จี๊ด! "อั้ม เนโกะ" วิจารณ์สอบ U-NET เปรียบ "การศึกษาไทย" เหมือนตู้เย็นแช่ของเน่า
นายศรัณย์ ฉุยฉาย หรือ "อั้ม เนโกะ" สาวประเภท 2 นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผย เตรียมร่วมกลุ่มคัดค้านการสอบ U-NET ซึ่งสำนักงานทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทศ. เตรียมนำมาใช้สอบผู้ที่กำลังจะจบปริญญาตรีหลังภาคการศึกษาปีพ.ศ. 2557 ชี้การสอบไม่มีความจำเป็นในสังคมและถือเป็นการรวมศูนย์องค์ความรู้โดยไม่คำนึงถึงความหลากหลาย
กระแสการต่อต้านการสอบU-NETในช่วงปลายเดือนเมษายน มีนักศึกษาไม่เห็นด้วยกับการตั้งการทดสอบครั้งนี้และจัดตั้งเพจ "ต่อต้านการสอบ U-Net จากสทศ." ในเว็บไซต์เฟซบุ๊ค โดยมีการล่ารายชื่อผู้คัดค้านการสอบ 50,000 รายชื่อเพื่อนำไปยื่นคัดค้าน
จากกรณีดังกล่าว อั้ม เนโกะ นักศึกษาที่สร้างวีรกรรมจนเป็นที่วิจารณ์อย่างกว้างขวาง แสดงความคิดเห็นว่า การสอบ U-NET ไม่มีความจำเป็นกับการศึกษาไทย การสอบถือเป็นการรวมศูนย์องค์ความรู้โดยรวม ไม่คำนึงถึงองค์ความรู้อื่นๆในมหาวิทยาลัยซึ่งมีความหลากหลาย
"สทศ.อยากให้เด็กได้คิดได้ประเมินแต่รูปแบบการสอบก็เป็นการผลิตซ้ำปัญหาการออกข้อสอบแบบเดิมๆคือให้เด็กท่องจำแล้วออกสอบตามที่ส่วนกลางกำหนดแทนที่จะทำความเข้าใจปัญหาของระบบการศึกษาและเข้ามาสอบถามระบบการเรียนว่าผู้เรียนมีความต้องการ อยากนำความรู้ที่ตัวเองเรียนมาไปประยุกต์ใช้ต่ออย่างไร เพราะการประสบความสำเร็จของการศึกษาไม่ใช่แค่สอบได้คะแนนสูงสุด แต่จะทำอย่างไรที่จะให้นักศึกษานำความรู้ที่เรียนมาไปใช้ได้ ด้วยเหตุผลนี้จึงต้องออกมาร่วมคัดค้านกับเพื่อนๆอีกหลายคน" นายศรันย์ กล่าวถึงที่มาของการคัดค้าน
นายศรันย์ ยังแสดงความคิดเห็นว่า มาตรฐานการสอบของสทศ.ยังถูกตั้งคำถามจากประเด็นปัญหาการออกข้อสอบที่ผ่านมา และวันนี้ก็ยังมายัดเยียดบรรทัดฐานให้เด็กที่มีความหลากหลายเป็นอย่างที่ฝ่ายสทศ.อยากให้เป็น คิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ อั้ม เนโกะ เปิดเผยว่า อั้ม มีแนวโน้มจบการศึกษาในปี 2557 ซึ่งจะเป็นปีแรกที่สทศ. จะทดลองใช้โดยการไม่บังคับ อั้ม เนโกะ ยังแสดงความคิดเห็นว่า สทศ.จะใช้เงินภาษีประชาชนออกข้อสอบมา แล้วจะบอกว่าถ้าไม่สอบก็ไม่เป็นไร แต่จะพลาดโอกาสในการพิจารณาจากบริษัทซึ่งอาจมีการล็อบบี้แล้วว่าอยากให้ใช้ผลกลางของสทศ.เป็นเกณฑ์ในการรับทำงานซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของนักศึกษาที่กำลังจบการศึกษา
