในตอนนี้

โครงการ บิ๊ก ซัมเมอร์ ของบริษัท ศกร จำกัด ซึ่งมีโครงการหลักคือ "โนไอเอลท์ส" โดย วงศกร บุญสวัสดิ์ ผู้บริหารโครงการอธิบายให้ฟังว่า คำว่า "โน ไอเอลท์ส" (IELTS) ก็คือ ไม่ต้องสอบไอเอลท์ส (การทดสอบภาษาอังกฤษระดับนานาชาติ ใช้ประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษ ซึ่งประกอบด้วย ทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน) ซึ่งเป็นอุปสรรคสำหรับคนไทยมากๆ

"ต่อแต่นี้แม้จะสอบไอเอลท์สไม่ผ่าน ก็ไม่เป็นไร เพราะโครงการของเราจะแนะนำนักเรียนไปเรียนต่อต่างประเทศโดยไม่ต้องสอบไอเอลท์ส แต่ถ้าเกิดยังพูดไม่ถูก เขียนไม่ค่อยได้ ก็ต้องมีการเรียนเพิ่มเติม ซึ่งโครงการนี้จะเน้นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เช่น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย อังกฤษ และอเมริกา"

อีกโครงการที่น่าสนใจ เป็นโครงการของบริษัท ไฮ-ฟลาย เอดดูเคชั่น จำกัด ที่จะส่งนักศึกษาไปฝึกงานในโรงแรมชั้นนำที่สิงคโปร์ โดยใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือน ในตำแหน่งที่หลากหลาย ซึ่งถ้าสถาบันไหนให้การสนับสนุนก็จะสามารถนำมาใช้เป็นหน่วยกิจในวิชาเรียนได้

ทรัพย์ แสวงชัย ผู้ช่วยประสานงานฝ่ายการตลาด บริษัท ไฮ-ฟลาย เอดดูเคชั่น จำกัด เผยถึงโครงการนี้ว่า "จุดเด่นหลักของโครงการคือ การ Internship ที่สิงคโปร์ ผมเชื่อว่าผมเป็นเจ้าเดียว เจ้าแรกในประเทศไทยที่ส่งน้องไปฝึกงานที่สิงคโปร์กับโรงแรมระดับ 4 ดาว 5 ดาว ส่วนเจ้าอื่นที่คล้ายๆ กันก็มี แต่เน้นในส่วนของภัตตาคารหรือร้านอาหาร แต่ผมเชื่อว่าในบรรดาธุรกิจเดียวกัน ผมเป็นเจ้าเดียวในประเทศไทยที่ทำงานให้สิงคโปร์"

ดังนั้น เมื่อมีโครงการแบบนี้ขึ้นมา ลองตามไปถามความเห็นจากนักศึกษาบ้างว่า แต่ละคนตื่นตัวและเตรียมวางแผนรองรับกับปิดเทอมใหญ่ที่กำลังจะมาถึงอย่างไรบ้าง

เริ่มที่ "ไข่มุก" น.ส.กมลฉัตร รัตนะรุจ นักศึกษาปี 3 คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อายุ 20 ปี บอกว่า เป็นการปิดเทอมที่ยาวนานมาก และรู้สึกนานเกินไป ปกติปิดแค่ 3 เดือน ก็รู้สึกว่าความรู้ที่เคยเรียนมามันหายไปกับช่วงเวลาเหล่านั้นแล้ว

ก่อนหน้านี้ช่วงที่ปิดเทอมแค่ 3 เดือน ส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาไปกับการพักผ่อน และตั้งแต่ขึ้นปี 2 มาก็ต้องเรียนซัมเมอร์ทุกปี ส่วนในปีนี้ตนก็ตั้งใจว่าช่วงเวลาว่าง 6 เดือนจะต้องฝึกงาน รวมไปถึงการเรียนซัมเมอร์ นอกจากนี้ก็คงใช้เวลาในการเรียนพิเศษ

