ภาษากาย ทำไมฮิต (จัง)
การเมืองไทย 3 เดือนที่ผ่านมา ใครติดตามเป็นอันได้ "โบว์ติดคิ้ว" ทั่วกัน ท่องไปในอินเตอร์เน็ตเหลี่ยวซ้ายแลขวาหนีไม่พ้นคำว่า "กปปส.-เลือกตั้ง"
แต่เอ๊ะ! ทำไมการเมืองกลับสร้างรอยยิ้มและเรียกเสียงหัวเราะ
เปิดไปหลายกระทู้รวบรวมจากหลายบล็อกเจอภาพ "2 บุคคลทรงอิทธิพล" (ในขณะนี้) ที่เรียกรอยยิ้มและแรงกระหน่ำไลค์จากนักท่องโลกโซเชียล ผ่านสัญลักษณ์ "ภาษากาย" แค่เห็นก็ "ฮากระจาย"
ฮิตมากคนแรกเป็นใครไม่ได้คือ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ปฏิบัติหน้าที่ รมว.คมนาคม โจษจันไปทั่วอินเตอร์เน็ตกับภาพชายร่างกำยำใส่เสื้อแขนกุดสีดำหิ้วถุงพลาสติกเดินเท้าเปล่าหน้าตานิ่งเฉยเข้าวัดไปตักบาตร สลัดภาพลักษณ์รัฐมนตรีต้องใส่สูทผูกเนกไท แต่เข้าถึงใจและเรียกร้อยยิ้มจากประชาชนแบบสุดๆ
จนนำมาซึ่ง "คอสเพลย์ชัชชาติ" ที่ถูกนำมาเลียนแบบถือถุงแกงเดินเท้าเปล่าให้เกลื่อนโลกออนไลน์ ไม่นับภาพของทั่นชัชชาติเอง ถูกนำมาตัดต่อหลายรูปแบบ ทั้งชัชชาติในชุดซุปเปอร์แมน ชัชชาติในชุดเสื้อคอจีนอวยพรตรุษจีน หรือชัชชาติในกิมมิครณรงค์ "ยืดอก พกถุง" เห็นกี่รูปก็ "ฮาเวอร์" 555+
ล่าสุดกับภาพ "ชัชชาติขี่จักรยานไปใช้สิทธิ" ทายได้เลยว่า ภาพนี้จะเป็นกระแสฮิตติดลมบนไม่แพ้ภาพหิ้วถุงพลาสติกเดินเท้าเปล่าเข้าวัด ชัวร์!
คนที่สองควันหลงการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา "ป้าไฟฉาย" หรือ ป้าแดง-พิจาริณี รัตนชำนอง ในวัย 50 ปี ประกอบอาชีพค้าขาย สร้างแรงกระเพื่อมสิทธิและเสรีภาพไม่น้อย
ชาวเน็ตหัวครีเอตเลยนำป้าแดงมาตัดต่อภาพเทียบชั้นกับเทพีเสรีภาพเป็น "เทพีเสรีป้า" (ฮา) เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์แห่งสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยของไทย
บอกเลยว่า รูปเทพีเสรีป้ารูปเดียว เอาความฮาอยู่ชนิดที่ต้อง "ขำกร๊ากกกก" ออกมาน้ำตาเล็ดน้ำตาไหล
จนนำมาซึ่งการเลียนแบบที่ ณ ชั่วโมงนี้ กลายเป็น "ท่าฮิต" เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้อีกหนึ่งท่า
หมอแอร์-พ.ต.ท.หญิง อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะจิตแพทย์ทั่วไป เผยว่าถึงคนไทยจะมีความเครียดจากปัญหาการเมืองยืดเยื้อ เศรษฐกิจตกต่ำ แต่ความเป็นคนไทยในความเครียดเรายังมีความขบขัน การตัดแต่งรูปภาพการเมืองเหล่านี้ สะท้อนถึงความตลกขบขันเพื่อความผ่อนคลาย
ขณะที่ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เผยว่า คนไทยมีพื้นฐานอารมณ์ดี แม้จะเคร่งเครียดแค่ไหน ก็สามารถหาเรื่องคลายเครียดมาเรียกเสียงหัวเราะได้
"เรื่องนี้หากมองในแง่ดีการดูรูปภาพแล้วทำให้เกิดอารมณ์ขัน ผ่อนคลายจากความเครียด จะช่วยให้เรามองอะไรเป็นบวกได้ ซึ่งถือเป็นกลไกทางจิตที่ดี แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ หากตลกขบขันเกิดจากการล้อเลียน ประชดประชัน เหยียดหยาม นี่จะเป็นการถอยหลังยาวของจิตใจ ซึ่งจะทำให้คนนั้นมีอารมณ์ครอบงำ กล่าวโทษผู้อื่นอย่างไร้เหตุผล"
จากนั้น พญ.อัมพรก็วิเคราะห์ "ท่าฮิต" ทั้ง 2 ท่าที่กำลังดังอยู่ตอนนี้ว่า
"ทั้ง 2 คนมีอะไรหลายอย่างเป็นจุดเด่นเหมือนกัน โดยเฉพาะท่าทางภาษากายที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่ง ′ไหล่ตรง-หน้าตั้ง′ สีหน้าแววตามีพลัง"
อีกทั้งเบื้องหลังแนวคิดของทั้งคู่ก็มีจุดเด่นเป็นของตัวเอง
"ในส่วนของนายชัชชาติได้ถ่ายทอดเอกลักษณ์ออกมาให้เห็นไม่ว่าจะมีกระแสเป็นอย่างไร ก็จะทุ่มเททำงานต่อไป ขณะที่ป้าแดงก็เช่นกัน ได้ถ่ายทอดเอกลักษณ์ว่าเป็นคนมุ่งมั่นที่จะไป ยังไงก็จะไปเลือกตั้ง โดยไม่สนสภาพแวดล้อม เมื่อเบื้องหลังภาพมีเรื่องราว จึงทำให้ทั้งสองภาพดูมีพลัง
"และสำคัญที่สุดคือจังหวะในการปรากฏภาพต่อเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งสองคนโดนใจผู้คนที่พบเห็น นำไปทำเลียนแบบต่อๆ กัน"
นอกจากนี้ พญ.อัมพรยังกล่าวถึงภาษากายของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ที่มีภาษากายเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเช่นกัน
"จริงๆ ยังมีคนที่ถ่ายทอดภาษากายที่เป็นเอกลักษณ์คนหนึ่งคือนายสุเทพ แม้เอกลักษณ์จะไม่ขำ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังในท่าทางชูกำปั้นทั้งสองและแหงนหน้าขึ้นฟ้า ตอกย้ำภาพลักษณ์สู้ไม่ถอย เห็นบ่อยครั้งในการเดินขบวน"
ภาพหนึ่งภาพแทนคำพูดได้ล้านคำ
ที่มา นสพ.มติชน