"การสอบจะสร้างบรรทัดฐานในปีต่อไปรุ่นหลังๆจะเหมือนเป็นแกมบังคับให้ตัวเองต้องสอบเด็กต้องจ่ายเงินเรียนเพื่อสอบหลายอย่าง เห็นได้ชัดว่าสทศ.ไม่มีความเข้าใจในปัญหาการศึกษาไทยว่า เราเรียนเพื่อที่จะมาสอบ"
"อั้ม เนโกะ" ยังแสดงความคิดเห็นถึงปัญหาระบบการศึกษาไทยต่ออีกว่า "เราไม่ได้เรียนรู้ปัญหา คือ ระบบการศึกษาไทยเหมือนตู้เย็นที่แช่แข็งของเอาไว้แล้วก็เน่าอยู่อย่างนั้น เน่าแล้วไม่พอ ก็พยายามยัดเพิ่ม ไปดองกันไว้ในตู้เย็น พอดองกันมากๆจากที่เน่ากระจุกเดียวก็เน่าทั้งตู้เย็น ระบบการศึกษาไทยก็แช่แข็ง สิ่งที่จะบอกคือ มันเป็นเพราะเรากำลังแช่แข็งระบบความคิดของเด็ก มองว่าเด็กต้องผ่านตัวประเมิน ได้คะแนนเท่าไหร่จึงผ่าน ทั้งที่จริงๆแล้วการวัดประเมินคุณภาพการศึกษาต้องวัดด้านอื่นควบคู่กันด้วย ไม่ใช่ว่าจะทำข้อสอบอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วจะบอกว่าเด็กฉลาด"
"เด็กอาจมีทักษะฉลาดด้านอื่นแต่สทศ.เหมือนพยายามคลุมอะไรบางอย่างให้เราต้องอยู่ในบรรทัดฐานอย่างเดียวกับที่ทางรัฐไทยอยากให้เด็กรู้แทนที่จะให้เด็กต่อยอดองค์ความรู้ต่างๆแต่เรากลับต้องจำแล้วก็ต้องสอบลักษณะข้อสอบก็เห็นได้ว่าท่องจำแล้วสอบ ไม่ได้คิดวิเคราะห์หรือตั้งคำถามกับโจทย์ที่สทศ.มอบให้ สุดท้ายแล้ว ′การศึกษาไทย′ ก็ไม่ได้เรียนรู้อะไรทำให้เด็กไทยไม่ต้องคิดอะไรมากไปกว่าการต้องยอมสยบยอมต่อองค์ความรู้ที่อำนาจรัฐส่วนกลางกำหนดให้ต้องรู้"
อั้มเนโกะยังฝากคำถามอีกว่า อยากให้เด็กไทยตั้งคำถามกับเหตุการณ์เหล่านี้ว่า จริงๆแล้วที่ทำข้อสอบกัน แน่ใจหรือว่าได้คิด ได้ตั้งคำถาม หรือท่องจำแล้วได้คะแนนเยอะตามที่ท่องจำได้ แต่สุดท้ายแล้วคุณไม่ได้คิด ตระหนักรู้ หรือตั้งคำถามต่อองค์ความรู้ที่เรียนมาตลอดทั้งชีวิต
สำหรับการเคลื่อนไหวต่อต้านการสอบอั้มเนโกะ เปิดเผยว่า จะร่วมยื่นหนังสือคัดค้านโดยการรวบรวมรายชื่อผ่านทางเพจและเว็บไซต์ พร้อมร่วมมือกับกลุ่มต่างๆ โดยเสนอว่าให้มีการเคลื่อนไหวนอกโลกออนไลน์ที่เป็นรูปธรรมในอนาคต พร้อมกับเรียกร้องให้สทศ. เปิดใจรับฟังความคิดเห็นต่างๆ