ถามถึงโครงการไปเรียนต่างประเทศระยะสั้น ไข่มุกบอกว่า "เป็นเรื่องที่น่าสนใจ แต่ว่าเมื่อปีที่แล้วมีเพื่อนเคยไป เวิร์ก แอนด์ ทราเวล มาแล้วไม่ดี เจอที่พักแย่แถมถูกใช้งานหนัก และไม่ค่อยได้ฝึกภาษาเท่าที่ควร ทำให้รู้สึกว่าไปแล้วไม่คุ้ม ดังนั้น ตนจึงมองไปที่การไปศึกษาต่อระยะสั้นมากกว่า เพราะน่าจะทำให้ได้ฝึกภาษามากกว่าการไปทำงาน"

มาดูทางด้านฝ่ายชายกันบ้าง "เต้ย" จักรกฤษณ์ พันปา นักศึกษาปี 2 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา อายุ 19 ปี มองเรื่องการปิดเทอมเอซีว่า เป็นเรื่องดีเพราะได้พักผ่อน แต่ก็เกรงว่าจะทำให้การเรียนเสีย ซึ่งตนได้วางแผนสำหรับการปิดเทอมยาวแบบนี้ไว้ด้วยการหางานพิเศษทำ เพื่อที่จะได้แบ่งเบาภาระของที่บ้าน เพราะโดยปกติแล้วทุกๆ ปิดเทอม ก็จะหางานพิเศษทำพร้อมกับช่วยงานที่บ้าน

"การไปต่างประเทศก็มีมองไว้บ้าง เพราะว่าประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน จึงอยากจะศึกษาด้านภาษาให้แน่นเข้าไว้ ผมเคยมีเพื่อนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ไปเรียนที่ยุโรปมาก็แนะนำเรื่องการเรียนต่างต่อต่างประเทศไว้บ้าง เพราะจะได้เป็นการฝึกภาษาให้คล่องขึ้น หรือแม้แต่การไปทำงานต่างประเทศก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะสะดวกในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ไม่ต้องพึ่งทางบ้านมากนัก และได้เป็นการฝึกภาษาไปในตัวด้วย"

มาถึงตัวแทนจากมหาวิทยาลัยเอกชน "มุก" มุกดาวรรณ สานุสิทธิ์ กำลังศึกษาอยู่ชั้นปี 3 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยหอการค้า อายุ 21 ปี กลับมองเรื่องปิดเทอมเออีซีว่าเป็นเรื่องเฉยๆ ถ้าถามว่านานไหมก็ถือว่านาน แต่ว่าทางมหาวิทยาลัยยังไม่ได้แจ้งรายละเอียดมากนัก โดยปกติแล้วช่วงเวลาที่ปิดเทอมก็จะกลับบ้านที่ตรัง และใช้เวลาว่างในการช่วยที่บ้านทำงาน ซึ่งที่บ้านนั้นเป็นบ้านสวน ก็มักจะตื่นเช้าเพื่อเข้าสวนกับแม่เสมอ

"เคยเห็นโบชัวร์อยู่บ้าง ก็มีสนใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ติดตามเท่าที่ควร ซึ่งถ้าถามว่ามีโอกาสอยากไปไหมก็อยาก เพราะว่าจะได้เรียนภาษา ซึ่งการไปต่างประเทศน่าจะทำให้เข้าใจได้เร็วขึ้น และภาษาของตนจะดีขึ้น เพราะประเทศเรากำลังจะเข้าเออีซี ก็อยากจะเตรียมตัวด้านภาษาไว้"

สุดท้ายแล้วการปิดเทอมที่ยาวนานแบบนี้ รวมไปถึงการที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่เอซีทำให้บรรดานักศึกษาใช้เวลาว่างในการเตรียมตัว เพื่อฝึกปรือภาษาให้กล้าแกร่ง พร้อมรับมือกับแขกบ้านแขกเมืองที่จะทะลักเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย แต่จะไปฝึกยังต่างประเทศหรือในประเทศนั้นขึ้นอยู่กับทุนทรัพย์


ที่มา นสพ.มติชน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook