วัยทีนแห่ทำศัลยกรรม อายุเฉลี่ยลดลงเรื่อย ๆ

วัยทีนแห่ทำศัลยกรรม อายุเฉลี่ยลดลงเรื่อย ๆ

วัยทีนแห่ทำศัลยกรรม อายุเฉลี่ยลดลงเรื่อย ๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นับวันธุรกิจศัลยกรรมดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติของสังคมยุคใหม่และได้รับความ นิยมมากเรื่อย ๆ เดิมทีในอดีตการศัลยกรรมเป็นเรื่องที่ไกลตัวและมักจะถูกนำมาใช้เพื่อแก้ไข ความผิดปกติทางร่างกายเท่านั้น แต่ในปัจจุบันดูเหมือนว่าจุดประสงค์หลักของผู้บริโภคส่วนใหญ่ของการทำ ศัลยกรรมคือการมุ่งเน้นไปที่ศัลยกรรมเพื่อความงามเป็นหลัก อาทิ การแต่ง/เสริม/เติม/ตัด ลดน้ำหนัก กระชับรูปร่าง ผิวสวยใส ไปจนถึงศาสตร์แห่งการชะลอวัย เป็นต้น

มีการคาดการณ์ว่าทุกวันนี้แวด วงธุรกิจดังกล่าวนั้นมีเม็ดเงินหมุนเวียนถึงระดับหมื่นล้านบาท โดยกลุ่มผู้ที่มาใช้บริการศัลยกรรมความงามก็ได้ขยับขยายกว้างขึ้นตามไปด้วย ทั้งในเรื่องของเพศและวัย

จากการสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญพบว่าจากเดิม ที่ผู้หญิงจะเป็นผู้ครองตลาดความงาม แต่ ณ ปัจจุบันสัดส่วนของเพศที่มาใช้บริการสถานเสริมความงามแบ่งตลาดกันเกือบครึ่ง ต่อครึ่งเลยทีเดียว เนื่องจากเพศชายเริ่มให้ความสนใจกับการดูแลตนเองมากขึ้น ในขณะที่อายุของผู้ที่มาใช้บริการนั้นจากเดิมคือ ช่วงอายุในวัยทำงานขึ้นไป ก็ได้ขยับฐานอายุลงมาเป็นกลุ่มนักศึกษา จนกระทั่งกลุ่มนักเรียนก็มี และที่สำคัญกลุ่มช่วงอายุดังกล่าวดูเหมือนจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ

จาก การลงพื้นที่เก็บข้อมูลจากกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวจึงพบว่า ส่วนใหญ่มีความคิดเห็นที่ตรงกันว่าการเข้ามาใช้บริการสถานเสริมความงาม หรือแม้แต่การทำศัลยกรรมความงามตั้งแต่วัยเด็ก นั้นเป็นเรื่องปกติและสามารถทำได้หากอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากผลลัพท์ที่นอกเหนือจากความสวยงามแล้ว ยังเป็นเรื่องของการเสริมสร้างความมั่นใจในตัวบุคคลอีกด้วย

ในขณะที่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่าง พ.ญ.ดารินทร์ ม่วงไทย ผู้บริหาร The Sib Clinic แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรม ได้ให้ความเห็นถึงเรื่องดังกล่าวว่า ในปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มวัยทำงาน หากแต่มีบางรายก็เป็นวัยรุ่นบ้าง ส่วนใหญ่แล้วผู้มาใช้บริการที่มีเกณฑ์อายุน้อย ๆ ก็จะดูแลในเรื่องของผิวพรรณเป็นหลัก แต่ก็มีบางรายที่มาทำศัลยกรรมความงาม อาทิ เสริมจมูกหรือดูดไขมัน แต่ก็ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองเสียก่อน เนื่องจากเราต้องทำความเข้าใจว่าในการทำศัลยกรรมทุกประเภทมีความเสี่ยง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์การทำงานเข้ามา ดูแล ต้องมีการตรวจร่างกาย ตรวจโรคประจำตัว ประกอบกับการที่เครื่องไม้เครื่องมือ และเทคโนโลยีในปัจจุบันก็ทันสมัยปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือการระมัดระวังถึงความปลอดภัยต่อผู้ที่เข้ามาใช้บริการทุก ราย นั่นจึงจะสามารถลดความเสี่ยงเหล่านั้นลงได้

เห็นอย่างนี้แล้ว ผู้ที่กำลังสนใจในด้านศัลยกรรมความงามคงจะใจชื้นขึ้นมาบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม หากตัดสินใจที่จะทำแล้ว อย่าลืมคำนึงถึงองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย โดยเฉพาะฝีมือแพทย์ ซึ่งนั่นจะเป็นเครื่องยืนยันได้ดีในระดับหนึ่งถึงความปลอดภัย หากเป็นพวกหมอกระเป๋า...ขอแนะนำให้ลืมไปได้เลย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook