"กั้ง วรกร" เดอะสตาร์ ที่ค่อยๆ ก้าว
"กั้งว่ามันเป็นแค่ความสำเร็จในการเข้าวงการ เราแค่พิสูจน์ให้คนเห็น ว่าเรามีสิทธินะที่จะเข้ามา แต่จะอยู่ต่อได้ไหม หรือจะมีแฟนเพลงเยอะไหม ก็อยู่ที่เราแหละว่าจะทำได้ดีขนาดไหนในผลงาน"
กั้ง-วรกร ศิริสรณ์ หนุ่มวัย 20 บอกถึงตำแหน่งแชมป์ "เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว" คนที่ 10 ที่เพิ่งจะได้รับ
ซึ่ง "รู้สึกดีใจมาก"
เพราะเป็นสิ่งที่ฝันมานาน
ทั้งยังสั่งสมประสบการณ์ จากการที่ครอบครัวสนับสนุนให้เรียนร้อง-เต้น ตั้งแต่อายุ 12 โดยมีรายการ "เดอะสตาร์" เป็นเป้าหมาย
เล่าด้วยว่าในครอบครัวเขานั้น คนที่ปลื้มรายการนี้ก่อนคือพ่อ ซึ่งแม้อาชีพหลักจะเป็นนักการทูต แต่ลึกๆ แล้วชอบดนตรีและในยุคนั้นไม่มีเวทีให้แสดงออก ขณะที่แม่ซึ่งเรียนจบด้านนาฏศิลป์ ทั้งยังเคยเป็นนักแสดงอยู่ช่วงหนึ่งก็สนับสนุน
ขณะที่เขาเอง "เริ่มฝัน ตั้งแต่เดอะสตาร์ 3 พอเห็นพี่บี้ (สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) แล้วใช่เลย รู้สึกว่าเวทีนี้ถ้าเรามีโอกาส ถ้าอายุถึงจะไป"
แต่ยังไม่ทันได้ทำตามใจคิด ในช่วงปี 2553 เขากับเพื่อนอีก 5 คนก็ได้ก่อตั้งวง XIS และมีผลงานเพลงกับค่าย กามิกาเซ่ ในเครือ อาร์เอส โดยเขาทำหน้าที่นักร้องเสียงหลักและนักเต้นเสริม ทว่า หลังจากนั้น 3 ปีเมื่อหมดสัญญา สมาชิกวงก็ตัดสินใจแยกย้าย เพราะต่างก็ต้องการตามหาฝัน
"ก่อนจะสมัครผมก็คิดนะ ว่าคนจะคิดไหมว่าเคยเป็นนักร้องมา แล้วไม่ต้อนรับ" กั้งว่าถึงความกังวล
แต่แล้วก็ไม่มีปัญหา
เพราะ "เราเอากระแสตรงนั้นมาทำให้เราพัฒนา คิดว่าถ้าคนให้เราได้อยู่ต่อ เราก็จะพัฒนาให้คนเห็นตลอด นั่นคือสิ่งที่ทำให้กั้งพัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ"
หากกระนั้น "ในมุมของกั้งรู้สึกว่ายังขาดอยู่หลายอย่าง"
"ทุกครั้งที่ไปโชว์ เราแค่โชว์ด้วยความสนุก เหมือนทิ้งความกังวลทั้งหมดออกไป เลยอาจจะดูเหมือนเป็นธรรมชาติ ร้องออกมาจากใจ เต้นออกมาจากใจ ซึ่งมันก็ถูกที่ทำอย่างนั้นตอนโชว์"
"แต่มันน่าจะสามารถทำได้ดีกว่านั้น"
ถ้ามองภาพรวมเต็ม 10 เขาจึงให้คะแนนตัวเองแค่ 6
"คนที่จะเป็นนักร้องที่เก่งได้ต้องใช้ประสบการณ์เพื่อผลักตัวเองไปข้างหน้า อย่างพี่บี้เป็น ไอดอลของกั้งเลย ตอนนี้่พี่เขาเก่งมากๆ แต่ยังพัฒนาตัวเองต่อ มีโอกาสไปเล่นบรอดเวย์ต่อ เขาไม่หยุดที่จะพัฒนา"
