"ไวน์"ให้แค่วันละ3แก้ว

ไม่ค่อยได้เดินทางครับ ด้วยอะไรต่ออะไรหลายๆ อย่างไม่อำนวยให้ในช่วงนี้ แต่ละมื้อเลยแวะเวียนอยู่กับร้านเก่าๆ เดิมๆ ทั้งที่ส่วนใหญ่อร่อยได้ใจ แต่ล้วนเขียนบอกเขียนเล่าไปแล้ว

จะมาเล่าซ้ำก็เกรงอกเกรงใจเสียเหลือแล้ว กลัวท่านทั้งหลายจะเลิกอดทนว่าหมอนี่หากินง่ายๆ ไม่ยอมเลิกรา

เอาอย่างนี้ก็แล้วกันเอาความรู้ที่ได้ไปพบพานมาเล่าสู่กันฟัง"

ในมื้ออาหารของคนยุคนี้ บนโต๊ะเริ่มจะเห็นแก้วไวน์มากขึ้น

เมื่อก่อนจะเห็นแต่เหล้า แต่เบียร์ ช่วงหลังคนไทยเรานิยมดื่มไวน์กันมากขึ้น

มันเป็นเรื่องของเหตุและผลพอสมควร

คนเราไม่ว่าชาติไหนชอบที่จะแสดงออกถึงรสนิยมที่ดี

ไวน์แต่ก่อนนั้นคนจะดื่มมักเป็นผู้มีฐานะ หรือมีสังคมในชนชั้นสูง

ร้านอาหารเมื่อก่อน ที่จะมีแก้วไวน์ ซึ่งเป็นแก้วมีก้านหาได้น้อย เจ้าของร้านไม่รู้จักเสียด้วยซ้ำว่าแก้วไวน์เป็นยังไง

แต่เดี๋ยวนี้ร้านข้าวต้มกุ๊ยบางร้านยังมี

แสดงถึงคนดื่มไวน์เดินเข้าหารสนิยมไวน์กันแน่นหนามากขึ้น

เมื่อเป็นอย่างนี้ไวน์เลยหาดื่มได้ง่าย เมื่อหาง่ายคนดื่มยิ่งมากขึ้น

เลยเห็นคนดื่มไวน์กันทั่ว ไวน์กลายเป็นเครื่องดื่มที่คนยุคนี้รู้จักดีขึ้น คนทั่วไปอธิบายกันได้ไม่น้อยแล้วว่าไวน์ยี่ห้อ ปีอะไร รสชาติเป็นอย่างไร

ก็ว่ากันไป เที่ยวนี้ไปเปิดหนังสือเจอความรู้เรื่องไวน์ที่น่าสนใจ

หนังสือเรื่อง "รู้สู้โรค" ที่ "ศ.นพ.เฉลียว ปิยะชน" เป็นผู้เขียนหนังสือเล่มนี้พิมพ์นานแล้วโดยสำนักพิมพ์สุขภาพใจ

ตอนหนึ่งของหนังสือให้ข้อมูลเรื่อง "เหล้าองุ่นแดงหรือขาวอย่างไหนดี"

ความเก่าของข้อมูลยังเรียกไวน์ว่าเหล้าองุ่นอยู่ อาจจะเป็นเพราะช่วงนั้นคนไทยเรายังไม่ชินกับคำว่า ไวน์ แต่รู้จักเหล้าองุ่น

อย่างนี้ครับ "คุณหมอเฉลียว" ให้ข้อมูลไว้โดยสรุปว่า

เหล้าองุ่นแดง ทำโดยนำผลองุ่นมาบดและหมัก แอลกอฮอล์ที่เกิดขึ้นจะละลายกลุ่มสารแอนโธไซยานิดินออกมา เมื่อบ่มได้ที่แล้วจึงแยกกากออก ได้เป็นไวน์แดง ซึ่งทำให้มีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณและประสิทธิภาพสูง

ส่วนเหล้าองุ่นขาวหรือไวน์ขาว นำองุ่นมาบดแล้วแยกกากออกก่อนหมักทำให้มีสารต้านอนุมูลอิสระต่ำ

ไวน์แดงจึงมีผลดีต่อสุขภาพมากกว่าไวน์ขาว

ยังมีข้อมูลลึกลงไปอีกว่า จากการศึกษาและทดลอง ไวน์แดงที่ผลิตจากองุ่นขาว หรือเขียว ให้สารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าไวน์แดงที่ผลิตจากองุ่นแดง

จากการวิจัยทางระบาดวิทยาในคนวัยกลางคนที่อาศัยในประเทศฝรั่งเศส คนที่ดื่มไวน์ 2-3 แก้วต่อวัน ทำให้อัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุลดลง 30%

เสียชีวิตจากโรคหัวใจลดลง 35% จากมะเร็ง 24%

แต่ว่าเมื่อดื่มเกิน 4 แก้วต่อวัน จะมีผลเสียตามมาคืออัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งตับ และโรคตับ เพิ่มขึ้น

เป็นข้อมูลของฝรั่งเศสครับ

สำหรับพี่ไทยเรา ดื่มไวน์วันละ 2-3 แก้ว เป็นเรื่องเห็นได้ยาก มีอยู่ 2 อย่าง คือไม่ดื่มเลย หรือดื่มกันเป็นขวด หรือหลายขวด

ไม่เมาไม่เลิก คือนักดื่มไทย

ก็เลยไม่รู้ว่าข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หรือไม่

หน้า 15 มติชนรายวัน ฉบับวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2557

คอลัมน์ หิวหรืออิ่มก็ยิ้มพอกัน โดย พัชรพน