จี้มหา′ลัยปลุก น.ศ.ไทยต้านคอร์รัปชั่น ไม่ลอกข้อสอบ-ก๊อปงานวิชาการ-คืนเงิน กยศ.
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมทางวิชาการ ทปอ. ประจำปี 2556 เรื่อง "บัณฑิตไทย คนรุ่นใหม่หัวใจคุณธรรม" ว่ามหาวิทยาลัยจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นในสังคมไทย ถ้าสามารถผลิตบัณฑิตที่มีหัวใจคุณธรรม รักความยุติธรรม ไม่ทุจริตคอร์รัปชั่นแล้ว เมล็ดพันธุ์ดังกล่าวก็จะเติบโต และสร้างสังคมไทยให้มีความเป็นธรรม ปราศจากคอร์รัปชั่นได้
นายสมคิดกล่าวว่า ส่วนเรื่องการอุดมศึกษาไทยกับประชาธิปไตยและการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นนั้น ควรจะต้องปลูกฝังให้นิสิต นักศึกษามีคุณธรรม จริยธรรมตั้งแต่อยู่ในมหาวิทยาลัย เพื่อจะได้ออกไปเป็นคนดีของสังคม โดยเฉพาะในการปลูกฝังการทำความดี ไม่ทุจริต ทั้งเรื่องการโกงข้อสอบ การคืนเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และช่วยดูแลติดตามการทุจริตต่างๆ ของบุคลากรในมหาวิทยาลัยด้วย อาทิ กรณีการจัดซื้อจัดจ้าง และการลอกผลงานทางวิชาการ ที่ผ่านมาสังคมมองว่ามหาวิทยาลัยเอื้อประโยชน์ให้กันเองในเรื่องการลอกผลงานทางวิชาการ แล้วไม่มีการลงโทษ หรือโกงข้อสอบ ก็ไม่มีการดำเนินการลงโทษอย่างจริงจัง ดังนั้น สิ่งที่มหาวิทยาลัยต้องทำคือ กวาดบ้านของตัวเองให้ดีก่อน
นายกล้านรงค์ จันทิก อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ชื่นชม ทปอ.และสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ที่พยายามส่งเสริมให้นิสิต นักศึกษา มีหัวใจในเรื่องคุณธรรมจริยธรรม การที่นิสิต นักศึกษา บุคลากรจากสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ รวมถึง ข้าราชการ และประชาชน ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แสดงให้เห็นว่าทุกคนไม่ได้ทอดทิ้งประเทศ ยึดมั่นในคุณธรรม ความถูกต้อง และความซื่อสัตย์ รับไม่ได้กับการทุจริตคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบแล้วจะได้รับการนิรโทษกรรม จนออกมาเคลื่อนไหวทำให้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวแม้จะยังไม่แท้ง แต่ก็ถูกดองไว้
นายกล้านรงค์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา มีผลสำรวจโพลของสถาบันการศึกษาบางแห่ง ได้สำรวจทัศนคติต่อการยอมรับได้ หากรัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ขอให้ตนเองได้ประโยชน์ด้วยในปี 2556 ผลออกมาว่า นักเรียน นักศึกษา 73.3% ยอมรับได้กับเรื่องนี้ ซึ่งตนไม่เห็นด้วยกับผลการสำรวจดังกล่าว และถือเป็นคำถามชี้นำ ไม่ถูกต้อง และสวนทางกับผลการสำรวจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่ออกมาว่า นักศึกษากว่า 94% เห็นว่าการคอร์รัปชั่น โกงกินเงินแผ่นดิน เป็นเรื่องไม่ดี ทำให้ประเทศเสียหาย และยังมีข้อเสนอว่าหากพบการกระทำดังกล่าว จะต้องลงโทษอย่างหนักถึงประหารชีวิตล้างเผ่าพันธุ์ 7 ชั่วโคตร ขณะที่ผลสำรวจยังระบุว่า คนไทยส่วนใหญ่ยอมรับได้ถ้ารัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่น หรือโกหกได้เพื่อเอาตัวรอด ถึง 68.3% เป็นคำถามที่อันตรายที่สุด เพราะเป็นการชี้นำ ขณะที่องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติได้ตั้งข้อสังเกตว่า จีน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย กลับมีผลการสำรวจในเรื่องของความโปร่งใสดีขึ้น แสดงว่ามีการจัดการปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม เห็นว่าวิธีการที่จะปลูกฝังให้นิสิต นักศึกษามีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตสำนึกซื่อสัตย์สุจริต มหาวิทยาลัยจะต้องส่งเสริมให้นักศึกษาทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเหมือนเป็นมะเร็งร้าย โดยจากผลสำรวจของ World Economic Forum หรือ WEF พบว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) ของมาเลเซียสูงกว่าไทย 2 เท่า ทั้งที่เมื่อ 10 ปีที่แล้วด้อยกว่าไทย ส่วนสิงคโปร์ไม่ต้องพูดถึง โดย WEF ยังวิเคราะห์ด้วยว่า ปัญหาสำคัญที่ทำให้ไทยประสบปัญหาในเรื่องการพัฒนามี 2 ประการ คือ ปัญหาคอร์รัปชั่น และการเมือง ถ้าเราจะแก้ปัญหาดังกล่าว จะต้องเริ่มแก้ที่จิตสำนึกของคน ถือเป็นหน้าที่ของมหาวิทยาลัยที่จะปลูกฝังให้บัณฑิตมีจิตสำนึกที่รับไม่ได้กับการทุจริตคอร์รัปชั่น เพื่อออกไปเปลี่ยนแปลงสังคม
ที่มา : นสพ.มติชน