"เราเองก็มีความรู้สึกว่าทำผลงานอะไรก็อยากให้มันออกมาดีมากๆ อยากจะพัฒนาไปเรื่อยๆ"
"เหมือนบทเพลงนี้เป็นเพลงแรกของเรา เพลงต่อไปก็ต้องเป็นเพลงที่ฟังดูยากขึ้น เก่งขึ้น"
"เพราะยังไงก็อยากเป็นนักร้อง ไม่ใช่แดนเซอร์" คนที่ถูกมองมาตลอดว่าเต้นเก่งกว่าร้องบอกยิ้มๆ
ก่อนจะว่า "พี่ๆ เดอะสตาร์แต่ละคนเก่งมาก อย่างพี่กัน (นภัทร อินทร์ใจเอื้อ) พี่แก้ม (วิชญาณี เปียกลิ่น) เราอาจจะไม่เหมือนพี่เขา เขาเป็นสายร้อง เราเป็นสายเต้น ก็เลยรู้สึกกดดันนิดหน่อย แต่ก็เอาแรงกดดันตรงนั้นมาเป็นแพสชั่น"
ดังนั้นคำว่า "พรแสวง" น่าจะเหมาะกับเขามากกว่าคำว่า "พรสวรรค์"
"เราเริ่มจากการชอบ พอชอบอะไรก็ซ้อมไปเรื่อยๆ ไม่ใช่มาปุ๊บเต้นได้เลย ร้องได้เลย ถามว่าซ้อมเยอะไหม เยอะมาก พยายามมากๆ"
ไม่ต่ำกว่า 7-8 ปีละ เขาว่า
เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของเขาแล้วอดถามไม่ได้ว่าปกติแล้วเป็นคนมุ่งมั่นอย่างนี้กับทุกเรื่องไหม เขาส่ายหน้าแล้วหัวเราะ
"เฉพาะเรื่องที่ชอบ"
ก็อย่างเช่นเรื่องร้อง เรื่องเต้น เล่นเกม ซึ่งเป็นสิ่งที่เพื่อนในบ้านเดอะสตาร์ต่างรู้ดีพอๆ กับนิสัยขี้แกล้งและชอบแซวของเขา
ขณะที่เรื่องเรียน "จะเป็นช่วงๆ เรารู้สึกว่าตอนนี้เกรดตกก็พยายามทำเต็มที่" นิสิตชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาภาษาและวัฒนธรรม (หลักสูตรนานาชาติ) คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ฯ บอก
และด้วยความที่ "กั้งจะเป็นคนที่ไม่ฝันอะไรที่เป็นไปไม่ได้ อย่างตอนนี้แค่ฝันว่าจะร้องเพลงให้ดีมากๆ ก่อน ขอเต้นให้ดีขึ้นกว่านี้"
เป้าหมายต่อไปเขาจึงมองสั้นๆ โดยแค่อยากทำผลงานแรกอย่างอัลบั้ม "10 Years of Love" ที่รวมเดอะสตาร์จาก 10 รุ่น จำนวน 50 คนมาไว้ ก่อนจะขึ้นโชว์พร้อมกันใน "10 Years of Love the star in concert" ที่จะมีวันที่ 28-29 มิ.ย. ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ให้ออกมาดีที่สุด
"อยากขอบคุณแฟนๆ ที่ให้ตำแหน่งนี้กับเรา ให้โอกาสเรา กั้งจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง"
ขณะที่ "เรื่องความดังแล้วแต่คน แล้วแต่ผลงาน"
"ตอนนี้เรายังไม่มีผลงาน อื่นๆ ให้เห็น ก็ทำตรงนี้ให้เต็มที่ก่อน"
แล้วก้าวต่อๆ ไปค่อยมาว่ากัน