"เอ็นเซลาดุส" แหล่งชีวิตนอกโลก?

"เอ็นเซลาดุส" แหล่งชีวิตนอกโลก?

"เอ็นเซลาดุส" แหล่งชีวิตนอกโลก?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานชี้ชัดแล้วว่า "เอ็นเซลาดุส" ดวงจันทร์ขนาดเล็กที่เป็นดาวบริวารของดาวเสาร์ มีมหาสมุทรที่คงสภาพเป็นของเหลวอยู่ภายใต้เปลือกนอกที่เป็นน้ำแข็ง ส่งผลให้ดาวบริวารของดาวเสาร์ดวงนี้กลายเป็นตัวเก็งอันดับแรกสุด ที่มนุษย์อาจค้นพบสิ่งมีชีวิตนอกเหนือไปจากสิ่งมีชีวิตบนพื้นโลกแล้ว

เอ็นเซลาดุส เป็นส่วนหนึ่งของระบบสุริยจักรวาลส่วนนอก ได้สมญาว่าเป็นดาว "พิลึก" หลังจากที่ "คาสซินี" ยานสำรวจดาวเสาร์ขององค์การบริหารการบินอวกาศแห่งชาติ (นาซา) ของสหรัฐอเมริกาตรวจสอบลำน้ำพุพวยพุ่งขึ้นสู่ห้วงอวกาศจากพื้นผิวที่เป็นน้ำแข็งของมันเมื่อปี 2005 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าดวงจันทร์ของดาวเสาร์ที่มีขนาดประมาณ 1 ใน 7 ของดวงจันทร์ที่เป็นบริวารของโลกดวงนี้ จริงๆ แล้วมีสภาวะทางภูมิศาสตร์ที่ไม่ได้นิ่งสนิทอย่างที่เคยคิดกัน

เมื่อคาสซินีที่โคจรอยู่โดยรอบดาวเสาร์มีโอกาสได้สำรวจและถ่ายภาพเอ็นเซลาดุสมากครั้งขึ้น ผลการตรวจสอบแสดงให้เห็นชัดเจนว่ามีรอยแตกขนาดใหญ่ บริเวณเปลือกนอกของพื้นผิวด้านขั้วใต้ซึ่งถูกขนานนามว่า "ไทเกอร์สตริปส์" คาสซินียังเคยบินผ่านน้ำพุร้อนที่พวยพุ่งขึ้นสู่อวกาศของมันเพื่อเก็บตัวอย่างมาตรวจสอบองค์ประกอบของน้ำพุร้อนดังกล่าว

ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์ยังไม่รู้แน่ชัดว่า น้ำพุร้อนดังกล่าวเกิดจากแหล่งน้ำที่คงสภาพเป็นของเหลวอยู่ใต้เปลือกนอกที่เป็นน้ำแข็งของมัน หรือเกิดจากการที่แผ่นน้ำแข็งที่ประกอบขึ้นเป็นเปลือกนอกของเอ็นเซลาดุสเสียดสีซึ่งกันและกันแล้วสะสมความร้อนจนกลายสภาพเป็นของเหลวแล้วพวยพุ่งขึ้นมา อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์เชื่้อว่า แนวโน้มที่ว่า ภายใต้เปลือกน้ำแข็งหนาของเอ็นเซลาดุสมีน้ำที่คงสภาพเป็นของเหลวอยู่น่าจะมีน้ำหนักมากกว่า

ลูเซียโน ไอเอสส์ นักดาราศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยซาปีเอนซา ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ระบุว่า ก่อนหน้าที่จะมีหลักฐานชี้ชัดจากคาสซินี นักวิทยาศาสตร์หลายคนก็เชื่อกันอยู่ก่อนแล้วว่าน่าจะมีน้ำในสภาพของเหลวบนเอ็นเซลาดุส แต่มีปัญหาในเรื่องปริมาณว่า เป็นแหล่งน้ำเพียงตื้นๆ หรือมีมวลน้ำมหาศาลกันแน่ แต่ข้อมูลจากคาสซินี ชี้ให้เห็นว่า มหาสมุทรบนเอ็นเซลาดุสนั้นมีมวลพอๆ กับมวลน้ำในทะเลสาบสุพีเรียของสหรัฐอเมริกา มีความลึกราวๆ 9.6 กิโลเมตร ซึ่งใกล้เคียงกับความลึกตรงจุดที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรบนโลก

นักวิทยาศาสตร์พบว่า ขณะที่คาสซินีโคจรเฉียดผ่านพื้นผิวของดาวบริวารของดาวเสาร์ดวงนี้ในระยะใกล้ คือในระยะห่างเพียง 100 กิโลเมตรนั้น แรงโน้มถ่วงของเอ็นเซลาดุสที่มีต่อคาสซินี ไม่สม่ำเสมอกันตลอดระยะทาง โดยจะมีแรงโน้มถ่วงบริเวณใกล้กับขั้วใต้มากกว่าบริเวณอื่นๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในบริเวณดังกล่าวมีแหล่งน้ำในสภาพของเหลวอยู่ภายใต้เปลือกนอกที่เป็นน้ำแข็งตลอดเวลาและมีความหนาไม่น้อยกว่า 32 กิโลเมตร

ข้อเท็จจริงที่ว่า มวลของน้ำในสภาพของเหลวมีมวลหนาแน่นกว่ามวลของน้ำในสภาพที่เป็นน้ำแข็งนั่นเองที่ส่งผลให้มีแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อคาสซินีสูงกว่าพื้นที่บริเวณอื่นที่เป็นพื้นผิวน้ำแข็ง

จากการพล็อตแผนที่กับสภาวะแรงโน้มถ่วงดังกล่าว นักวิทยาศาสตร์พบว่า มหาสมุทรของเหลวบนเอ็นเซลาดุสอาจกินอาณาบริเวณเกินเส้นละติจูดที่ 50 ไปทางใต้ด้วยซ้ำไป และทำให้มีโอกาสมากที่สุดที่มันจะกลายเป็นแหล่งมีสิ่งมีชีวิตนอกเหนือจากโลก

เป็นความเป็นไปได้สูงชนิดที่นักวิทยาศาสตร์ในทีมคาสซินีเชื่อว่า ถ้าหากเจาะจงต้องการหาสิ่งมีชีวิตนอกโลกแล้ว

ที่นี่คือสถานที่ที่มนุษย์ควรไปตรวจสอบมากที่สุด!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook